บช.น จับ "ม็อบ7สิงหา" อย่างน้อย 14 ราย ยึดของกลางลูกเหล็ก ลูกแก้ว อื้อ
08 ส.ค. 2564
มีรายงานว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบัชาการตำรวจนครบาล จับกุมกลุ่มผู้ชุมนุมม็อบ7สิงหา ได้อย่างน้อย 14 ราย พร้อมยึดของกลางจำนวนมาก
วันที่ 8 สิงหาคม 2564 ที่ กองบัญชาการตำรวจนครบาล(บช.น.) ผู้สื่อข่าวคมชัดลึกออนไลน์ รายงานสรุปผลการับกุมกลุ่มผู้ชุมนุม ม็อบ7สิงหา โดยมีทั้งหมด 6 คดี สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 14 ราย พร้อมของกลางอีกหลายการ ดังนี้
คดีที่ 1
- เวลาประมาณ 10.30 น. เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.ชนะสงคราม จับกุม ผู้ต้องหา จำนวน 2 ราย เป็นชายอายุ 22 ปี และ 20 ปี ใน ข้อหา "อั้งยี่และซ่องโจร และร่วมกันมีเครื่องวิทยุคมนาคมโดยไม่ได้รับ-อนุญาต" ยึดของกลางหลายรายการ เช่น มีดพับ ลูกเหล็ก วิทยุสื่อสาร เลเซอร์ ประทัดควันสีฟ้า เป็นต้น
- โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบทราบว่ากลุ่มการ์ด wevo เช่าห้องพักอยู่ที่โรงแรมแห่งหนึ่ง จึงได้ทำการตรวจสอบพบผู้ต้องหาซึ่งเป็นการ์ด ของ wevo มีหน้าที่รักษาความปลอดภัยแก่ผู้ชุมนุมได้เข้าพักอาศัยที่ห้องดังกล่าว ก่อนประสานให้เจ้าหน้าที่สันติบาล เข้าทำการตรวจค้น ก่อนส่งพนักงานสอบสวน สน.สำราญราษฎร์ เพื่อดำเนินคดีต่อไป
คดีที่ 2
- เวลาประมาณ 11.00 น. เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.สำราญราษฎร์ จับกุม ผู้ต้องหา จำนวน 6 ราย เป็นชาย 4 ราย หญิง 2 ราย อายุระหว่าง 19 - 44 ปี ในข้อหา "อั้งยี่และซ่องโจร", "มีซึ่งเครื่องวิทยุคมนาคมโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ และพกพาอาวุธ" ยึดของกลาง เช่น ลูกแก้ว ลูกดิน พลุควันสีแบบดึงสลัก วิทยุสื่อสาร หนังสติ๊ก เป็นต้น
- โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้ตรวจค้นรถตู้ และ รถยนต์ ต้องสงสัยเป็นรถขอการ์ด WEVO จอดอยู่ภายในลานจอดรถของวัดมหรรณพารามวรวิหาร ถนนตะนาว แขวงเสาชิงช้า เขตพระนคร จึงได้ตรวจสอบจึงพบตรวจสอบพบของกลาง ก่อนจับกุมทั้ง 6 ราย และนำส่งพนักงานสอบสวน สน.สำราญราษฎร์ เพื่อดำเนินคดีต่อไป
คดีที่ 3
- เวลาประมาณ 13.00 น. เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชน จับกุม ผู้ต้องหา จำนวน 2 ราย อายุ 24 ปี และ 33 ปี ในข้อหา "ร่วมกันชุมนุมหรือทำกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการแพรโรค ในพื้นที่ที่มีประกาศหรือคำสั่งกำหนดเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด"
- โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้ประกาศให้เลิกชุมนุมบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยเนื่องจากเป็นการชุมนุมที่ผิดกฎหมาย แต่ผู้ต้องหาทั้งสองไม่ยอมยุติ จึงได้จับกุมก่อนส่ง สน.สำราญราษฎร์ เพื่อดำเนินการต่อไป
คดีที่ 4
- เวลาประมาณ 18.23 น. เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.บก.น.6 จับกุมผู้ต้องหา จำนวน 1 ราย คือ หญิง อายุ 44 ปี ใน ข้อหาร่วมกันจัดกิจกรรมรวมกลุ่มของบุคคลที่มีจำนวนร่วมกันมากกว่าห้าคน ในเขตพื้นที่ที่มีการประกาศหรือคำสั่งกำหนดเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด และ ร่วมชุมนุมหรือทำกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่โรคในพื้นที่ที่มีการหรือคำสั่งกำหนดเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด และร่วมกันโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียงด้วยกำลังไฟฟ้าโดยไม่ได้รับอนุญาต
- โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมพบรถยนต์กระบะที่ใช้เป็นรถเครื่องขยายเสียงและอุปกรณ์การปราศรัย ก่อนจะเข้าจับกุมพร้อมจับตัวผู้ต้องและของกลาง
คดีที่ 5
- เวลาประมาณ 18.30 น. เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สปพ. จับกุม ผู้ต้องหา จำนวน 1 ราย อายุ 21 ปี พร้อมด้วยของกลาง รถตู้ และ เครื่องขยายเสียง ในข้อหา "ร่วมกันจัดกิจกรรมรวมกลุ่มของบุคคลที่มีจำนวนร่วมกันมากกว่าห้าคน ในเขตพื้นที่ที่มีการประกาศหรือคำสั่งกำหนดเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด" และ "ร่วมชุมนุมหรือทำกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่โรคในพื้นที่ที่มีการหรือคำสั่งกำหนดเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด"
- โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมสืบทราบว่ารถตู้ดังกล่าวเป็นของนายปิยรัฐ หรือโตโต้ จงเทพ หัวหน้ากลุ่มการ์ด We Volunteer ก่อนจะพบจอดอยู่บริเวณสามเหลี่ยมดินแดง แขวงถนนพญาไท เขตราชเทวี จึงได้เข้าจับกุมและยึดของกลางดังกล่าวนำส่งพนักงานสอบสวน สน.พญาไท ดำเนินคดีต่อไป
คดีที่ 6
- เวลาประมาณ 20.30 น. เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สส.บช.น. จับกุม ผู้ต้องหา จำนวน 2 ราย เป็นชายและหญิง อายุ 20 ปี และ 30 ปี ตามลำดับ ในข้อหา "ร่วมกันจัดกิจกรรมรวมกลุ่มของบุคคลที่มีจำนวนร่วมกันมากกว่าห้าคน ในเขตพื้นที่ที่มีการประกาศหรือคำสั่งกำหนดเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด" และ "ร่วมชุมนุมหรือทำกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่โรคในพื้นที่ที่มีการหรือคำสั่งกำหนดเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด"
- โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมมีข้อมูลว่าผู้ต้องหาเป็นผู้ที่ขับรถรถขนอุปกรณ์ที่ใช้ในการชุมนุม และเป็นรถรับส่งกลุ่มผู้ที่มาร่วมชุมนุม จึงได้ติดตามจับกุมไว้ได้บริเวณสามเหลี่ยมดินแดง ซึ่งสอบสวนผู้ต้องชาย ทราบว่า ได้รับจ้างจาก นายสุรกัณฑ์ ให้นำรถเข้าไปรับส่งผู้ชุมนุมโดยว่าจ้างเป็นเงิน 1,200 บาท