กู้ได้แล้วฮาร์ดดิสก์กล้องหน้าหมวก"ตร.ห้วยขวาง"โดนทำลาย
ผบช.น.เผยความคืบหน้าคดี"ดาราสาวไต้หวัน" พฐ.กู้ภาพจากกล้องติดหมวก 3 ตัวคดี"ตร.ห้วยขวาง"ตั้งด่านรีดไถ่ได้แล้ว อยู่ระหว่างไล่หาภาพช่วงเกิดเหตุ ด้านผู้การสืบฯ เร่งหาความเชื่อมโยง-ตรวจมือถือ ตร.14นาย ดูความผิดปกติพร้อมหาปลายทางเงินส่งต่อถึงใคร
3 ก.พ.2566 คดีฉาววงการสีกากี กรณีดาราสาวไต้หวันแฉตำรวจไทยตั้งด่านรีดไถเงินจำนวน 27,000 บาท ยังมีความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้ว่าจะมีการดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสน.ห้วยขวางไปแล้ว 6 นาย โดยมีการตั้งข้อหาทั้ง ม.157 เนื่องจากมีการให้การว่ากลุ่มของดาราสาวไต้หวันถูกตรวจพบว่ามีบุหรี่ไฟฟ้า แต่ไม่มีการจับกุมดำเนินคดี แต่กลับมีการเรียกเงินสินบน ซึ่งทำให้ตำรวจทั้ง 6 นาย ถูกแจ้งข้อหาเพิ่มเติม ในม.149 ซึ่งมีโทษหนักจำคุกตลอดชีวิต หรือประหารชีวิต
ซึ่งหลังจากคุมตัวตำรวจทั้ง 6 นาย ที่ให้การรับสารภาพในชั้นจับกุมมาสอบปากคำเพิ่มเติมปรากฎว่าทั้งหมดกลับคำให้การโดยปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา
ในส่วนของการเสาะหาพยานหลักฐานรวมถึงการกู้ภาพจากกล้องวงจรปิดในบริเวณที่มีการระบุว่าเป็นจุดเกิดเหตุ ล่าสุด พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) เปิดเผยภายหลังประชุมคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง และชุดคลี่คลายคดีเพื่อติดตามความคืบหน้าการขยายผลตรวจสอบในประเด็นต่าง ๆ โดยระบุว่า ในเบื้องต้น ได้รับรายงานจากกองพิสูจน์หลักฐานว่า สามารถกู้ภาพจากกล้องติดหมวกตำรวจที่ไปปฏิบัติหน้าที่ในคืนวันเกิดเหตุได้แล้ว 3 ตัว
"จากการตรวจสอบยืนยันว่าภาพไม่ได้ถูกลบ หรือถูกอัดทับแต่"ฮาร์ดดิสก์" หรือพื้นที่จัดเก็บข้อมูลของกล้องถูกทำลาย จึงต้องใช้เทคนิคพิเศษในการกู้ภาพกลับมา ซึ่งยืนยันว่าพบภาพที่ถูกบันทึกไว้จำนวนหลายชั่วโมง แต่ยังไม่สามารถระบุได้ว่า มีภาพขณะที่เกิดเหตุหรือเห็นเหตุการณ์ขณะเรียกรับเงินหรือไม่"
เบื้องต้น คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง อยู่ระหว่างการนำภาพที่กู้คืนมาได้ไปตรวจสอบ หากพบลักษณะที่ชี้ให้เห็นได้ว่าเป็นการกระทำผิดจริง ก็จะนำเข้าสู่สำนวนคดีต่อไป
ด้าน พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า ส่วนที่ฝ่ายสืบสวนกำลังดำเนินการตรวจสอบ คือ การหาความเชื่อมโยงกับผู้ต้องสงสัยรายอื่น ๆ ซึ่งอาจมีรายที่ 7 และ 8 รวมถึงการตรวจสอบโทรศัพท์มือถือของตำรวจสน.ห้วยขวาง ทั้ง 14 นาย ที่ปฏิบัติหน้าที่ในเวลานั้นทั้งหมด มาตรวจสอบเพื่อดูความผิดปกติ
"เบื้องต้นยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ว่า ตรวจสอบพบสิ่งใดหรือไม่ แต่ยืนยันได้ว่าหากผู้ต้องหามีการทำบางสิ่งบางอย่างที่คาดเดาไว้จริง จะยืนยันพฤติการณ์ "ร่วมกัน" ของกลุ่มผู้ต้องหาได้ทันที"
ทั้งนี้ มีรายงานข่าวว่า "สกาย" ชายชาวสิงค์โปร์ซึ่งเป็นผู้จ่ายเงินจำนวน 27,000 บาท ให้การยืนยันว่า วันนั้นได้จ่ายเงินเป็นธนบัตรฉบับละ 1,000 บาท จำนวน 27 ใบ ให้กับตำรวจที่ไม่สวมใส่เครื่องแบบ ซึ่งตำรวจอยู่ระหว่างการตรวจสอบภาพวงจรปิด เพื่อติดตามว่าเงินจำนวนดังกล่าว ถูกส่งต่อไปอยู่ที่ผู้ใด