"บิ๊กโจ๊ก" บินตรวจศูนย์พิสูจน์เอกลักษณ์บางสะพาน
"บิ๊กโจ๊ก" พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. นำทีมบินตรวจศูนย์พิสูจน์เอกลักษณ์บางสะพาน ช่วยเหลือส่งคืนร่างแก่ญาติ พร้อมเข้าช่วยเหลือสูญหายอีก 6 ราย
จากกรณีเมื่อวันที่ 18 ธ.ค.65 ประมาณ 23.30 น. เรือหลวงสุโขทัย ได้ประสบเหตุล่มกลางทะเลอ่าวไทย บริเวณ อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งขณะเกิดเหตุ มีลูกเรือโดยสารอยู่ภายในเรือ จำนวน 105 นาย ซึ่งสามารถช่วยเหลือลูกเรือได้จำนวน 76 ราย และสูญหาย 29 ราย ซึ่งได้มีการตั้งศูนย์ปฏิบัติการส่วนหน้าภารกิจช่วยเหลือลูก เรือหลวงสุโขทัย โดยตามที่สื่อมวลชนนำเสนอไปแล้วนั้น
จากกรณีดังกล่าว พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และแพทย์นิติเวช สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เข้าช่วยเหลือสนับสนุนภารกิจในกรณีพบร่างผู้เสียชีวิต โดยจะช่วยตรวจพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคล โดยการตรวจลายนิ้วมือ ลักษณะฟัน และดีเอ็นเอ เพื่อสามารถส่งคืนร่างดังกล่าวให้กับญาติของผู้เสียชีวิตได้อย่างถูกต้อง
วันนี้ (30 ธ.ค.65) พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ต.วรณัน สุขเจริญ รอง ผบช.สพฐ.ตร. และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้เดินทางเข้าตรวจเยี่ยมศูนย์ปฏิบัติการส่วนหน้าภารกิจช่วยเหลือลูก เรือหลวงสุโขทัย รวมทั้งประชุมชี้แจงความคืบหน้าในภารกิจช่วยเหลือและตรวจพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคล โดยล่าสุดสามารถเข้าช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้แล้ว จำนวน 76 ราย เสียชีวิต 23 ราย ยังสูญหายอีก 6 ราย และพบศพที่รอการตรวจพิสูจน์อีก 1 ราย ซึ่งเจ้าหน้าที่ยังคงติดตามค้นหาอย่างต่อเนื่อง โดยในส่วนของญาติของผู้ที่ยังสูญหายที่เหลือ ได้มีการตรวจเก็บดีเอ็นเอเอาไว้แล้ว เพื่อความสะดวกรวดเร็วในการตรวจพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคล กรณีที่มีการพบร่างผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม โดยรายชื่อของผู้สูญหายอีก 6 ราย ประกอบด้วย
1. ว่าที่ น.ต.พลรัตน์สิโรดม
2. พ.จ.อ.จิราวัฒน์เจริญศิลป์
3. จ.ต.โสภณวงษ์สนิท
4. พลฯ อับดุลอาซิสมะแอ
5. พลฯ ชัยชนะช่างวาด
6. พลฯ ทวีศักดิ์แซ่เซียว
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า กรณีดังกล่าว ได้ให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานและแพทย์จากสถาบันนิติเวช ช่วยสนับสนุนในภารกิจดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง ซึ่งที่ผ่านมาได้ตรวจพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคลและสามารถส่งคืนร่างผู้เสียชีวิตกลับไปสู่ญาติได้อย่างรวดเร็ว ต้องขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกคนที่ได้ช่วยกันปฏิบัติหน้าที่อย่างเข้มแข็ง แม้ว่าการตรวจพิสูจน์เอกลักษณ์จะมีความยากลำบากเนื่องจากสภาพร่างของผู้เสียชีวิตที่เสื่อมสภาพจนการตรวจพิสูจน์กระทำได้ยากแล้วก็ตาม โดยเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานและแพทย์นิติเวชจะอยู่ปฏิบัติหน้าที่ในการสนับสนุนการตรวจพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคลต่อไปจนกว่าภารกิจการช่วยเหลือจะเสร็จสิ้น และสามารถคืนร่างผู้เสียชีวิตให้ญาติได้จนครบทุกคน