"ชูวิทย์" ชูใบแดง ไล่บิ๊กจ้าว ออกจากตำแหน่ง ผบช.น
"ชูวิทย์" เป่านกหวีดชูใบแดง ไล่บิ๊กจ้าว ออกจากตำแหน่ง ผบช.น. พร้อมเปิดหลักฐานสำคัญ เส้นทางการเงินผับจินหลิงว่าเชื่อมโยงไปถึงบริษัทของตู้ห่าว เป็นการฟอกเงินชัดเจน แต่ ผบช.น. กลับไม่ดำเนินคดี
นาย ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง เปิดแถลงข่าวเกี่ยวกับการทำคดี"ตู้ห่าว" ของผู้บัญชาการตำรวจนครบาล โดยระบุว่า จะต้องเปลี่ยนผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เพราะการทำงานในคดีนี้มีพิรุธ ทำให้ประชาชนไม่สามารถไว้วางใจได้ จึงต้องไล่ออกเท่านั้น
โดยนาย ชูวิทย์ เปิดเผยว่า ตอนสามทุ่มเมื่อคืนนี้ ได้มีคณะพนักงานสอบสวนคดีผับจินหลิงคนหนึ่ง ส่งข้อมูลสำคัญให้กับตน ซึ่งชี้ให้เห็นชัดเจนว่า ผบช.น. พยายามจะอำพรางคดีนี้ ในการไม่แจ้งข้อหาฟอกเงิน กับนาย ตู้ห่าว ทั้งที่มีหลักฐานที่ชัดเจน
นายชูวิทย์ ได้เปิดคลิปที่ ผบช.น. แถลงข่าวเมื่อวันที่ 15 ธ.ค. ที่ผ่านมา ที่มีช่วงหนึ่ง พ.ต.อ.สมบูรณ์ สุขศรีดาวเดือน ผกก.สส.3 บก.สส.บช.น. ได้นำม้วนกระดาษม้วนหนึ่งที่เป็นหลักฐานในคดีมามอบให้ ซึ่งนายชูวิทย์ ได้บอกว่า ม้วนกระดาษดังกล่าว คือ เส้นทางการเงินของผับจินหลิงพร้อมเปิดเผยให้สื่อมวลชนดู
โดยจากเอกสาร ชี้ให้เห็นว่า บัญชีคิวอาร์โค้ดของผับจินหลิง ได้เชื่อมโยงไปถึงบุคคล 2 คน คือ นายฟูจิ และนายหยางเฉิน ซึ่งทั้ง 2 คน มีการโอนเงินจากการค้ายาเสพติดกันไปมา และโอนเข้าออกบัญชีคิวอาร์โค้ดผับจินหลิง / จากนั้น นายหยางเฉิน ได้มีการโอนเงินต่อให้ นายเซนดิ แล้วนายเซนดิ ได้โอนต่อให้บัญชีม้า ที่ชื่อนายสิทธิพงษ์ ถือสัตย์เที่ยง และเงินจากบัญชีม้านี้ ก็ได้โอนต่อไปยังบริษัท โมเดิร์น เจมส์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ซึ่งมีชื่อนายตู้ห่าว ถือหุ้นอยู่ 51% // ทั้งนี้ ปัจจุบันนายฟูจิ และนายเซนดิ ถูกจับกุมอยู่ที่ ตม. แต่นายหยางเฉิน ซึ่งเป็นตัวการสำคัญ ได้หลบหนีไปได้
นายชูวิทย์ ระบุว่า เอกสารเส้นทางการเงินชิ้นนี้ ชี้ให้เห็นชัดเจนว่า เส้นทางการเงินของผับจินหลิง ได้เชื่อมโยงไปถึงบริษัทของนายตู้ห่าวที่เป็นธุรกิจถูกกฎหมาย เป็นการทำเงินจากยาเสพติดให้กลายเป็นเงินขาวสะอาด เข้าข่ายการฟอกเงินอย่างชัดเจน และเอกสารนี้ ผบช.น.ก็ได้ให้พ.ต.อ.สมบูรณ์ทำมาตั้งแต่แรกที่มีการเข้าตรวจค้นผับจินหลิง แล้วเหตุใดจึงไม่แจ้งข้อหาฟอกเงิน ทั้งที่มีหลักฐานเพียงพอต่อการแจ้งข้อกล่าวหา ไม่จำเป็นต้องรอ ป.ป.ง. พร้อมตั้งคำถามว่า ผบช.น. ได้มีการนำตัวนายสิทธิพงษ์ ซึ่งเป็นบัญชีม้ามาสอบปากคำแล้วหรือไม่
นายชูวิทย์ ยังบอกอีกว่า การที่ผบช.น. ไม่ดำเนินคดีในข้อหาฟอกเงิน ก็เป็นเพราะมีหลักฐานชิ้นนี้ซึ่งสามารถเอาผิดนายตู้ผ่าวได้อย่างแน่นอน จึงไปดำเนินคดีเรื่องยาเสพติดแทน เพราะพยานหลักฐานอ่อน เนื่องจากมีการทำลายพยานหลักฐานไปหมดแล้ว และยังบอกด้วยว่า การทำงานของ ผบช.น.เป็นการทำงานแบบ one man shoe for ตู้ห่าว แต่ไม่ใช่ for ประเทศชาติ เพราะเก็บข้อมูลเด็ดไว้กับตัวเองเพื่อช่วยเหลือนายตู้ห่าว
นอกจากนี้ นายชูวิทย์ยังได้ท้าให้ผบช.น.เข้าเครื่องจับเท็จ หากไม่ยอม ก็ต้องออกไป และเปลี่ยนหัวหน้าพนักงานสอบสวน ซึ่งฝากไปยังผบ.ตร.ว่าต้องดำเนินการเรื่องนี้โดยเร็วไม่เช่นนั้นสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะเสียหาย เพราะมี ผบช.น.เป็นม้าไส้ศึกที่ทรยศ จึงต้องเปลี่ยนม้าตัวนี้ออกกลางสนามรบทันที ถ้ายังไม่ออกตนก็จะไปร้องเรียนทุกทาง และแฉไม่หยุด และยังท้าให้ ผบช.น.ไปจุดธูป 3 ดอก สาบานที่สนามหลวงพร้อมตนว่าไม่ได้มีใครอยู่เบื้องหลัง
โดยช่วงหนึ่งของการแถลงข่าว นาย ชูวิทย์ ได้เป่านกหวีด พร้อมถือใบแดง พูดว่า ไอ้จ้าวออกไป พร้อมบอกว่าการกระทำของ ผบช.น. เป็นการอำพรางคดีที่เลวระยำที่สุด ตนในฐานะประชาชนจึงต้องไล่ออกไปให้พ้น และหากจะฟ้องตนกลับ ตนก็ไม่กลัว แต่ยิ่งชอบเพราะจะได้ไปเปิดหลักฐานสู้กันในชั้นศาล
ส่วนในวันพรุ่งนี้ (23 ธ.ค.) เวลา 11.00 น. ตนจะนำหลักฐานทั้งหมดที่มีไปให้ถ้อยคำกับอัยการที่สำนักงานอัยการตลิ่งชัน เนื่องจากคณะทำงานของอัยการสูงสุด ได้เรียกตนเข้าไปข้อมูลด้วย