ด่วน.. ลมเปลี่ยนทิศ จนท.ขยายพื้นที่เสี่ยง 10 กม. รอบ"โรงงานกิ่งแก้วไฟไหม้"
ด่วน..ลมเปลี่ยนทิศ จนท.ขยายพื้นที่เสี่ยง 10 กม. รอบ"โรงงานกิ่งแก้วไฟไหม้"
จากเหตุการณ์ระเบิดและไฟไหม้ภายในบริษัท หมิงตี้ เคมีคอล จำกัด ต.ราชาเทวะ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บ เป็นชาวบ้านที่อยู่บริเวณใกล้เคียงกว่า 20 ราย ซึ่งโรงงานดังกล่าวมีทั้งหมด 5-6 โกดัง โดยโกดังแรกเก็บสารเคมีกว่า 50 ตัน ระเบิดไปแล้วจำนวน 20 ตัน และยังเหลือสารเคมีภายในโรงงานดังกล่าวอีกจำนวนมาก
ล่าสุด นางเพ็ญศิริ โคตรภัฒน์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลวัดสลุด เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้มีประกาศขยายรัศมีพื้นที่เสี่ยงภัย จาก 5 กม. เป็น 10 กม. เหตุกระแสลมเปลี่ยนทิศจากเหตุไฟไหม้โรงงานกิ่งแก้ว พร้อมทั้งอพยพคนไทยและต่างด้าว 94 คน มาที่ศูนย์อพยพแล้ว รับยังมีประชาชนตกค้าง คาด ห่วงทรัพทย์สิน บางส่วนกักตัวโควิด-19
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
ด่วน ส่ง เฮลิคอปเตอร์ บรรทุกเคมีดับไฟไหม้ "โรงงานกิ่งแก้ว"
นางเพ็ญศิริ โคตรภัฒน์ ระบุว่าขณะนี้ ได้รับคำสั่งจากกระทรวงสาธารณสุขจังหวัด ให้ทำการอพยพประชาชนคนไทย และต่างด้าวจำนวนรวม 94 คน ที่มีบ้านเรือนอยู่ใกล้บริเวณโรงงานที่มีการระเบิด ซึ่งเบื้องต้นทั้งหมด ได้อพยพมาพักที่ศูนย์อพยพวัดสลุด ให้ย้ายไปที่ศูนย์อพยพวัดโฉลง และวัดบางพลีใหญ่
เนื่องจากขณะนี้ได้มีประกาศขยายรัศมีพื้นที่เสี่ยงภัย จาก 5 กิโลเมตรเป็น 10 กิโลเมตรสาเหตุจากกระแสลมเปลี่ยนทิศทางทำให้พื้นที่อพยพบริเวณวัดสลุดอยู่ในพื้นที่เสี่ยง เจ้าหน้าที่ได้มีการประสานงานไปที่มูลนิธิร่วมกตัญญู เพื่อขอรถทำการขนย้ายผู้อพยพออกจากพื้นที่เรียบร้อยแล้ว โดยขณะนี้ได้รับรายงานว่าเจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัยว่าจะทำการโปรยสารเคมีทางอากาศลงไปยังพื้นที่จุดเกิดเหตุระเบิด ทำให้ต้องมีประกาศเตือนให้ประชาชนบริเวณรัศมี 5 กิโลเมตรหลบเข้าไปในอาคาร
นางเพ็ญศิริ กล่าวต่อว่า ยอมรับว่าในพื้นที่รัศมี 5 กิโลเมตร ยังคงมีประชาชนตกค้างอยู่ในบ้านพักอาศัยเนื่องจาก มีความเป็นห่วงทรัพย์สินและสัตว์เลี้ยงของตนที่ยังไม่ได้ทำการขนย้ายออกมาอีกทั้ง ยังมีบางส่วนที่อยู่ในระหว่างการกักตัวเพราะติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งตอนนี้อยู่ระหว่างประสานงาน