ข่าว

ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล แจงคดี "ตู้ห่าว" เล็งเป็นคดีข้ามชาติ

ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล แจงคดี "ตู้ห่าว" เล็งเป็นคดีข้ามชาติ

15 ธ.ค. 2565

ผบช.น.เผยคืบหน้า ตั้งต้นแจ้งข้อหากับ 2 นายทุนจีน ก่อนจับเพิ่ม 7 ใน 10 บุคคลนอก หลายสัญชาติมีเส้นทางเงินเชื่อมโยงกัน เป็นที่มาของการเสนอ "อัยการสูงสุด" งัด พรบ.ป้องปรามอาชญากรรมข้ามชาติ

พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. เผยถึงความคืบหน้า ว่า ในทางกฎหมาย ตำรวจได้ดำเนินคดีกับบุคคลชาวจีน 2 คนที่ตรวจพบในห้องเก็บยา ในข้อหามีเคตามีนไว้ในครอบครอง และได้สืบสวนเส้นทางการเงินและการติดต่อสื่อสาร พบความเกี่ยวข้องกับบุคคลอื่นๆ อีก 10 ราย ทั้งที่อยู่และไม่อยู่ในที่เกิดเหตุ จนสามารถออกหมายจับได้ ตอนนี้สามารถจับกุมได้แล้ว 7 ราย ทำหน้าที่แตกต่างกัน และยังได้มีการเสนอไปให้อัยการสูงสุด พิจารณาว่า ทั้ง 10 รายนี้ เกี่ยวข้องกับองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติหรือไม่ เพราะบุคคลที่เกี่ยวข้องมาจากหลายประเทศ / หลายสัญชาติ แต่มีความเชื่อมโยงกัน จึงพิจารณาแล้วเห็นว่าเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ เลยได้เสนอไปยังอัยการสูงสุด จนนำไปสู่การตั้งคณะทำงานฯ ตามที่ปรากฎเป็นข่าว

 

พล.ต.ท.ธิติ  ยังได้กล่าวถึง บุคคลที่เป็นผู้ดูแลสถานที่ ซึ่งมีผู้กล่าวถึงว่าเป็นเพียงยามนั้น โดยยืนยันว่า บุคคลนี้ไม่ใช่ยาม แต่ถูกจ้างไว้ดูแลสถานที่ ซึ่งขณะที่เข้าไปตรวจค้น บุคคลนี้ก็ได้แสดงตนเป็นผู้รับหมาย และบอกว่าเป็นคนดูแล เพราะในนั้นมีแต่ชาวต่างชาติ และบุคคลนี้เป็นคนที่สามารถสื่อสารได้ จึงถูกจ้างไว้ดูแล เมื่อตรวจพบยาเสพติด ก็ต้องแจ้งข้อหาตามหลักฐานที่ปรากฎ

ทั้งนี้ จากการสอบถามเบื้องต้น บุคคลนี้ไม่ได้ให้ข้อมูลที่เป็นจริง แต่หลังจากที่พนักงานสอบสวนได้พูดคุยระยะเวลาหนึ่งจนผู้ต้องหาไว้ใจ จึงให้การที่เป็นประโยชน์ ซึ่งในส่วนของความผิดก็ต้องพิจารณาสั่งคดีไปตามนั้น แต่คำให้การที่เป็นประโยชน์ก็ต้องพิจารณานำเข้าสำนวน มีทั้งภาพและเสียงประกอบการสอบปากคำว่า ผู้ให้ถ้อยคำอยู่ในสภาพที่มีสติ ไม่ได้ถูกโน้มน้าวหรือหว่านล้อมชักจูง