ข่าว

เปิดใจ 'ส.ต.อ.สุพรรณบุรี' เจ้าของ จม.ลาออก ยัน หมดใจ รั้งไว้ก็ไม่มีประโยชน์

เปิดใจ 'ส.ต.อ.สุพรรณบุรี' เจ้าของ จม.ลาออก ยัน หมดใจ รั้งไว้ก็ไม่มีประโยชน์

21 ก.พ. 2566

เปิดใจ 'ส.ต.อ.สุพรรณบุรี' เจ้าของ จม.ลาออก สูญสิ้นศรัทธาในระบบ ข้าราชการตำรวจ ยัน เมื่อคนหมดใจ รั้งไว้ก็ไม่มีประโยชน์ คาด วันนี้รู้ผลสอบ

"เราเป็นตำรวจเราไปจับชาวบ้านเขา แต่เรามีคนในองค์กรทำเสียเองมันบาดใจ จึงหมดหวังสูญสิ้นศรัทธาในระบบข้าราชการตำรวจ" นั่นเป็นเหตุผลที่ "ส.ต.อ." ตำแหน่งผู้บังคับหมู่ ฝ่ายปราบปราม ใน จ.สุพรรณบุรี บอกถึงสาเหตุของการยื่นหนังสือลาออกจากข้าราชการตำรวจ หลังทำงานมานานกว่า 10 ปี จนกลายเป็นที่ฮือฮาบนโลกโซเชียล และเป็นที่มาให้มีการตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง

 

โดยในจดหมายของ ส.ต.อ.สุพรรณบุรี ยื่นเมื่อวันที่ 27 ม.ค.2566 ระบุว่า หมดหวังสูญสิ้นศรัทธาในระบบข้าราชการตำรวจ ปกป้องผู้กระทำความผิด ผู้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความสุจริต ไม่ได้รับการเหลียวแล ซึ่งเขายืนยันว่า ไม่เคยถูกต้องโทษในคดีอาญา หรือถูกตั้งกรรมการคดีทางวินัยแต่อย่างใด และการลาออกของเขา ไม่ใช่การไม่สู้แต่เขาจะสู้ในฐานะประชาชนคนธรรมดา

"ส.ต.อ.สุพรรณบุรี" บอกเหตุผลของการลาออกว่า เขาทำงานด้านยาเสพติด เพราะคิดว่าเมื่อจับผู้ค้ายาเสพติดได้ 1 ราย เราจะช่วยได้หลายคน ถึงแม้ว่าจะไม่ได้บำเหน็จขั้นจากผู้บังคับบัญชา แต่มันสามารถเลี้ยงใจเราได้ แต่มาวันหนึ่ง มีตำรวจเอายาไปขายเสียเอง แล้วใส่ความเขาว่าหยิบยาไป พอโวยวายก็ได้แต่ถูกบอกให้เงียบ เขาบอกว่า ถึงแม้เขาจะไม่ใช่คนดี แต่ยืนยันว่า รู้จักผิดชอบชั่วดี แนวคิดของเขาที่เข้ามารับราชการก็เพื่อประชาชน 

จดหมายลาออก ส.ต.อ.สุพรรณบุรี

หลังจากเป็นประเด็นทางสังคม สะเทือนถึงวงการตำรวจอีกครั้ง พล.ต.ต.ชมชวิณ ปุระธนานนท์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ได้ลงพื้นที่ สภ.เมืองสุพรรณบุรี เป็นการด่วน พร้อมเรียกประชุมตำรวจเมืองสุพรรณบุรีทุกนาย เข้ามาพูดคุยแก้ปัญหา เพื่อหาสาเหตุ อีกทั้งเรื่องของความโปร่งใส ต้องรีบแก้ไขโดยด่วน ส่วนหนังสือลาออก ยังไม่มีคำสั่งอนุมัติ ต้องรอผลการสอบสวน และพูดคุยกับ ส.ต.อ.รายนี้ก่อน

 

คมชัดลึกออนไลน์ ได้สอบถามไปยัง ส.ต.อ.รายนี้ ซึ่งเขาได้เปิดใจสั้น ๆ ว่า ขณะนี้เขายังไม่อยากพูดอะไรมาก ต้องรอการตั้งกรรมการสอบก่อน ซึ่งคาดว่า วันนี้น่าจะได้ข้อสรุป เมื่อถามว่า เขายังอยากกลับไปเป็นตำรวจอีกหรือไม่ ส.ต.อ. ตอบว่า ไม่อยากกลับไปอีก ถึงแม้จะไม่มีการเซ็นหนังสือให้ เขาก็ยืนยันว่า จะลาออก โดยบอกว่า "คนหมดใจ รั้งไว้ก็ไม่มีประโยชน์"

ส.ต.อ.โพสต์ประวัติส่วนตัว

ส่วนในเฟซบุ๊คของ ส.ต.อ.สุพรรณบุรี ได้มีการโพสต์ประวัติส่วนตัวไว้ดังนี้

 

ประวัติส่วนตัว

ชื่อ ส.ต.อ.ชัยพัฒน์ บุญทิม

สำเร็จการศึกษา

 

  • หลักสูตรนักเรียนนายสิบทหารบก รุ่นที่10 /49 ประจำปี 2549
  • นิติศาสต์บัณฑิต มหาวิทยาลัยรามคำแหง รุ่นที่ 36
  • หลักสูตรนักเรียนนายสิบตำรวจ รุ่นที่ 5 ศฝร.ภ.7 ประจำปี 2556

หลักสูตรทางทหาร

  • นายสิบนักเรียนชั้นต้น เหล่าทหารสรรพาวุธ รุ่นที่ 5 (ชกท.อาวุธ)
  • หลักสูตรหน่วยทหารขนาดเล็ก (นทล.)รุ่นที่ 2 ค่ายฝึกรบพิเศษแก่งกระจาน 

หลักสูตรทางตำรวจ

  • หลักสูตรกระโดดร่มแบบสายกระตุกคงที่ รุ่นที่ 223 ค่ายนเรศวร
  • หลักสูตรนักปฏิบัติการใต้น้ำ รุ่นพิเศษ 1 กองบังคับการตำรวจน้ำ

 

นอกจากนั้น ส.ต.อ.ชัยพัฒน์ ยังขอความกรุณาว่า อย่านำเขาไปโยงกับเหตุกราดยิงโคราช โดยระบุว่า อย่าเล่นสงครามจิตวิทยาใส่ผมเลย อย่าลดทอนความน่าเชื่อถือ และน้ำหนักคำให้การของผม โดยเอาไปโยงกับเหตุที่โคราช ผมก็รุ่นเดียวกับอีกคนหนึ่ง ที่เป็นผู้กล้าที่ระงับเหตุที่โคราชเหมือนกัน ซึ่งขณะนี้ ยังรักษาตัวอยู่

 

เรารังเกียจการกระทำของเขาได้
แต่อย่ารังเกียจความเป็นคนของเขา
สรรเสริญการกระทำของเขาได้
แต่ต้องดูแลและปกป้องเขาด้วย

 

โดยเขาได้ยกข้อความจากสื่อสำนักหนึ่ง ที่ได้สัมภาษณ์เพื่อนร่วมงาน โดยบอกว่า ก่อนที่เขาจะเป็นตำรวจนั้น เคยเป็น ตชด. มาก่อน รุ่นเดียวกับจ่าคลั่งที่โคราช และมีความคิดไม่เหมือนตำรวจ แต่มีความคิดเหมือนทหาร ตำแหน่งเดิมอยู่งาน ป. แต่ขอไปทำงานด้านสืบสวน