แฉ ด่านตรวจ ทุจริตเรียกรับเงิน กรณี ดาราสาวไต้หวัน จับกุมแต่ไม่ส่งดำเนินคดี
มหากาพย์ ปม จับ ดาราสาวไต้หวัน และ เพื่อน ที่ด่านตรวจ รีดไถเงิน ชูวิทย์ อ้าง เป็นช่องทางหาเงินส่งหน่วยเหนือ นักวิชาการอดีตตำรวจ ระบุมีจริง ทำตัวเป็น ศาลเตี้ย เคลียร์หน้าด่าน
“ ไม่ได้ต้องการที่จะให้เรื่องราวที่เกิดขึ้นมันใหญ่โตระดับประเทศ เพราะส่วนตัวเขาก็ยังรักเมืองไทย อยากเดินทางกลับมาประเทศไทยอีก “
ถ้อยคำของ สกาย หนุ่มชาวสิงคโปร์ ผู้เป็นพยานในกลุ่ม 4 นักท่องเที่ยวเหตุการณ์ตำรวจรีดไถเงิน ซึ่งมีดาราสาวไต้หวัน รวมอยู่ด้วย ที่ด่านตรวจหน้าสถานทูตจีน ที่ได้บอกเล่าในวงแถลงข่าว ของ ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ที่ได้ออกมาค้นหาความจริงกรณีนี้ ผ่านการรายงานของผู้สื่อข่าวที่ติดตามข่าวนี้ ส่งเข้ามาบอกเล่าในรายการ คมชัดลึก ประเด็น จำนนต่อหลักฐานเปิดตัว “พยาน” มัด ตร.รีดไถ
คงไม่ต้องลำดับสาวความเดิมให้ยืดยาว ใจความสำคัญในครั้งนี้ คือ การเปิดตัวพยานสำคัญ ต่อการรีดไถเงิน 27,000 บาท ในการเจอบุหรี่ไฟฟ้าในครอบครอง
ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ที่ได้ให้สัมภาษณ์ผ่านโทรศัพท์เข้ารายการ ได้กล่าวว่า ต้องยกเลิกด่านตรวจ ส่วนผู้บัญชาการตำรวจนครบาลต้องเอาปี๊บไปคลุมหัว เขาขยายความกล่าวอ้างต่อไปอีกว่า ด่านตรวจทั้งหมดเป็นด่านรีดไถ ไว้สำหรับใช้หาเงิน ไว้หาเงินให้กับผู้ใหญ่ บ่อนการพนันไม่มีในตอนนี้ ก็เลยเอาด่านตรวจมาหากินแทน
ทั้งยังระบุต่อไปด้วยว่า คนดีกลัวด่านตรวจ ส่วนคนร้ายไม่กลัว เพราะสามารถจ่ายเงินได้ มีอัตรา เมาแล้วขับ 3หมื่นบาท บุหรี่ไฟฟ้า 3 หมื่นบาท ฉี่ม่วง (ตรวจพบมีสารเสพติด) 1 แสนบาท นี่คือระบบที่เลวร้ายที่สุด แต่เดิมไม่มี แต่ทุกวันนี้ด่านตรวจตั้งทั่วไปหมด ทุกสถานีตำรวจต้องหาเงิน ด่านละ 1 แสนบาท ต้องไปหามาให้ได้ 88 สน. คูณ 30 วัน ประมาณ 200 ล้านบาท จราจรกลาง ด่านละ 1 แสนบาท และสามารถตั้งด่านตรวจได้ทั่วกรุงเทพฯ วันหนึ่ง10-20 ด่าน ได้เงินมาเท่าไหร่ ส่งไปตามลำดับ
“คุณเห็นเขาเป็นนักท่องเที่ยว ดีใจ เจอบุหรี่ไฟฟ้า บุหรี่ไฟฟ้ามันหาซื้อได้จากตลาดทั่วไป เขาไม่รู้หรอก ว่ามันผิดกฎหมาย เพราะขายอยู่ทั่วไป ใครจะไปรู้ กัญชายังถูกกฎหมายเลย “
ผศ.ร.ต.อ.ดร.วิเชียร ตันศิริคงคล อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา ได้เอ่ยในรายการถึงคำว่า ด่านทองคำ ซึ่งเขาอธิบายว่า โรงพักมันมีการแบ่งเกรด เป็นเกรดเอ เกรดบี พื้นที่ห้วยขวาง ถูกจัดเป็นเกรดเอ เพราะมีสถานบริการ หรือมีอะไรที่สามารถหาเงินหาทองได้ บางพื้นที่ที่มีโรงงานอุตสาหกรรมจำนวนมาก ก็ถูกจัดเป็นเกรดเอได้เช่นกัน เพราะในโรงงานมีแรงงานต่างด้าว และห้วยขวาง เป็นเกรดเอด้วยปัจจัย อุดมสมบูรณ์ด้วยต่างด้าว อุดมสมบูรณ์ด้วยสถานที่เที่ยว คนเที่ยวมีทั้งคนไทยและต่างชาติ และคงไม่มีใครที่เที่ยว 5 ทุ่มกลับบ้าน ต่างก็เที่ยวกันเต็มที่ และทำให้มีอย่างอื่นแฝงเข้ามา อาจจะเป็นยาเสพติด สารเสพติด รวมถึงบุหรี่ไฟฟ้า
ที่น่าสนใจคือ วิเชียร บอกว่า ตามสถานบันเทิง มีคนที่เป็นสาย คอยชี้เป้าให้ตำรวจด้วย เมื่อเข้าไปยังด่านตรวจ ส่วนใหญ่จะมีความผิดตามการรายงาน แล้วด่านตรวจพวกนี้ทำเงินได้จำนวนมาก เขายกตัวอย่างให้ผู้ชมคิดตามว่า ด่านตรวจเป่าแอลกอฮอล์ มีจำนวนมาก แต่สวนทางกลับสถิติของ เมาแล้วขับ ที่มีน้อยมาก ที่จับกุมแล้วนำส่งศาล เปรียบเทียบปรับ คุมประพฤติ ส่วนใหญ่ใช้วิธีการ ศาลเตี้ย เคลียร์หน้าด่าน ต่างฝ่ายต่างสมยอมกัน เป็นการสมยอมที่มีมูลค่า สมัยที่เขารับราชการตำรวจ มีศัพท์ของตำรวจ ที่ว่า โทษอาญาสูง จะชอบใจกัน เพราะเป็นหมูติดมัน
สามารถหาผลประโยชน์ได้ ทั้งที่ในความเป็นจริงจะต้องดำเนินการส่งตัวดำเนินคดีกับร้อยเวรที่โรงพัก เพื่อดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องตามความผิด แต่ไม่ทำกันอย่างนั้น กลายเป็นว่าไม่ถึงร้อยเวร เพราะถ้าถึงร้อยเวร จะกลายเป็น กระดูกขัดมัน หาประโยชน์อะไรไม่ได้แล้วถึงได้ส่งให้ร้อยเวร และประเทศไทย ด่านตรวจมีจำนวนมาก แต่อาชญากรรมยังมีจำนวนมาก แต่กลับกันเมืองนอก ด่านตรวจแทบไม่มี อาชญากรรมกลับน้อยตาม
รศ.พ.ต.ท.ดร.กฤษณพงค์ พูตระกูล ผู้ช่วยอธิการบดี และประธานกรรมการคณะอาชญาวิทยาและบริหารงานยุติธรรม มหาวิทยาลัยรังสิต ตั้งข้อสังเกตที่ส่อการกระทำความผิด ได้แก่ เรื่องกล้องประจำตัวเจ้าหน้าที่ ที่มีปัญหาหลายตัว ซึ่งผิดสังเกตว่าทำไมต้องมาเสียพร้อมๆกัน รวมทั้งการให้ข้อมูลพยานหลักฐาน ซึ่งสอดรับกับประจักษ์พยาน และถ้ามองว่าต้องการดิสเครดิตประเทศไทย ตำรวจ ก็ต้องถามว่าทำแล้วได้อะไร แต่ในขณะนี้ส่วนตัวมองว่ามีการโกหกเกิดขึ้น
แต่เท่าที่ฟังผู้เสียหาย ประจักษ์พยาน ประมวลแล้วมีความเป็นไปได้ที่จะมีการกระทำผิด เพราะตามหลักปฏิบัติแล้ว เมื่อพบบุหรี่ไฟฟ้าต้องลงบันทึกประจำวันในการจับกุม นำส่งพนักงานสอบสวน ไม่ใช่ปล่อยตัวไป แล้วการใช้เวลาที่บริเวณด่านตรวจนาน 40 กว่านาที ซึ่งมองว่าไม่ใช่เรื่องปกติ ทั้งมีความเป็นพิรุธเกิดขึ้น เพราะในต่างประเทศ หากมีการจับกุมที่ใช้เวลานานแบบนี้ จะถูกตั้งคำถามทันที เพราะส่อไปในทางเจตนาที่ไม่สุจริต
กฤษณพงค์ มองว่า ต้องพัฒนาเจ้าหน้าที่ให้มีการทำงานตามหลักธรรมาภิบาล การรวมศูนย์อำนาจ ใช้ระบบราชการแบบที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน เอื้อประโยชน์ต่อการทุจริต มีประชาชนที่คอยช่วยเหลือการทำงานเจ้าหน้าที่ เป็นหูเป็นตา แจ้งเบาะแส ในกรณีเจอเจ้าหน้าที่ทำไม่ถูกต้อง ให้ความรู้ประชาชน ช่วยเฝ้าระวังอย่างไร แจ้งข้อมูล ข่าวสาร อย่างไร รวมทั้งให้ความรู้ให้ความตระหนักต่อเจ้าหน้าที่ และหัวใจสำคัญคือ การบังคับใช้กฎหมาย