ข่าว

สรุปรวดเดียวจบ "ดาราสาวไต้หวัน" แฉ ตำรวจไทย รีดไถเงิน งานนี้ใครลวงโลก

สรุปรวดเดียวจบ "ดาราสาวไต้หวัน" แฉ ตำรวจไทย รีดไถเงิน งานนี้ใครลวงโลก

30 ม.ค. 2566

สรุปประเด็นดราม่า รวดเดียวจบ "ดาราสาวไต้หวัน" แฉ "ตำรวจไทย" รีดไถเงิน ตั้งแต่ต้นจน (เกือบ) จบ งานนี้ ใครลวงโลก

สรุปประเด็นดราม่า ดาราสาวไต้หวัน VS ตำรวจไทย

 

1. อันหยูชิง ดาราสาวไต้หวัน โพสต์เรื่องราว โดยอ้างว่า ถูกตำรวจไทยตั้งด่าน ขอค้นตัว ค้นกระเป๋า ก่อนรีดไถเงิน 27,000 บาท เพื่อแลกกับการปล่อยตัว ขณะมาท่องเที่ยวในประเทศไทย เมื่อช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา จุดเกิดเหตุอยู่ในพื้นที่ สน.ห้วยขวาง เธอประกาศว่า จะไม่กลับมาเหยียบเมืองไทยอีก เพราะไม่คิดว่าจะเจอเหตุการณ์ที่เลวร้าย และน่ากลัวที่สุดในชีวิต

 

2. สะเทือน บชน. และตำรวจ สน.ห้วยขวาง ทันที ตอนแรกบอกไม่มีการตั้งด่าน สุดท้ายต้องออกมาชี้แจงว่า ตำรวจฝ่ายปราบปรามตั้งด่านจริงทั้งหมด 7 นาย แต่ไม่มีการรีดไถเงิน แถมใจดี ไม่ได้ดำเนินคดีดาราสาวไต้หวัน ข้อหามีบุหรี่ไฟฟ้า แต่ ผบ.ตร. ยังไม่เชื่อฝ่ายใด สั่งตรวจสอบให้ได้ข้อเท็จจริงถึงที่สุด เนื่องจากกระทบการท่องเที่ยวประเทศไทย

ดาราสาวไต้หวันแฉตำรวจไทยรีดไถเงิน

3. ตำรวจห้วยขวาง งัดหลักฐานสู้ทุกทาง ทั้งเชิญคนขับแกร็บ คืนวันที่ดาราสาวไต้หวัน พร้อมกลุ่มเพื่อน นั่งมาเจอด่านตรวจ เข้าให้ปากคำ ซึ่งคนขับแกร็บระบุว่า ดาราสาวไต้หวันเมาหนักมาก และไม่เห็นมีการรีดไถเงิน นอกจากนั้น ยังมีการเปิดคลิปกล้องวงจรปิด ไทม์ไลน์ยาว 46 นาที ตั้งแต่ต้นจนจบ ที่บ่งบอกว่า ไม่เห็นการรีดไถเงิน และข้อมูลที่ดาราสาวไต้หวันให้สัมภาษณ์ เวลาไม่ตรงกัน

 

งัดหลักฐานซัดกันนัว ส่อแววโอละพ่อ?

 

4. ดาราสาวไต้หวัน "อันหยูชิง" ให้สัมภาษณ์สื่อท้องถิ่นไต้หวัน ยืนยันไม่ได้เมา และ ถูกรีดไถเงินจริง ซัดตำรวจไทย ฝ่ายหนึ่งบอกไม่มีด่าน อีกฝ่ายบอกมีด่าน เห็นได้ชัดว่า ตำรวจไทยโกหก หลังจากได้เงินไป มีตำรวจรายหนึ่งยื่นบุหรี่ไฟฟ้ามาให้ ก่อนถ่ายรูปเก็บไว้เป็นหลักฐาน และไม่ยอมให้ไปสถานีตำรวจ

 

5. ตำรวจเปิดภาพหลักฐานอีกครั้ง ขณะที่ ดาราสาวไต้หวัน กำลังถูกตรวจค้นภายในจุดตรวจ หน้าสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำประเทศไทย ริมถนนรัชดาภิเษก เป็นภาพที่เจ้าตัวถือบุหรี่ไฟฟ้าสีส้มชัดเจน รวมทั้งวงจรปิด ขณะกำลังเดินตลาดห้วยขวาง พร้อมกับเพื่อนชายอีก 2 คน สอดคล้องกับคำให้การของ คนขับรถแท็กซี่ ที่ยืนยันว่า ได้รับคนกลุ่มนี้มาจากจุดตรวจ ก่อนมาส่งทั้งหมดที่เหลือ ที่ตลาดห้วยขวาง

ภาพวงจรปิดดาราไต้หวัน

6. หลังจากข้อมูลเริ่มขัดแย้ง เสียงสังคมเริ่มแตก เมื่อหลายประเด็นชวนให้เกิดข้อกังขา ว่าคดีนี้จะพลิกล็อกเหมือนคดี "หมวยโซ" เมื่อ 20 ปีก่อน แต่บางส่วนก็มองว่าฝั่งตำรวจมีการทำลายหลักฐานหรือไม่

 

7. ผบช.น สั่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กับตำรวจที่ปฎิบัติหน้าที่ในวันดังกล่าว และการตรวจค้นพบบุหรี่ไฟฟ้าผิดกฎหมาย ยืนยันสามารถดำเนินคดีได้ ตามพ.ร.บ.ศุลกากร แต่ยืนยันว่า ไม่มีใครยื่นบุหรี่ไฟฟ้าให้ดาราสาวไต้หวันตามที่กล่าวอ้าง พร้อมประสานไปยังไต้หวัน เพื่อขอเข้าสอบปากคำดาราสาวไต้หวัน เพื่อความกระจ่างของคดี

ภาพวงจรปิดดาราสาวไต้หวัน

 

คดีส่อแววพลิกอีกครั้ง

 

8. ระเบิดลงทันที เมื่อเจ้าพ่อจอมแฉ "ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์" เปิดข้อมูลเด็ดว่า ตำรวจห้วยขวาง รีดไถเงิน ดาราสาวไต้หวัน จริง ยืนยันจาก โดยยืนยันจากสาวไทย ที่เป็นคนจ่ายเงิน 27,000 แถมแฉต่อว่า มีการสั่งลบคลิปที่หน้าสถานทูต และ ลบคลิปจากกล้องที่ติดอยู่หน้าหมวกของตำรวจที่ด่าน กล่อมให้คนขับแกร็บยืนยันว่าดาราสาวไต้หวันเมามาก

 

9. มีรายงานว่า มีตำรวจ 1 ใน 7 นาย ยอมรับว่า รับเงินจริง และมีการแบ่งเงินกับตำรวจนายอื่นในคืนตั้งด่าน ช่วงแรกปกปิด เพราะเห็นว่าเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ

 

10. ทุกอย่างพุ่งเป้าไปที่ ผบช.น.จะว่าอย่างไรต่อไป สุดท้ายระเบิดลงของจริง เมื่อ ผบ.ตร.มีคำสั่งเด้ง ผู้กำกับ สน.ห้วยขวาง ทันที โดยให้ไปช่วยศูนย์ปฎิบัติการกองบัญชาการตำรวจนครบาล ซึ่ง ผบช.น.บอกว่า ประเด็นรีดไถเงิน ยังไม่ชัดเจน แต่พร้อมฟันทันที และจะบินไปสอบปากคำดาราสาวไต้หวันเพื่อความกระจ่าง

 

บทสรุปของคดีจะเป็นอย่างไร จะซ้ำรอยคดี "หมวยโซ" หรือ ตำรวจเอง ที่ปิดบังความจริง ก็ควรเรียกความเชื่อมั่น เพื่อกู้ภาพลักษณ์ให้กับประเทศในเร็ววันนี้