ย้อนรอย 19 ชั่วโมงระทึกจ่าทหารคลั่ง'กราดยิงโคราช' ปี63 กับความสูญเสีย 31 ศพ
ย้อนรอยครบรอบ 3 ปี จ่าทหารคลั่ง'กราดยิง'กลางห้างดังเมืองโคราช กับปฏิบัติปิดล้อมกับความสูญเสีย 31 ศพ บาดเจ็บอีก 58 ราย
โศกนาฏกรรมสะเทือนขวัญคนทั้งประเทศ เกิดขึ้นในช่วงบ่ายของวันที่ 8 ก.พ. 2563 จ.ส.อ.จักรพันธ์ ถมมา ชาวตำบลหนองสังข์ อำเภอแก้งคร้อ จังหวัดชัยภูมิ ทหารสังกัดกองพันสรรพาวุธกระสุนที่ 22 กองบัญชาการช่วยรบที่ 2 ค่ายสุรธรรมพิทักษ์ ใช้อาวุธปืนยิง พ.อ.อนันต์ฐโรจน์ กระแส อายุ 48 ปี ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชา และนางอนงค์ มิตรจันทร์ อายุ 65 ปี แม่ยายของ พ.อ.อนันต์ฐดรจน์ เสียชีวิตภายในบ้านพัก โดยสาเหตุมาจากปัญหาเรื่องการซื้อบ้านในโครงการสวัสดิการทหาร
จากนั้น จ.ส.อ.จักรพันธ์ บุกไปที่คลังอาวุธกองพันสรรพาวุธกระสุนที่ 22 เพื่อชิงอาวุธสงครามออกมา โดยยิงทหารเวร และทหารดูแลคลังอาวุธ มีพลทหารบาดเจ็บ 1 นาย เสียชีวิตอีก 1 นาย
แล้วขับรถฮัมวี่ มุ่งหน้ามาที่วัดป่าศรัทธารวม เพื่อตามหาภรรยาของผู้บังคับบัญชาที่ถูกยิงเสียชีวิต โดยระหว่างยังได้กราดยิง ชาวบ้านเสียชีวิตอีกหลายราย กระทั่งทราบว่า ภรรยาของผู้บังคับบัญชาไปที่ห้างในตัวเมืองโคราช เขาจึงมุ่งหน้ามาที่ห้างดังกล่าว
เมื่อมาถึง จ.ส.อ.จักรพันธ์ ซึ่งอยู่ในอาการเหมือนคนไม่มีสติ ใช้อาวุธปืนกราดยิงประชาชนที่อยู่ภายในห้างเสียชีวิต บาดเจ็บไปจำนวนมาก ซึ่งระหว่างที่ก่อเหตุนั้น ก็มีการไลฟ์สดผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวไปด้วย
ขณะเดียวกัน พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในขณะนั้น ลงพื้นที่กำกับปฏิบัติการปิดล้อมเพื่อสยบความคลั่งของ จ.ส.อ.จักรพันธ์ โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจหน่วยจู่โจม ชุดอรินทราช 26 ,ทีมอนุมาน กองปราบปราม และเจ้าหน้าที่ทหารที่คอยช่วยในการลำเลียงประชาชนที่ติดค้างในห้างหนีออกมาท่ามกลางเสียงปืนที่ดังอยู่เป็นระยะ
ซึ่งจากปฏิบัติการปิดล้อม และจู่โจม หน่วยอรินทราช ซึ่งทำหน้าที่เป็นหน่วยหน้าพลีชีพ 2 นาย บาดเจ็บ 1 นาย
กระทั่งในเวลาประมาณ 09.00 น.ของวันที่ 9 ก.พ.2563 จ.ส.อ.จักรพันธ์ ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจวิสามัญ อยู่บริเวณชั้นล่างของห้าง เจ้าหน้าที่เร่งเข้าเคลียร์พื้นที่พร้อมช่วยเหลือประชาชนที่ยังติดค้างอยู่ออกมาได้อย่างปลอดภัย
ซึ่งจากเหตุการณ์สะเทือนขวัญเกือบ 20 ชั่วโมงกับปฏิบัติการสยบคลั่งในครั้งนั้น มีผู้เสียชีวิตไปทั้งสิ้น 31 ราย บาดเจ็บอีก 58 ราย
และเมื่อจากเหตุการณ์ในครั้งนั้นมีหลายฝ่ายออกมาวิเคราะห์ ถอดบทเรียนถึงสาเหตุ รวมถึงเรียกร้องให้ตรวจสอบกรณีที่ จ.ส.อ.จักรพันธ์ ไม่ได้รับความเป็นธรรมจากซื้อบ้านจนบานปลายกลายเป็นเหตุโศกนาฎกรรม
นอกจากนี้สื่อมวลชนที่ลงพื้นที่เกาะติดสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ก็ถูกเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากประชาชนว่ามีส่วนในการขัดขวางการทำงานของเจ้าหน้าที่ รวมถึงมีการเผยแพร่เหตุการณ์ที่ไม่เหมาะสม ซึ่ง กสทช.ได้สั่งปรับสื่อมวลชนไปด้วยกัน 3 ช่อง โดยปรับเป็นเงินจำนวน 250,000 - 500,000 บาท