"หลอกจำนำรถ" ชาวบ้านร้อยเอ็ดโดนกันถ้วนหน้า ผ่อนหมดไม่ได้รถคืน
ตำรวจกองปราบ เปิดปฏิบัติการ "ทลายแก๊งรับจำนำรถรัอยเอ็ด" จับผู้ต้องหา "หลอกจำนำรถ" ชาวบ้านเดือดร้อนหนัก เจอดอกเบี้ยโหด แถมผ่อนหมดไม่ได้รถคืน
เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม 2564 พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช รองผบช.ก. ฐานะหัวหน้าชุดที่ 2 ปราบปรามการโจรกรรมรถ และหัวหน้าชุดส่วนปฏิบัติศูนย์ปราบปรามผู้มีอิทธิพลมือปืนรับจ้างและผู้ร้ายสาคัญ สั่งการให้ พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม ผู้บังคับการกองปราบปราม เปิดปฏิบัติการ "ทลายแก๊งรับจำนำรถรัอยเอ็ด" โดยเข้าตรวจค้นพร้อมกัน 5 จุด
โดย สามารถจับกุมตัว นายวรวุฒิ หรือ "แบงค์ ร้อยเอ็ด" อายุ 35 ปี ผู้ต้องหาหลอกจำนำรถ ตามหมายจับศาลจังหวัดร้อยเอ็ด ลงวันที่ 5 กรกฎาคม 2564 ข้อหา "ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน" และ" ให้บุคคลอื่นกู้ยืมเงินหรือกระทําการใด ๆ อันมีลักษณะเป็นการอําพรางในการกู้ยืมเงิน อันเป็นการเรียก ดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกําหนด
พร้อมตรวจยึดของกลางประกอบด้วย
- รถยนต์ 69 คัน
- จักรยานยนต์ 1 คัน
- ปืน 2 กระยอก
- เอกสารการกู้ยืมเงินและจำนำรถ
- สมุดบัญชีธนาครจำนวนหนึ่ง
- ยาบ้า 48 เม็ด
โดยจับได้ที่ห้องพักในร้าน ไม่มีชื่อ ถนนวงแหวนรอบใน ต.ในเมือง อ.เมืองร้อยเอ็ด
ปฏิบัติการ "ทลายแก๊งรับจำนำรถร้อยเอ็ด" สืบเนื่องจากทางกองปราบปรามได้รับการร้องเรียนผ่านทาเพจเฟซบุ๊กกองบังคับการปราบปราม ว่า มีผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ จ.ร้อยเอ็ด ปล่อยเงินกู้นอกระบบ เก็บดอกเบี้ยโหด โดยใช้เฟซบุ๊ก ชื่อว่า "รับ จำนำรถร้อยเอ็ด" และ ไลน์ ในการติดต่อกับลูกค้า
โดยพฤติกรรมของผู้ต้องหาจะรับ จำนำ โดยให้เอารถยนต์มาค้ำประกันเงินกู้ และเรียกดอกเบี้ยสูง มิหนำซ้ำยังมีพฤติกรรมไม่ให้ไถ่ถอนรถยนต์ที่นำมาค้ำประกันอีกด้วย จนทำให้ประชาชนหลายคนในพื้นที่ร้อยเอ็ดและจังหวัดใกล้เคียงได้รับความเสียหาย
สอบสวน นายวราวุฒิ ให้การรับสารภาพว่า ได้เปิดเพจเฟซบุ๊ก เพื่อปล่อยเงินกู้จริงโดยจะออกอุบายให้ผู้เสียหายนํารถยนต์มาจํานํากับตน หลังจากที่ได้รถจากผู้เสียหายมาแล้ว จะนํารถยนต์ดังกล่าวมาชําแหละชิ้นส่วนที่บ้านพักของตัวเอง
ซึ่งจากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ตํารวจพบชิ้นส่วนรถยนต์ และเอกสารเกี่ยวกับรถยนต์เป็นจํานวน มาก นอกจากนี้ผู้ต้องหายังให้การเพิ่มเติมอีกว่า รถยนต์ที่ได้มาจากการหลอกจํานํารถยน์จะไปพักไว้ที่ บ้านพักและโกดัง ในพื้นที่ อ.เมืองร้อยเอ็ด ก่อนจะนําออกมาขายตามเพจเฟซบุ๊กโดยทํามาแล้วกว่าสองปี
สำหรับประชาชนท่านใดที่เคยถูกผู้ต้องหารายนี้หลอกจำนำรถ แล้วไม่ได้รถคืน สามารถแจ้งความได้เพื่อดำเนินคดีเพิ่ม