ข่าว

 ย้อนไทม์ไลน์ 1 ปี 21 วัน  ปิดคดี "น้องชมพู่"

ย้อนไทม์ไลน์ 1 ปี 21 วัน ปิดคดี "น้องชมพู่"

02 มิ.ย. 2564

ย้อนไทม์ไลน์คดี"น้องชมพู่" เด็กหญิงวัย 3 ขวบ ที่เสียชีวิตอย่างปริศนาบนเขาภูเหล็กไฟ ตร.ใช้เวลานานกว่า 1ปี ในการรวบรวมพยานหลักฐาน ขอหมายจับคนร้าย ซึ่งไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นตัวละครที่หลายสงสัยมาตลอด และวันนี้กำลังถูกกระชากหน้ากากทำความจริงให้ปรากฎ

กว่าจะเดินทางมาถึงวันนี้ ต้องใช้เวลานานกว่า 1 ปี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงสามารถรวบรวมพยานหลักฐานสรุปสำนวน ขอศาลอนุมัติหมายจับผู้ต้องหาลงมือฆ่า "น้องชมพู่" แล้วทิ้งร่างของหนูน้อยวัยเพียง 3 ขวบ ไว้บนเขาภูเหล็กไฟ โดยชุดสืบสวน ภายใต้การนำของ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่เคยให้สัมภาษณ์ไว้ว่าคดี"น้องชมพู่"มีคำตอบให้ภายในเดือนมิถุนายน  

แล้วในที่สุด กลางดึกของวันที่ 1 มิถุนายน ก็ปรากฎข่าวการออกหมายจับ "ลุงพล" นายไชย์พล วิภา ลุงเขยของ "น้องชมพู่" นั่นเอง โดยศาลจังหวัดมุกดาหาร อนุมัติหมายจับ "ลุงพล" ใน 3 ข้อหาด้วยกัน ประกอบด้วย 
1. ทอดทิ้งเด็กอายุไม่เกิน  9  ปี เพื่อให้เด็กนั้นพ้นไปจากตน โดยประการที่ทำให้เด็กนั้นปราศจากผู้ดูแล เป็นเหตุให้เด็กถึงแก่ความตาย 
2. ฆ่าผู้อื่น อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 306 , 308
3. กระทำการใดๆ แก่ส หรือ สภาพแวดล้อม ทำให้การชันสูตรพลิกศพ หรือผลทางคดีเปลี่ยนแปลงไป 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :
ด่วน ออกหมายจับ 'ลุงพล' ปิดคดี' น้องชมพู่'

 

ทีมข่าวอาชญากรรม คมชัดลึก ขอสรุป ไทม์ไลน์คดี "น้องชมพู่" ตั้งแต่วันที่ หายตัวไป ดังนี้ 

วันที่ 11 พ.ค.63

"น้องชมพู่"  เด็กหญิง วัย 3 ขวบ หายตัวไปจากบ้านใน อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร  ตั้งแต่ช่วงเช้า โดยก่อนที่จะรู้ว่า "น้องชมพู่" หายไป พ่อแม่ของ "น้องชมพู่" ออกไปทำงานแต่เช้า ปล่อย"น้องชมพู่" อยู่บ้าน กับพี่สาว อายุ 13 ปี จากนั้น พ่อ แม่ และ ชาวบ้านช่วยกันออกตามหา แต่ไม่พบ

14 พ.ค.63
ชาวบ้านที่เดินขึ้นไปเก็บเห็ด หาของป่า บนเทือกเขาภูพาน้อย เขตอุทยานแห่งชาติภูผายล ไปพบรองเท้าเด็ก ตกอยู่กลางป่า ก่อนแจ้งเบาะแสและนำเจ้าหน้าที่ไปยังจุดพบรองเท้า ต่อมาพบร่าง "น้องชมพู่" ในสภาพเปลือย อยู่บนภูเหล็กไฟ  จึงนำร่างของ "น้องชมพู่" ไปชันสูตร แต่ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าพบร่องรอยการล่วงละเมิดทางเพศ 

ทางครอบครัว "น้องชมพู่" จึงตัดสินใจส่งร่าง "น้องชมพู่" ชันสูตร รอบ2 ที่ สถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ   แพทย์ยืนยันพบร่องรอย "น้องชมพู่"ถูกทำร้าย 

20 พ.ค.63 

ครอบครัวจัดการเผาร่าง "น้องชมพู่" ในขณะที่เจ้าหน้าที่ยังคงเดินหน้าค้นหาพยานหลักฐาน โดยตำรวจพบเสื้อลายพรางบนภูเขา และรถของเล่น จึงเก็บไปทำการตรวจสอบ 

ขณะเดียวกัน  นายไชย์พล วิภา หรือ "ลุงพล"  ซึ่งเป็นลุงเขยของ "น้องชมพู่" แสดงความเป็นห่วงและติดตามความคืบหน้าการติดตามตัว"น้องชมพู่" ตั้งแต่แรกนั้น ถูกชาวโซเซียล ตั้งข้อสงสัยว่า จะเป็นผู้ลงมือทำร้าย "น้องชมพู่" แต่ "ลุงพล" ปฏิเสธมาตลอด โดยยืนยันว่ารัก "น้องชมพู่" เหมือนลูกตัวเอง และยังได้ตั้งข้อสังเกต พ่อแม่ น้องชมพู่  จนทำให้เกิดความขัดแย้งกันถึงขนาด ท้าสาบาน โดย "ลุงพล" สาบานต่อหน้า "หลวงปู่ลิ้น" วัดถ้ำภูผาแอก ยืนยันไม่ได้ฆ่าหลานตนเอง 


คดี "น้องชมพู่" ผ่านไป กว่า 6 เดือน จนกระทั่ง  พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แถลงความคืบหน้าคดีหลังเข้ารับตำแหน่ง โดยยืนยันว่าตำรวจสอบปากคำไปแล้วหลายร้อยปาก และยังคงติดตามคดีอย่างใกล้ชิด

 

เจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงทำงานติดตามสืบสวนหาพยานหลักฐานกันอย่างต่อเนื่อง เพราะคดี"น้องชมพู่" อยู่ในความสนใจของประชาชน ยิ่งนานวัน ผู้ต้องสงสัย ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวมาสอบปากคำ ถึงตัดออกไปเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็น ชายสติไม่สมประกอบ ที่มีคนพบว่าแบกกระสอบปุ๋ย อยู่ในหมู่บ้านกกกอก ซึ่งเจ้าหน้าที่ตรวจค้นภายในกระสอบ พบภาพโป๊และเสื้อเด็ก และยังมีเส้นผมจำนวนหนึ่ง แต่สุดท้ายชายสติไม่สมประกอบก็ไม่ใช่คนร้าย หรือแม้แต่ "ลุงพล" เองที่ ถูกนำตัวไปสอบปากคำหลายครั้ง  แต่เขาก็ยังยืนยันหนักแน่นไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของ"น้องชมพู่ 

ในระหว่างที่ทีมสืบสวนยังคงติดตามคนร้าย ด้วยการรวบรวมหลักฐาน  "ลุงพล" กลับมีความเคลื่อนไหว ด้วยการเดินสายออกรายการต่างๆ จนกลายเป็น คนดัง  มีช่องยูทูป "ลุงพล ป้าแต๋น แฟมิลี่" มีผู้ติดตามกว่า 3 แสนคน ตามติดชีวิต "ลุงพล" สร้างรายได้เป็นกอบ เป็นกำ   

และก่อนที่คดี "น้องชมพู่" เดินทางมาถึงวันที่ตำรวจจะออกหมายจับ "ลุงพล" ได้ทำการ ไลฟ์ทางช่องยูทูป "ลุงพล ป้าแต๋น แฟมิลี่" ว่า "นักข่าวก็ไม่ได้ถามอะไร มาถามเพราะมันมีประเด็น เพราะจะมีหมายออกมาลุงกับป้าเองก็ เจอสื่อทำร้ายมาเยอะ หลังๆมาเจอทำร้ายบ่อย ให้สัมภาษณ์อย่างไปออกอีกอย่าง ไม่อยากจะออกสื่อเท่าไหร่ เดี๋ยวจะเป็นคนหิวแสง ไม่อยากเป็นคนหิวแสง เดี๋ยวหาว่าเราอยากออกกล้อง อยากออกทีวี"


คดี"น้องชมพู่" ใช้เวลาเดินทางมากว่า 1 ปี กว่าที่ตำรวจจะออกหมายจับได้ ด้วยพยานหลักฐานที่ตำรวจรวบรวมเชื่อว่าจะมัดตัว"ลุงพล"แน่นจนดิ้นไม่ได้  ส่วน "ลุงพล"นั้นจะสู้คดีอย่างไร  หรือ จะยอมจำนนต่อหลักฐาน คงต้องจับตาดูกันต่อไป