มวยถูกคู่ จับตา "สันธนะ-ชูวิทย์" งัดหลักฐาน แฉกันต่อ ปม กลุ่มทุนจีนสีเทา
มวยถูกคู่ ซัดกันไม่หยุด จับตา วันนี้ "สันธนะ-ชูวิทย์" ตั้งโต๊ะแถลง งัดหลักฐานเด็ด แฉกันต่อ ปม "กลุ่มทุนจีนสีเทา"
จากประเด็นร้อน กลุ่มทุนจีนสีเทา จนเกิดศึกปะทะคารมอย่างดุเดือด เป็นมหากาพย์ ถึงขั้นประกาศขอจองล้างจองผลาญ ระหว่างอดีตนายตำรวจดัง "สันธนะ ประยูรรัตน์" กับ "ชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์" ที่ออกมาแฉไม่หยุด ถึงกลุ่มนายทุนจีน ที่เข้ามาทำธุรกิจผิดกฎหมายในไทย ก่อนที่อีกฝ่าย จะออกมาเปิดเผยคลิปสถานบันเทิงในโรงแรมของนายชูวิทย์ เปิดเกินเวลาและสงสัยว่าจะมีการมั่วสุมยา งัดหลักฐานกันแบบไม่หยุดหย่อน
ล่าสุด วันนี้ (7 ธันวาคม 2565) เวลา 10.00 น.นายสันธนะ เตรียมที่จะแถลงรายละเอียดเบื้องหลัง ของการเปิดโปง ธุรกิจทุนจีนสีเทาของนายชูวิทย์ว่า มีผู้กำกับอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ และเอื้ออำนวยให้ นายชูวิทย์ นำข้อมูลมาเปิดเผย พร้อมจะให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชน กรณีแจ้งความดำเนินคดีกับ นายชูวิทย์ และพวก พร้อมเบื้องหลังบุคคลเปิดโปง 5 กลุ่มมาเฟียจีนสีเทา และเหตุปั่นกระแส "ขายชาติ"
นายสันธนะ กล่าวว่า ที่ผ่านมา ตนได้ยื่นหนังสือถึง เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร และ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง. เนื่องจากเรื่องดังกล่าว ไม่ใช่เรื่องส่วนตัวของตนเอง หรือเสียหายโดยตรง
แต่เป็นเรื่องที่นายชูวิทย์ มีพฤติกรรมทำให้เกิดความเสียหายต่อสถานที่ราชการ อย่างรัฐสภา และอีกประเด็น คือ การที่นายชูวิทย์ มีข้อมูลธุรกรรมทางการเงินของตนเอง และบุคคลอื่น ๆ ก่อนนำมาเปิดเผยต่อสาธารณะ เรื่องนี้ทำให้คนที่ทำธุรกิจ อาจได้รับความเสียหาย และกังวลต่อการทำธุรกิจต่อไป
จึงอยากให้ ป.ป.ง.ตรวจสอบ เพราะหากบุคคลอย่างนายชูวิทย์ สามารถเข้าถึงธุรกรรมทางการเงินของคนอื่นได้ ก็ไม่จำเป็นต้องมี ป.ป.ง. ปล่อยให้นายชูวิทย์ตรวจสอบก็พอ
เมื่ออีกฝ่ายท้าชน ในวันเดียวกัน นายชูวิทย์ ก็เตรียมที่จะเปิดแถลงข่าว “ทลายภูเขาน้ำแข็ง ตม.” ถึงขบวนการเจ้าหน้าที่ ตม.อำนวยความสะดวกกลุ่มทุนจีนสีเทา พร้อมเปิดหลักฐาน การจัดตั้งมูลนิธิรับจดทะเบียนให้คนจีนพักอาศัยในไทย โดยผิดกฎหมาย และตอบทุกคำถามในประเด็นที่นายสันธนะ แถลง
ขณะเดียวกัน นายชูวิทย์ ได้โพสต์ข้อความแสดงความชื่นชมพล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน ที่ได้ตัดสินใจลาออกจากที่ปรึกษา ป.ป.ส. โดยระบุว่า ถือว่า "มีสปิริต" ที่ยอมลาออก เพื่อไม่ให้สังคมติฉินนินทากังขา กรณี "ตู้ห่าว" ผู้ต้องหาคดียาเสพติด ที่เป็นเครือญาติดองกันอยู่ในฐานะ "เขย" เป็นไปอย่างสง่าม แม้ว่าคดียังไม่ได้ตัดสิน แต่สังคมตั้งคำถามสงสัย
ดังนั้น การลาออกของ พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ จึงเป็นทางลงอย่างสง่างาม ให้ ป.ป.ส. ทำงานอย่างไร้ความตะขิดตะขวง
วันนี้ จึงเป็นศึกที่ต้องจับตาอีกหนึ่งวัน ระหว่างเจ้าของฉายาจอมแฉ กับ จอมปูด ว่าจะมีหมัดเด็ดอะไรต่อ