วอชด็อกฟันธง อุ้มฆ่า "เตี้ย มช." เชื่อทำเป็นขบวนการ | คมชัดลึก

 

จากกรณีการตายของพี่ เตี้ย มช. สุนัขที่อาศัยอยู่ในมหาวิทยาลัยเชียงใหม่นั้น ความคืบหน้าจากเพจ "มูลนิธิวอชด็อก ไทยแลนด์ Watchdog Thailand - WDT" ได้โพสต์ข้อความล่าสุด เมื่อเวลาประมาณ 10.30 น. ของวันที่ 18 พฤษภาคม 2563 ในโพสต์ระบุข้อความว่า

 

พี่เตี้ยพี่เตี้ยเอย ในที่สุด พี่ก็ช่วยเราให้ความจริงเปิดโปงออกมาเอง WDT ฟันธง แผนอุ้มฆ่าพี่เตี้ย มช. มีมากกว่าหนึ่งคน และทำเป็นขบวนการ มั่นใจมีการนัดแนะวางแผนล่วงหน้า สงสัยขบวนการคนเกลียดเตี้ย ไปได้ทั้งร่วมกันกระทำเองและการว่าจ้างเตรียมปิดห้องสอบสวนเครียด

 

วันนี้ 18 พฤษภาคม 2563 พร้อมผู้บังคับบัญชาของผู้ต้องหา #ยัน หยุดโกหก ว่าทำคนเดียวและเป็นอุบัติเหตุพร้อมให้เปิดปากข้อเท็จจริงออกมาให้หมด#ภาพกล้องวงจรปิดชัด ภาพรับเตี้ยขึ้นรถ กับภาพขี่รถมอเตอร์ไซค์พาออกนอก มช. เป็นคนละคนกัน เสื้อผ้าคนละชุด คนละสี #ประชาชนคนรักสัตว์ช่วยกันตรวจสอบสังเกตกล้องวงจรปิดชัดว่า คนรับเตี้ยขึ้นรถที่อ่างแก้ว กับคนที่ขับรถพาเตี้ยออกจากประตูหน้ามอ ใส่เสื้อผ้าคนละชุดกัน

 

อ่านข่าว เจอตัวแล้วใครเป็นคนพาพี่เตี้ยออกไปจาก มช. รับสารภาพชัดขี่รถทับพี่เตี้ยตาย

 

 

ขณะที่ผู้ต้องสงสัยให้ปากคำกับ WDT และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ช้างเผือก เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2563 ว่าเป็นการกระทำของตนแต่เพียงผู้เดียวและเป็นอุบัติเหตุ ตั้งแต่รับเตี้ยขึ้นรถในเวลา 20.34 คืนวันที่ 3 พฤษภาคม 2563 พาออกไปทางประตูหน้ามอ แล้วเลี้ยวยูเทิร์นเข้าซอยพระนางข้างเทคโนเชิงดอย ซึ่งเป็นซอยเปลี่ยวแคบและมืด โดยอ้างว่า สงสาร เลยอยากพาขึ้นรถเที่ยว พาไปเที่ยวตอน 20.30 พาออกไป ทั้งๆที่เผลอพูดเองว่า รู้ดีว่าพี่อยู่ในระหว่างเวลาปรับพฤติกรรม

 

โดยแอดมินและคณะกรรมการผู้ดูแล ผู้ครอบครอง ขอร้องสมาชิกแฟนคลับของพี่ช่วยให้ความร่วมมือโปรดอย่ารับพี่ขึ้นรถ #ประชาชนแห่ให้ข้อมูล หลัง WDT ร้องขอความช่วยเหลือร่วมมือจากประชาชนในพื้นที่ที่พบเห็นเหตุการณ์ไม่ปกติในคืนนั้น ระบุตอนที่คนร้ายพาเตี้ยมา สวนกลับรถแกร็บที่มาส่งอาหาร คนร้ายจึงขี่ผ่านไปก่อนในซอยที่ทั้งแคบและมืด

 

เมื่อดูกล้องวงจรปิดอีกครั้งเวลา 20.36 สวนกับรถแกร็บตอน 20.40 มีเสียงปืนดังสี่นัด ตอน 20.50 และมีคนร้ายขับรถผ่านหน้าบ้าน ผลการสอบสวนเมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2563 ขัดแย้งกับผลชันสูตรโดยละเอียด ของศูนย์ชันสูตรโรคสัตว์ โรงพยาบาลสัตว์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ที่ระบุว่า "พบแผลถลอกของผิวหนังบริเวณหลัง ปลายขาหลัง และส่วนโคนของหาง ชั้นใต้ผิวหนังบริเวณดังกล่าวพบการคั่งเลือดและการบวมน้ำ #บริเวณต้นคอมีแผลหลุมขนาดเส้นผ่านศูนย์กลา 0.5 ซม. #ลึกประมาณ 1 เซนติเมตร #จำนวน 4 แผล

 

 

 

ติดตามผลการทวงถามความยุติธรรมและการสอบสวนเครียดอย่างเข้มข้นของ WDT และทีมเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนและสอบสวน สภ.ช้างเผือก วันนี้ครับ #พี่คงนอนหายใจรวยรินรอความตายอย่างโดดเดี่ยวกว่าจะสิ้นใจ #ต้องทนทุกข์ทรมานกับความเจ็บปวดจากการถูกกระทำย่ำยีอย่างโหดเหี้ยมสิ้นปรานี #บนกองขยะในซอยเปลี่ยวที่มืดมิดขอดวงวิญญาณบริสุทธิ์ของพี่ เป็นกำลังใจให้ WDT เจ้าหน้าที่รัฐทุกหน่วยงานและประชาชนทั้งประเทศเรียกร้องความยุติธรรมมาให้พี่ให้ได้นะติดตามครับ

 

 

ขณะที่ พ.ต.ท.จักรี วงค์คำ รอง ผกก.(สอบสวน)สภ.ช้างเผือก เชียงใหม่ เปิดเผยว่า จากการสอบถามผู้ต้องสงสัย ตามภาพจากกล้องวงจรปิดที่ได้มานั้น ได้ให้การรับสารภาพว่านำ เตี้ย มช. ออกไปจากพื้นที่จริง และได้เกิดอุบัติเหตุจนตาย และนำซากไปทิ้งไว้ป่าข้างทาง ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังรวบรวมพยานหลักฐานโดยนำรถของผู้ต้องสงสัยมาพิสูจน์หลักฐาน โดยการจำลองเหตุการณ์ว่ามีความเป็นไปได้หรือไม่ ที่ผู้ต้องสงสัยให้การว่า เตี้ย มช. กระโดดลงจากรถทำให้ล้อหลังทับเสียชีวิต ขณะนี้ยังไม่มีการแจ้งข้อหากับผู้ต้องสงสัย

 

 

กรณีเช่นนี้ต้องหาเจ้าของมาแสดงตัวเป็นเจ้าของ ขณะนี้มีเพียงมูลนิธิวอชด็อก ไทยแลนด์ เท่านั้นที่เข้ามาดำเนินการเกี่ยวกับรูปคดี อย่างไรก็ตามหากจะแจ้งความกรณีลักทรัพย์ต้องแจ้งในพื้นที่ของ สถานีตำรวจภูธรภูพิงค์ราชนิเวศ เจ้าของท้องที่ ส่วนซากของ เตี้ย มช. พบในพื้นที่ของสถานีตำรวจภูธรช้างเผือก การแจ้งความลักทรัพย์ต้องมีเจ้าของยืนยันชัดเจน

 

 

ส่วนการดำเนินคดีนั้น หากผู้กระทำความผิดเป็นข้าราชการนั้นขึ้นอยู่กับผู้บังคับบัญชาว่าจะมีบทลงโทษอย่างไร ส่วนทางคดีอาญาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการไปตามรูปคดีที่เกิดขึ้น ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการสอบสวนขยายผล ขณะนี้กำลังเร่งดำเนินการสอบสวน หาพยานหลักฐานเพิ่มเติม

 

 

-----------------------------------------

โดย นิศานาถ กังวาลวงศ์ จ.เชียงใหม่