แรงงานกัมพูชาแห่กลับประเทศ หลังไทยสั่งปิดแคมป์
แรงงานชาวกัมพูชาทะลักกลับประเทศ หลังไทยสั่งปิดแคมป์ พบนายจ้างขนมาทิ้งอื้อ
เมื่อวันที่ 27 มิ.ย.2564 ผู้สื่อข่าวจ.สุรินทร์รายงานว่า ภายหลังจากพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ออกมาแถลงพร้อมทีมแพทย์ หลังเรียกประชุมร่วมกับศปก.ศบค. ว่า ได้สั่งการให้มีการปิดแคมป์คนงานในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑลรวมไปถึงพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ประกอบด้วย สงขลา ,นราธิวาส, ยะลาและปัตตานี ที่มีการแพร่ระบาด โดยให้กระทรวงแรงงานจ่ายเงินชดเชยเยียวยาและดูแลทั้งแรงงานไทยและต่างด้าว มาตรการดังกล่าวจะทดลองใช้เป็นเวลา 1 เดือน ขณะเดียวกันก็จะมีการจำกัดการเคลื่อนย้ายข้ามจังหวัด แต่ยังไม่ใช่การล็อคดาวน์ ไม่มีการเคอร์ฟิว ห้ามออกนอกเคหสถาน แต่จะมีการประกาศมาตรการเฉพาะละพื้นที่กรุงเทพฯปริมณฑลและ 4 จังหวัดภาคใต้ ออกมาในช่วงเสาร์-อาทิตย์นี้ เพื่อบังคับใช้ในระยะเวลา 1 เดือน เริ่มในวันจันทร์ ที่ 28 มิถุนายนนี้ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ทั้งนี้มาตรการดังกล่าวทำให้แคมป์ก่อสร้างหลายแห่งเริ่มปิดแล้ว แรงงานต่างๆเริ่มทยอยเดินทางกลับบ้าน ไม่ว่าจะเป็นคนไทย แม้กระทั่งแรงงานชาวกัมพูชา ที่พบว่านายจ้างได้ส่งกลับ โดยใช้เส้นทางผ่านแดนที่ จุดผ่านแดนถาวรช่องจอม ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ ในการเดินทางข้ามกลับไปยังประเทศกัมพูชา แต่พบว่านายจ้างกลับนำแรงงานชาวกัมพูชามาทิ้งไว้ตามข้างทาง ไม่ว่าจะเป็นที่บริเวณข้างทาง หน้าตลาดโอท็อป อบจ.สุรินทร์ ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ และอีกหลายจุด ทำให้ เจ้าหน้า ตม.กาบเชิง ต้องเร่งกวาดต้อนแรงงานต่างกัมพูชาที่ถูกนายจ้างนำมาทิ้งข้างทางไปรวบรวมไว้ในจุดเดียวที่ข้าง สนง.ตรวจคนเข้าเมืองกาบเชิง ใกล้กับที่ว่าการ อ.กาบเชิง อย่างเร่งด่วน เพราะเกรงว่าจะมีแรงงานที่ติดเชื้อโควิด-19 นำมาแพร่กระจายให้กับประชาชนในพื้นที่ โดยจุดรวบรวมและซักประวัติก่อนตรวจหาเชื้อแรงงานต่างด้าวชาวกัมพูชา ที่ข้าง สนง.ตรวจคนเข้าเมืองกาบเชิง มีการล้อมผ้าแสลนพร้อมติดป้ายอันตรายห้ามเข้าอย่างเป็นสัดส่วน และไม่อนุญาตให้ผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าไปใกล้ เนื่องจากที่ผ่านมา จนท.ตม..กาบเชิง แม้จะมีมาตรการป้องกันตนเองที่รัดกุม แต่ก็ยังมีเจ้าหน้าที่ติดเชื้อโควิด 19 แล้ว 3 ราย กำลังรักษาตัวอยู่ที่ รพ.กาบเชิง
ทั้งนี้ จนท.ตม.กาบเชิง นายหนึ่ง เปิดเผยว่า วันนี้เป็นวันแรกที่พบว่า มีแรงงานชาวกัมพูชา เดินทางกลับประเทศกัมพูชาจำนวนมากกว่าปกติถึงเท่าตัว ประมาณ 200 คน ส่วนใหญ่เป็นแรงงานก่อสร้าง ซึ่งเจ้าหน้าที่มีมาตรการเข้มในการควบคุมแรงงานต่างด้าวให้อยู่ในพื้นที่จำกัด ตั้งแต่นายจ้างส่งมาถึง ทำการซักประวัติและตรวจหาเชื้อ ไปจนถึงการผลักกันกลับประเทศ ไม่ให้ออกนอกเส้นทางเกรงจะมีเชื้อและนำไปติดประชาชนในพื้นที่ โดย เจ้าหน้าที่ใช้ทั้งรถยนต์กระบะ รถบรรทุก 6 ล้อ รถควบคุมผู้ต้องหา และรถบัส ในการขนส่งแรงงานต่างด่าวและสัมภาระเพื่อผลักกันออกไป อย่างไรก็ตามขอความร่วมมือนายจ้างหรือโชว์เฟอร์ที่ขับรถมาส่งแรงงานต่างด้าว ให้นำแรงงานชาวกัมพูชาไปส่งที่ สนง.ตม.กาบเชิง เพียงจุดเดียวด้วยเพื่อให้ง่ายต่อการควบคุมโรคและผลักดัน
นอกจากนี้ที่ตลาดโอท็อป อบจ.สุรินทร์ จนท.ตม.กาบเชิง ได้มีการติดตั้งป้ายขอความร่วมมือระบุข้อความว่า “กรุณานำส่งชาวกัมพูชา ที่ประสงค์เดินทางกลับเข้าไปกัมพูชา ที่ สนง.ตรวจคนเข้าเมืองกาบเชิง บริเวณที่ว่าการ อ.กาบเชิง ขอบคุณ”อีกด้วย เนื่องจากบริเวณดังกล่าวเป็นตลาดค้าขายสินค้าและพื้นที่ชุมชนที่มีประชาชนอยู่จำนวนมาก