ข่าว

กองปราบฯ ลุยค้น 7 จุด ทลาย "แก๊งเจ๊พลอยชลบุรี" เปิดเพจหลอกจำนำรถ - ปล่อยขายต่อ

กองปราบฯ ลุยค้น 7 จุด ทลาย "แก๊งเจ๊พลอยชลบุรี" เปิดเพจหลอกจำนำรถ - ปล่อยขายต่อ

26 พ.ย. 2565

กองปราบ ลุยค้น 7 จุด "แก๊งเจ๊พลอยชลบุรี" เปิด 3 เพจหลอกจำนำรถ ก่อนเอาไปปล่อยขายต่อ ยึดรถของกลางกว่า 60 คัน เล็งขอโอนสำนวนคดีแต่ละพื้นที่ พิจารณาเข้าข่ายความผิดฐานฟอกเงิน-ยึดทรัพย์ผู้เกี่ยวข้อง

26 พ.ย.2565  กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก.พร้อมด้วย พล.ต.ต.มนตรี ขันเทศ ผบก.ป.  ร่วมกันแถลงการจับกุม "เครือข่ายแก๊งเจ๊พลอยชลบุรี "  เปิดเพจเฟซบุ๊ก หลอกจำนำรถ  3 เพจ ชื่อ "จำนำรถยนต์ 88888888" และ "รับจำนำรถชลบุรีชลบุรี รับจำนำรถชลบุรี กทม." และ "adesellcar"

 

พร้อมตรวจยึดรถยนต์ 64 คัน พบว่ามีรถของกลางในคดีที่แจ้งหายไว้ 22 คัน จากสถานีตำรวจทั่วประเทศ จากการตรวจค้น 7 จุด ทั่วพื้นที่ จ.นนทบุรี และควบคุมตัว นายชูชัย หรือเป้ และนาย ราชวัชร์ หรือบอย รับเป็นผู้ดูแลรถ

 

 

 

 

กองปราบฯ ลุยค้น 7 จุด ทลาย "แก๊งเจ๊พลอยชลบุรี" เปิดเพจหลอกจำนำรถ - ปล่อยขายต่อ

 

 

พล.ต.ท.จิรภพ เปิดเผยว่า  สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 4 ต.ค. 2565  ที่ผ่านมา มีผู้เสียหายหลายรายเข้าร้องเรียนว่ามีกลุ่มคนร้ายเปิดเพจรับจำนำรถและลักรถยนต์ เป็นจำนวนมาก โดยคิดดอกเบี้ยร้อยละ 10  ต่อเดือนหรือร้อยละ  120  ต่อปี มีการหักดอกเบี้ย ตั้งแต่งวดแรกและจ่ายดอกเบี้ยทุก 30 วัน

 

กลุ่มคนร้ายได้นำรถของผู้ที่นำมาจำนำ ไปขายต่อ  ซึ่งกลุ่มคนร้ายมักทำในลักษณะเดียวกันเป็นประจำ ซึ่งผู้เสียหายเป็นผู้ประกอบอาชีพรายได้น้อยจึงนำรถไปจำนำแต่ถูกกลุ่มคนร้ายซ้ำเติม ทำให้มีผู้ได้รับความเดือดร้อนมาแจ้งความที่กองปราบประมาณ 80 คัน

 

 

กองปราบฯ ลุยค้น 7 จุด ทลาย "แก๊งเจ๊พลอยชลบุรี" เปิดเพจหลอกจำนำรถ - ปล่อยขายต่อ

 

 

จากการตรวจสอบพบผู้เสียหาย ลักษณะนี้มีมากกว่า 80 คันแจ้งความในพื้นที่จ.ชลบุรี รวมกว่า130 คัน จากการสืบสวนทราบว่ากลุ่มคนร้ายใช้วิธีเปิดเพจเฟซบุ๊ก 3 เพจ คือ “จำนำรถยนต์ 88888888”และ“รับจำนำรถชลบุรีชลบุรี รับจำนำรถชลบุรี กทม.” และ“adesellcar” จากการสืบสวนทราบว่ามีการนำรถไปซุกซ่อนไว้ พื้นที่จังหวัดนนทบุรีจำนวน 7 จุด โกดัง 4 จุดและลานจอด 3 จุด

 

ต่อมาจึงได้วางแผนและขอหมายค้นเพื่อทำการตรวจค้น กระทั่งพบรถยนต์ทั้งหมด 64 คัน มีรถที่ถูกแจ้งหายไว้จำนวน 22 คัน เป็นรถที่ผู้เสียหายนำมาจำนำและกลุ่มคนร้ายนำไปขาย โดยไม่ส่งคืนให้กับผู้ที่มาจำนำ

 

ล่าสุดมีการออกหมายจับผู้เกี่ยวข้องจำนวน 6 หมายเพื่อติดตามกลุ่มคนร้าย และทาง พล.ต.ต.มนตรี  จะรวบรวมสำนวนของทุกสภ. มาไว้ที่กองปราบเพื่อทำคดีให้ เป็นคดีเดียวกัน

 

 

 

กองปราบฯ ลุยค้น 7 จุด ทลาย "แก๊งเจ๊พลอยชลบุรี" เปิดเพจหลอกจำนำรถ - ปล่อยขายต่อ

 

 

ผบช.ก. ยังกล่าวอีกว่า  พฤติกรรมจะเห็นได้ชัดเจนว่าอย่างรถบางคันรับจำนำได้ 2 อาทิตย์แล้วนำไปขายทันที แต่ที่คุยเอาไว้ประมาณ 6 เดือน โดยที่การผ่อนชำระก็ยังพบต่อเนื่อง ซึ่งพฤติการณ์แต่ละคันก็แตกต่างกัน จากการตรวจสอบรถที่ฝากจำนำไว้มีการนำไปปล่อยขายในตลาด ทั้งที่ผู้จำนำยังไม่รู้ว่ามีการนำรถไปปล่อย เบื้องต้นเข้าข่ายข้อหายักยอกทรัพย์ เนื่องจากนำรถที่มีผู้จำนำไปขาย ซึ่งมีการแบ่งหน้าที่กันทำและทำมาตั้งแต่ประมาณปี 62 และเคยถูกจับแต่ก็กลับมาทำใหม่ 

 

ด้าน พล.ต.ต.มนตรี กล่าวว่า พฤติการณ์ลักษณะนี้ทางผู้บังคับบัญชาได้พิจารณาแล้วว่ามีการร่วมกันทำเป็นกลุ่มกระบวนการ จะเห็นได้ว่าในอดีตกองปราบมีการจับกุมแก๊งลักษณะนี้หรือคดีใหญ่ ๆ มาหลายครั้ง ทั้งภาคเหนือและภาคอีสาน แต่ก็ยังมีการกระทำต่อเนื่อง เหตุผลมาจากผู้เสียหายถูกยักยอกไปในแต่ละพื้นที่ ทำให้เหมือนคดีต่างคนต่างทำ และเป็นเพียงความผิดเรื่องยักยอกทรัพย์ อาจจะยอมความได้บ้าง ทำให้ผู้กระทำความผิดไม่เข็ดหลาบ ซึ่งพิจารณาแล้วเห็นว่า ร่วมกันกระทำผิดธุระ

 

“ลักษณะนี้เป็นความผิดมูลฐานตามพรบ.ฟอกเงิน มาตรา 3 วงเล็บ 18 ซึ่งเข้าข่ายความผิดฐานฟอกเงินด้วยจึง ต้องขอโอนสำนวนคดีทั้งหมด ที่มีการแจ้งความไว้แต่ละพื้นที่นำมาไว้ที่กองปราบปราม เพื่อที่จะทำการสอบสวนฝ่ายเดียว เพื่อดำเนินคดีให้สิ้นซากไป เพราะความผิดฐานฟอกเงินจะมีอัตราโทษสูงกว่ายักยอก จำคุก 1-10 ปี ปรับตั้งแต่ 20,000 ถึง 200,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ”

 

ด้าน นาย หนูกรรณ อายุ 43 ปี ช่างรับเหมา ชาว จ.ระยอง เจ้าของรถยนต์กระบะ นี่ห้ออีซูซุ สีดำ ทะเบียน ขฉ 6976 ระยอง (หนึ่งในผู้เสียหาย) ให้การว่า เมื่อวันที่ 19 ส.ค.65 ที่ผ่านมา ตนได้ติดต่อจำนำรถ ในราคา 60,000 บาท โดยได้มีการทำสัญญา และโอนเงินให้จำนวน 54,000 บาท เนื่องจากมีการหักดอกเบี้ย เป็นจำนวน 6,000 บาท  

 

 

 

ผู้เสียหายที่นำรถมาจำนำแล้วถูกนำไปขายต่อ

 

 

ต่อมาได้ติดต่อกับ ทางเพจว่าจะขอปิดยอดจำนวน 60,000 บาทในเดือนตุลาคม แต่ไม่มีการตอบรับ รวมถึงบ่ายเบี่ยงโดยอ้างว่า ไม่ได้ทำงานกับบริษัทรับจำนำรถแล้ว ซึ่งผู้เสียหายต้องการสอบถามและขอดูว่ารถยนต์ของตนที่จำนำไว้จอดอยู่ที่ไหนแต่ก็ไม่ได้รับคำตอบ กระทั่งทางเจ้าหน้าที่กองปราบได้ติดต่อมาสอบถามว่าได้จำนำรถไว้หรือไม่ ก่อนจะแจ้งว่าได้พบรถของตนซึ่งเป็นของกลาง และให้เข้ามาตรวจสอบ

 

 

หลักฐานที่ผู้เสียหายแชทคุยกับคนร้ายหลอกจำนำรถ

 

 

เบื้องต้นทางพนักงานสอบสวนกองปราบเตรียมสอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้องและ ขยายผลจับกุมเครือข่ายดังกล่าวในข้อหายักยอกทรัพย์และพรบ.ฟอกเงินและ สอบสวนผู้ที่รับซื้อฝากเข้าข่ายข้อหารับซื้อของโจรหรือไม่เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป