ข่าว

ลุ้นชี้ชะตา "สุเทพ"กับพวก ร่วม"ฮั้วประมูล"โครงการสร้างโรงพักฯ 396 หลัง

ลุ้นชี้ชะตา "สุเทพ"กับพวก ร่วม"ฮั้วประมูล"โครงการสร้างโรงพักฯ 396 หลัง

19 ก.ย. 2565

ลุ้นชี้ชะตา "สุเทพ"กับพวก คดีร่วมฮั้วประมูลโครงการสร้างโรงพักทดเเทน 396 หลัง ด้านทนายความ เผย เจ้าตัวพร้อมฟังคำพิพากษา มั่นใจเสนอข้อเท็จจริงสู่ศาล หากผลเป็นลบเตรียมเงินประกัน ส่วนจำเลยคนอื่นก็ต้องพร้อมด้วย เพราะศาลนัดล่วงหน้าเป็นเดือน

เมื่อวันที่ 19 กันยายน 65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันที่ 20 ก.ย.นี้ เวลา 09.00 น. ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง(อม.) สนามหลวง นัดอ่านคำพิพากษาในคดีหมายเลขดำ อม.22/2565 ที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี, พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ อดีตรักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ, พล.ต.ต.สัจจะ คชหิรัญ, พ.ต.ท.สุริยา แจ้งสุวรรณ์, บริษัท พีซีซี ดีเวลล็อปเม้นท์ แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด และนายวิศณุ วิเศษสิงห์ เป็นจำเลยที่ 1-6 กรณีร่วม"ฮั้วประมูลโครงการสร้างโรงพักทดเเทน" และ "โครงการก่อสร้างอาคารที่พัก" (แฟลตตำรวจ)

 

คดีนี้ ป.ป.ช.ยื่นฟ้องระบุพฤติการณ์สรุปว่า ระหว่างวันที่ 9 มิ.ย.52-18 เม.ย.56 จำเลยที่ 1 เเละที่ 2 เปลี่ยนแปลงแนวทางจัดซื้อจัดจ้าง "โครงการก่อสร้างอาคารที่ทำการสถานีตำรวจ" (ทดแทน) จำนวน 396 หลัง จากราคาภาคแยกสัญญามาเป็นการรวมจัดจ้างก่อสร้างไว้ที่ส่วนกลางสัญญาเดียว จำเลยที่ 5 เป็นผู้ชนะการประกวดราคา โดยจำเลยที่ 6 ยื่นเอกสารบัญชีแสดงปริมาณวัสดุและราคา ได้เสนอราคาต่ำอย่างผิดปกติ จำเลยที่ 3-4 ในฐานะคณะกรรมการประกวดราคา ไม่ตรวจสอบราคาที่ผิดปกติดังกล่าว และได้นำเอกสารบัญชีแสดงปริมาณวัสดุและราคานั้น ไปใช้ในการขออนุมัติจ้างและใช้ประกอบ เป็นเอกสารแนบท้ายสัญญา ต่อมาจำเลยที่ 5 ก่อสร้างไม่แล้วเสร็จตามสัญญา เป็นเหตุให้"สำนักงานตำรวจแห่งชาติ"เสียหาย ขอให้ลงโทษจำเลยที่ 1,2 ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ลงโทษจำเลยที่ 3,4 ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151,157 พระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคา ต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2542 มาตรา 10,12 กับลงโทษจำเลยที่ 5,6 ในฐานะผู้สนับสนุนการกระทำผิด

โดยก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 17 ก.พ.ที่ผ่านมา ศาลฎีกาคดีนักการเมือง ได้นัดพิจารณาครั้งแรก และได้อ่านอธิบายคำฟ้องพร้อมสอบคำให้การจำเลยทั้ง 6 ให้การปฎิเสธข้อต่อสู้คดี ศาลจึงได้กำหนดวันนัดไต่สวนพยานโจทก์ 3 นัด ครั้งเเรกวันที่ 2,30 มิ.ย.เเละวันที่ 7 ก.ค.นี้ และนัดไต่สวนพยานจำเลยวันที่ 19,21,26 ก.ค.จนเสร็จสิ้นแล้ว จึงนัดคู่ความฟังคำพิพากษาในวันและเวลาดังกล่าว

นายสวัสดิ์ เจริญผล ทนายความนายสุเทพ กล่าวว่า ในวันนัดอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาพรุ่งนี้ นายสุเทพมีความพร้อมที่จะเดินทางไปรับฟังคำพิพากษา ในส่วนของจำเลยคนอื่นนั้น เมื่อศาลนัดแล้วและเป็นการนัดล่วงหน้าเป็นเดือน ทุกคนก็คงต้องมีความพร้อม ในส่วนเนื้อหาของคดีนั้น นายสุเทพและทีมกฎหมายไม่มีความกังวลใจ เพราะไม่มีอะไรต้องกังวล เนื่องจากเราได้เสนอข้อเท็จจริงให้ศาลไปทั้งหมดแล้ว เรามั่นใจในข้อเท็จจริงที่เราให้ศาล ส่วนคำพิพากษาจะออกมาเช่นไรเราไม่อาจรู้ได้ เพราะเป็นเรื่องของศาล แต่เรามั่นใจในความมีอยู่ของข้อเท็จจริงที่เราได้นำเสนอไป

 

เมื่อถามกรณีหากผลคำพิพากษาออกมา ไม่เป็นคุณกับฝ่ายจำเลย มีการเตรียมพร้อมไว้อย่างไร นายสวัสดิ์ กล่าวว่า เรื่องนี้ถือเป็นปกติของทนายความ ทุกคดีที่เราต้องมีการเตรียมพร้อมเรื่องหลักประกัน โดยหลักทรัพย์เดิมที่มีอยู่ที่ศาลก็ใช้ได้อยู่เเล้ว ซึ่งพรุ่งนี้ก่อนเข้าฟังคำพิพากษา นายสุเทพก็พร้อมให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ตามที่สื่อมวลชนได้มีการขอมา