ด่วน "เคอร์ฟิว" ห้ามออกจากบ้าน "3ทุ่ม-ตี4" งดการเดินทางข้ามจังหวัด
"เคอร์ฟิว" 10จังหวัด ห้ามออกจากบ้าน "3ทุ่ม-ตี4" เริ่ม 12 กรกฏาคมนี้ 4 จังหวัดชายแดนใต้ ห้ามเดินทางข้ามพื้นที่
(9 ก.ค.64) หลังจากที่รัฐบาล และศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ได้มีการประชุมและประกาศพื้นควบคุมสูงสุด และเข้มงวด 10 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร นนทบุรี นครปฐม นราธิวาส ปัตตานี ยะลา และสงขลา และมีการประกาศ "เคอร์ฟิว" งดออกจากบ้านตั้งแต่เวลา "3ทุ่ม-ตี4" พร้อมกับห้ามเดินทางข้ามจังหวัด
ล่าสุดเมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 9 กรกฏาคม 2564 แพทย์หญิง อภิสมัย ศรีรังสรรค ผู้ช่วยโฆษก ศบค. เปิดเผยว่า ที่ประชุม ศบค.ในวันนี้ ได้มีการกำหนดมาตราต่างๆ และได้ยกระดับมาตราควบคุมโควิด-19 ทั่วประเทศ ขณะเดียวกันประเทศเกาหลีใต้ เวียดนาม สิงคโปร ไต้หวัน และอิสราเอล ก็ได้มีการยกระดับในการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19
ส่วนในประเทศไทย ในวันนี้มียอดผู้ติดเชื้อใน (9ก.ค.) มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นกว่า 9 พันคน โดยเฉพาะการแพร่ระบาดของเชื้อเดลต้า หรือสายพันธุ์อินเดีย ในหลายพื้นที่ ดังนั้น ในที่ประชุมจึงได้มีความเห็นตรงกันว่า ควรจะมีการกำหนดมาตราการต่างๆ โดยเฉพาะให้ประชาชนทำงานอยู่ที่บ้าน เพื่อลดอัตราการติดเชื้อ หรือการแพร่ระบาดของเชื้อ ในพื้นที่ควบคุมพิเศษ 6 จังหวัด อาทิ กรุงเทพฯ นนทบุรี ปทุมธานี นครปฐม สมุทรปราการ และสมุทรสาคร
โดยให้มีผล "ล็อกดาวน์" บังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 12 ก.ค. รวม 14 วัน และให้เริ่มตั้งด่านปฏิบัติงานตั้งแต่วันที่ 10 ก.ค. ส่วนกรณีประชาชนรายใดที่ฉีดวัคซีนแล้ว สามารถเดินทางได้
ทั้งนี้ ที่ประชุมยังได้มีการเสนอให้ร้านสะดวกซื้อ ห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร ปิดเวลา 20.00 น. ห้ามรวมกลุ่มทำกิจกรรมเกิน 5 คน รถสาธารณะให้บริการถึง 21.30 น. ส่วนประชาชนทั่วไปในพื้นที่ห้ามออกจากบ้าน ตั้งแต่เวลา 21.00-04.00 น. "3ทุ่ม-ตี4" สำหรับในพื้นที่จังหวัด สงขลา ยะลา นราธิวาส และปัตตานี ก็ขอให้พี่น้องประชาชนงดการเดินทางข้ามจังหวัด เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19
อย่างไรก็ตาม สำหรับการประกาศดังกล่าว ยังได้ให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงที่ทางรัฐบาลระบุว่า ให้ทำงานอยู่ที่บ้าน (WFH) หรือ WORK FROM HOME แบบ 100 เปอร์เซ็นต์ คือให้ทุกบริษัทฯ และห้างร้าน ให้ลูกจ้างทำงานอยู่กับบ้าน เป็นเวลา 14 วัน เพื่องดการเดินทาง และการเสี่ยงต่อการติดเชื้อโควิด-19
แพทย์หญิง อภิสมัย ศรีรังสรรค ผู้ช่วยโฆษก ศบค. เปิดเผยอีกว่า สำหรับในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ที่ประชุมได้มีการสั่งการให้เร่งดำเนินการขยายจุดตรวจคัดกรองเพิ่มเติม และเร่งดำเนินการคัดกรองในเชิงรุก เพื่อแยกผู้ที่ติดเชื้อออกมาจากกลุ่มประชาชนที่ยังไม่ติดเชื้อโดยเร็วที่สุด และให้ประชาชนงดการเดินทางตั้งแต่เวลา 21.00 น. ไปจนถึงเวลา 04.00 น.ซึ่งเรื่องดังกล่าวจะมีการเสนอเข้า ครม.ในวันอังคารที่ 13 ก.ค.2564 อีกครั้ง
1.จำกัดการเคลื่อนย้ายและการรวมกลุ่มบุคคลให้มากที่สุด โดยกำหนดให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจและภาคเอกชน ใช้การปฎิบัติงานในลักษณะเวิร์คฟรอมโฮมให้มากที่สุด โดยไม่กระทบต่อการบริหารราชการแผ่นดินที่สำคัญ และการบริการประชาชน
ระบบขนส่งสาธารณะ เปิดให้บริการได้ในห้วงเวลา 21.00 น. ถึง 03.00 น. ของวันรุ่งขึ้น
ส่วนร้านสะดวกซื้อ ตลาดโต้รุ่ง ปิดเวลา 20.00 ถึง 04.00 น. ของวันรุ่งขึ้น ขณะที่ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ เปิดได้เฉพาะซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านอาหารและเครื่องดื่ม ธนาคารและสถาบันการเงิน ร้านขายยาและเวชภัณฑ์ ร้านอุปกรณ์เครื่องมือสื่อสาร รวมถึงสถานที่ฉีดวัคซีน โดยเปิดได้ถึงเวลา 20.00 น.
ร้านจำหน่ายอาหารหรือเครื่องดื่ม ห้ามบริโภคอาหารหรือสุราหรือเครื่องดื่มในร้าน โดยเปิดได้ถึงเวลา 20.00 น. พร้อมสั่งปิดสถานที่เสี่ยงต่อการติดโรค ได้แก่ นวดเพื่อสุขภาพ สปา สถานเสริมความงาม
สวนสาธารณะ สามารถเปิดให้บริการสำหรับการออกกำลังกายได้ถึงเวลา 20.00 น. ห้ามการรวมกลุ่มทำกิจกรรมทางสังคม ที่ไม่ใช่การปฏิบัติหน้าที่ การประกอบอาชีพหรือกิจกรรมตามประเพณีรวมกันเกิน 5 คน
2.ให้บุคคลงดการเดินทางที่ไม่จำเป็น และห้ามออกนอกเคหสถานระหว่างเวลา 21.00 ถึง 04.00 น. ของวันรุ่งขึ้น เว้นแต่มีความจำเป็นยิ่ง หรือได้รับอนุญาตเป็นรายกรณี
3.การควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดในกลุ่มแรงงานก่อสร้างยังคงเป็นไปตามข้อกาหนดของ ศบค.ที่ได้มีประกาศไปแล้วก่อนหน้านี้
4.กำกับดูแลให้ประชาชนปฏิบัติตามมาตรการป้องกันส่วนบุคคล (DMHTTA)อย่างสูงสุด
5.ให้หน่วยงานด้านความมั่นคงจัดตั้งจุดตรวจจุดสกัด และชุดลาดตระเวน เพื่อกำกับดูแลการปฏิบัติอย่างเข้มงวด ทั้งนี้ผู้ใดฝ่าฝืนให้มีบทลงโทษตามแห่ง พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 และ พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ.2558
6.ให้เริ่มดำเนินการตามข้อ 1-4 ตั้งแต่วันที่ 12 ก.ค.64 เป็นต้นไป