สุดทน "โก้ ธีรศักดิ์" ร้อง ตร. เพื่อนบ้านสาดน้ำกรด โดนลูกน้องบาดเจ็บ
"เพจสายไหมต้องรอด” พร้อมด้วย "โก้ ธีรศักดิ์” นักร้อง-พิธีกร นำลูกน้อง แจ้งความ ถูก เพื่อนบ้านสาดน้ำกรด จนบาดเจ็บ ยืนยันไม่เคยมีเรื่องกันมาก่อน เคยเข้าไปเจรจาแต่ไม่ผล หวั่นไม่ปลอดภัย กลัวก่อเหตุซ้ำ วอนญาตินำตัวผู้ก่อเหตุส่งรักษาอาการป่วยทางจิต
12 พ.ย.2565 ที่สน.วังทองหลาง นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้ง เพจสายไหมต้องรอด พร้อมด้วย นายธีรศักดิ์ พันธุจริยา หรือ โก้ ธีรศักดิ์ นักร้อง-พิธีกร พร้อมด้วยพนักงานในบริษัท โก้ ธีรศักดิ์ เข้าแจ้งความ กับ พนักงานสอบสวน สน.วังทองหลาง หลังถูกบุคคลที่อยู่ข้างบริษัท สาดน้ำกรดลงมาได้รับบาดเจ็บ มีแผลรอยไหม้ที่แขน
โดย น.ส.ประภัสสร พี่สาวของโก้ ธีรศักดิ์ ซึ่งเป็นหัวหน้างาน และพักอาศัยอยู่ในบ้านที่เกิดเหตุ อยู่ภายในซอยประดิษฐ์มนูธรรม เปิดเผยว่าที่เกิดเหตุเป็นทาวน์โฮม ห้องติดกัน และเปิดสำนักงาน ก่อนหน้านี้ไม่เคยมีปัญหากับเพื่อนบ้านรายนี้มาก่อน
จนกระทั่งประมาณ 5 ปีก่อน เพื่อนบ้านรายนี้ เริ่มมีพฤติกรรมไม่เหมาะสมหลายอย่าง เช่น ตะโกนด่าด้วยถ้อยคำหยาบคาย ถ่มน้ำลายใส่ ขว้างปาหิน - ของมีคมใส่ หรือทุ่มกระถางต้นไม้ใส่ ขณะเดินออกจากบ้าน
น.ส.ประภัสสร เล่าอีกว่า เราไม่เคยมีเรื่องกันมาก่อน เมื่อเกิดปัญหาได้แจ้งตำรวจ 191 และตำรวจท้องที่ไปแล้วหลายครั้ง แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะคู่กรณีก่อเหตุจากในบ้าน เมื่อไปพูดคุยกับแม่ของเพื่อนบ้าน เพื่อให้ตักเตือนหรือพาลูกไปรักษา กลับได้รับคำปฏิเสธ และยืนยันว่าลูกเขาปกติ แต่ถูกกลั่นแกล้ง ถูกทำของใส่ จนมาเกิดเหตุล่าสุด ใช้น้ำผสมสารเคมีสาดใส่พนักงานบาดเจ็บ ต้องพักรักษาตัวนานกว่า 2 สัปดาห์ เราจึงรู้สึกว่าเป็นเรื่องอันตราย หากโดนดวงตาหรือใบหน้าเกิดอันตรายสาหัส ทุกวันนี้ตนเองก็ยังกลัวเขาจะทำอีก เวลาเข้าบ้านต้องกางร่มและใส่เสื้อแขนยาวตลอด
ด้าน โก้ ธีรศักดิ์ บอกว่า ไม่เพียงแต่บ้านของตนเองเท่านั้น แต่ยังมีเพื่อนบ้านอีกหลายรายที่ถูกกระทำลักษณะเดียวกัน ลูกค้าร้านทำผมก็ถูกปาหินใส่ จนลูกค้ามาใช้บริการลดน้อยลง แต่ที่ผ่านมาเพื่อนบ้านทุกคนอดทนมาโดยตลอด แต่บ้านผู้ก่อเหตุกลับไม่แก้ไขปัญหา มีแต่จะรุนแรงมากขึ้น จึงอยากให้คดีนี้เป็นคดีตัวอย่าง เรื่องการพักอาศัยร่วมกับเพื่อนบ้าน หากมีผู้ป่วยที่มีอาการทางจิต ก็ควรรับการรักษาที่ถูกต้อง เพราะไม่รู้ว่าในอนาคตจะเกิดเหตุร้ายแรงมากกว่านี้หรือไม่
ด้านนายเอกภพ เปิดเผยว่า ได้ประสานตำรวจให้เร่งรัดดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุทุกข้อกล่าวหา ทั้งเรื่องทำร้ายร่างกาย ทำให้เสียทรัพย์ สร้างความเดือดร้อนรำคาญ และอยากให้ตำรวจไปคุมตัวผู้ก่อเหตุนำส่งโรงพยาบาลเพื่อตรวจใหแน่ชัดว่ามีอาการผิดปกติทางจิตประสาทหรือไม่ หากพบก็จะได้ขอให้ตำรวจส่งไปรักษา เพื่อป้องกันเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นอีกในภายหลัง