"บิ๊กโจ๊ก" ลุยต่อ จ่ออีก 3-4 หมายจับนายทุนจีน สัปดาห์นี้
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เผย เตรียมตรวจค้นเพิ่ม ยื่นขออีก 3- 4 หมายจับ "นายทุนจีน" สีเทา ภายในสัปดาห์นี้ ชี้รัฐบาลปักกิ่งเริ่มขยับปราบปราม ซ้ำรอย“ทัวร์ศูนย์เหรียญ”เมื่อ 6 ปีที่แล้ว ต่างกันแค่ครั้งนี้เป็นผับบาร์ สร้างฐานะ
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. เปิดเผยว่า ตำรวจจะมีการขออนุมัติหมายค้น สถานที่ของกลุ่ม "นายทุนจีน" สีเทา อีกครั้ง และจะมีการออกหมายจับ 3-4 ฉบับ ภายในสัปดาห์นี้ทั้งคนจีนและคนไทยที่เป็นนอมินี โดยใน 3 สัปดาห์ จะตรวจสอบให้ครบ ทั้งนอมินี คนไทย การรวบรวมพยานหลักฐานไปถึงใครก็ต้องว่าไปตามกระบวนการ
ขณะเดียวกัน รัฐบาลจีน โดยทางเอกอัครราชทูตจีน ได้คุยกับผมว่า จะเดินหน้าปราบปรามไปด้วยกันเหมือนการปราบปรามทัวร์ศูนย์เหรียญ เมื่อ 6 ปีที่แล้ว ซึ่งจากการตรวจสอบเอกสาร พบบางรายเป็นคนที่ผมจับเรื่องทัวร์ศูนย์เหรียญ วันนี้แปลงร่างมาเป็นผับบาร์ ในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
วันนี้เรากำลังต่อสู้กับกลุ่มคน ที่มีฐานะทางการเงินค่อนข้างดี มีนักกฎหมายที่ดี เราก็ต้องทำให้รอบคอบ แต่ไม่กลัวอะไร เพียงแต่ว่าการจับกุมออกหมายจับ ต้องทำให้รอบคอบ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าว
ส่วนที่จะ "ออกหมายจับ" จากการตรวจสอบพบว่า ยังอยู่ในประเทศไทย บางส่วนหลบหนีออกไปต่างประเทศแล้ว แต่ก็จะออกหมายจับเพื่อขึ้นแบล็คลิสต์ถาวร “ห้ามเข้าประเทศไทย” และขอหมายอินเตอร์โพล ซึ่งบุคคลเหล่านี้ทางรัฐบาลจีนก็ต้องการตัวเพราะส่วนหนึ่งมีหมายจับที่จีน จะเห็นได้ว่าบุคคลเหล่านี้จะมี 2 สัญชาติ เพื่อจะให้ตัวเองหลบหนีไปยังประเทศอื่นได้
เมื่อถามถึงกรณีพาดพิงนาย"สันธนะ" อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับธุรกิจสีเทาของ"นายทุนจีน" พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า หลังจากได้นำข้อมูลจากนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ มาตรวจสอบ ตอนนี้ยังไม่พบว่า มีส่วนเกี่ยวข้อง แต่ว่าก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับทั้ง 2 ฝ่าย วันนี้ขอเวลาเพราะหากเกี่ยวข้องกับยาเสพติด จะต้องดำเนินคดีในความผิดตาม พ.ร.บ.สมคบฯ ซึ่งจะนำไปสู่การยึดทรัพย์ทั้งหมด
ส่วนเอกสารที่นาย"สันธนะ" จะนำมามอบให้เพิ่มเติมนั้น พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า เมื่อ ผบ.ตร.ส่งมา ผมก็จะนำมารวมดูทั้งหมด วันนี้ข้อมูลที่มีอยู่เยอะมากพอสมควร จึงได้ตั้งคณะสืบสวนสอบสวนเร่งให้เร็วพยายามทำให้แล้วเสร็จ