ข่าว

ตร.ปอศ.รวบอดีตสาวแบงค์-สามี 'โกงเงินฝาก'ลูกค้า 36 ล้านโอนเข้าบัญชีตัวเอง

ตร.ปอศ.รวบอดีตสาวแบงค์-สามี 'โกงเงินฝาก'ลูกค้า 36 ล้านโอนเข้าบัญชีตัวเอง

08 ก.พ. 2566

ตำรวจ ปอศ.รวบอดีตสาวแบงค์ พร้อมสามี ร่วมกัน"โกงเงินฝาก"ลูกค้า 36 ล้านโอนเข้าบัญชีตัวเอง เจ้าของยังปากแข็ง ด้าน ตร.ยันมีหลักฐานชัด ผู้ต้องหามีความชำนาญ ใช้ช่องว่างข้อความระบุบนเช็ค

8 ก.พ.2566  ตำรวจปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญาทางเศรษฐกิจ (ปอศ.) จับกุมนางสาวลตา (สงวนนามสกุล) อายุ 33 ปี และ นายภรัณยู (สงวนนามสกุล) อายุ 36 ปี  ผู้ต้องหา ซึ่งเป็นอดีตพนักงานธนาคารแห่งหนึ่ง ซึ่งร่วมมือกับสามีโกงเงินฝากของลูกค้าธนาคาร มูลค่ากว่า 36 ล้านบาท

 

ก่อนหน้านี้ได้มีตัวแทนบริษัทรับเหมาก่อสร้าง จำนวน 2 แห่ง นำเช็คเงินสด มาฝากเข้าธนาคารแห่งหนึ่ง เพื่อชำระหนี้ที่ติดค้างกับทางธนาคาร รวมเป็นเงิน 36,202,965.18 บาท โดยดำเนินการผ่าน น.ส.ลตา ผู้ต้องหา ขณะนั้นเป็นพนักงานของธนาคาร ที่คอยทําหน้าที่ดูแล และประสานงาน 

 

 

 

 

 

 

 

รวบอดีตสาวแบงค์-สามี โกงเงินฝากลูกค้า 36 ล้านโอนเข้าบัญชีตัวเอง

 

 

ต่อมาปรากฎว่ายอดเงินทั้งหมดไม่ได้ถูกนำไปชำระหนี้ธนาคาร จึงตรวจสอบข้อเท็จจริงจนทราบว่า  น.ส.ลตา ซึ่งเป็นพนักงานธนาคารในขณะนั้น ได้แอบนำเช็คเงินสดดังกล่าว ฝากเข้าบัญชีธนาคารของ นายภรัณยู ผู้ต้องหาอีกราย ซึ่งเป็นแฟนหนุ่ม ก่อนนำไปใช้จ่ายส่วนตัว 

 

ผู้เสียหายจึงเข้าแจ้งความไว้ที่ พนักงานสอบสวน กก.5 บก.ปอศ. จนนำมาสู่การออกหมายจับ ศาลอาญาฯ และตามจับกุมตัวผู้ต้องหาทั้งสองได้ที่ห้องพัก คอนโดแห่งหนึ่ง ย่านอโศก ถนนดินแดง แขวงมักกะสัน เขตราชเทวี กรุงเทพฯ จากการสอบสวนในชั้นจับกุม ผู้ต้องหาทั้งสองให้การปฏิเสธ

 

 

 

 

รวบอดีตสาวแบงค์-สามี โกงเงินฝากลูกค้า 36 ล้านโอนเข้าบัญชีตัวเอง

 

 

เบื้องต้นแจ้งข้อหา น.ส.ลตา ในข้อหา “ร่วมกันลักทรัพย์นายจ้าง และเป็นพนักงานของสถาบันการเงิน กระทําการแสวงหาประโยชน์เพื่อตนเองโดยมิชอบ ” ส่วน นายภรัณยู แจ้งข้อหา “ร่วมกันลักทรัพย์หรือรับของโจร” จึงนำตัวส่ง พนักงานสอบสวน กก.5 บก.ปอศ. ดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป

 

ด้าน พ.ต.อ.เมฆพิศาล ศรีภิรมย์ ผู้กำกับการ 5 บก.ปอศ. กล่าวว่าในคดีนี้ผู้ก่อเหตุมีตําแหน่งเป็นพนักงานธนาคาร ซึ่งมีความรู้ความเข้าใจเรื่องระบบการเงินการธนาคารจึงอาศัยช่องว่างของข้อความที่ระบุบนเช็ค แอบโอนเงินที่ต้องสั่งจ่ายให้ธนาคาร ไปเป็นของตัวเอง จากการสืบสวนสอบสวนมีพยานหลักฐานชัดเจน ซึ่งหลังจากนี้จะได้ ดําเนินคดีตามกฎหมายต่อไป