พบอีก 'แก๊งอุ้มรีดทรัพย์' โผล่กลางกรุง อ้างเป็นตำรวจรีดเงิน 2 ล้านชาวจีน
โผล่อีก ล่ามสาว ผวา 'แก๊งอุ้มรีดทรัพย์' โร่ขึ้นโรงพักดินแดง แจ้งความ หลังรับงาน หนุ่มชาวจีน ก่อนถูก 6 ชายฉกรรจ์อ้างตัวเป็นตำรวจ อุ้มรีดทรัพย์กลางกรุง เรียกเงินกว่า 2 ล้าน
เกิดเหตุอุกอาจ 'แก๊งอุ้มรีดทรัพย์' โผล่กลางกรุงอีกครั้ง โดย พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ได้รับรายงานจาก พล.ต.ต.อัฐธพร วงศ์ศิริปรีดา ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 และ พ.ต.อ.นราวุฒิ รักษาวงศ์ ผู้กำกับการ สน.ดินแดง ว่า มีล่ามแปลภาษาจีน ซึ่งเป็นผู้เสียหาย หญิงชาวไทย เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับตำรวจ สน.ดินแดง หลังถูกกลุ่มชายฉกรรจ์คล้าย ตำรวจ 5-6 คน ก่อเหตุอุ้มตัวขึ้นรถไป รีดทรัพย์ ในพื้นที่ สน.ดินแดง
ล่าสุด พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ สั่งการให้ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น.เร่งคลี่คลายคดี กระทั่งเมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา ได้มีการเชิญตัวกลุ่มผู้ต้องสงสัย จำนวน 5 ราย จากพื้นที่ย่านแจ้งวัฒนะ และดอนเมือง มาทำการสอบปากคำ
สำหรับเหตุการณ์นี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา น.ส.เอ (นามสมมุติ) อายุ 38 ปี อาชีพล่ามแปลภาษาจีน ผู้เสียหายได้เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.นราวุฒิ เพื่อแจ้งความว่า เมื่อช่วงเช้าวันที่ 10 มีนาคม ที่ผ่านมา ได้รับการติดต่อจาก หนุ่มชาวจีน อายุ 62 ปี ให้เดินทางมาพบที่บ้านพักของ หนุ่มชาวจีน ในซอยประชาสงเคราะห์ 2 แขวงและเขตดินแดง กรุงเทพฯ
โดย หนุ่มชาวจีน อ้างว่า จะให้เดินทางไปเป็นเพื่อนเพื่อทำธุรกรรมด้านการต่ออายุหนังสือเดินทาง และวีซ่า ที่ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 ถนนแจ้งวัฒนะ พอเดินทางมาถึงตามนัดหมาย ปรากฏว่า มีเพื่อนชายชาวจีน ซึ่งตนไม่ทราบชื่อ และนามสกุล ขับรถเก๋ง ไม่ทราบยี่ห้อรุ่น มารับ พาตนและ หนุ่มชาวจีน ไปยังที่หมาย
เมื่อเดินทางไปถึงปรากฏว่า ไม่สามารถดำเนินธุรกรรมได้ เนื่องจากเอกสารของ หนุ่มชาวจีน รายนี้ไม่ปกติ ซึ่งตอนนั้นตนเริ่มเอะใจแล้ว จึงตัดสินใจว่าจะเดินทางกลับมาตั้งหลักกันก่อน โดยมีเพื่อนของ หนุ่มชาวจีน ขับรถเก๋งมาส่งที่บ้านพักเช่นเดิม
แต่เมื่อเดินทางมาถึงซอยประชาสงเคราะห์ 2 ระหว่างเดินลงจากรถเข้าบ้าน ปรากฏมี ชายฉกรรจ์รูปพรรณสัณฐานคล้ายตำรวจ มารออยู่แล้ว จำนวน 5 คน ทั้งหมดขับรถเก๋ง มาด้วยกัน 3 คัน จากนั้น หนุ่มชาวจีน และตนก็ถูกอุ้มขึ้นรถไปคนละคัน โดยมีเพื่อนของหนุ่มชาวจีนขับตามประกบเป็นขบวน
ระหว่างที่อยู่บนรถนั้น ตนถูกชายที่อ้างว่าเป็น ตำรวจ สอบถามถึงที่มาที่ไปว่ารู้จักกับ หนุ่มชาวจีน ได้อย่างไร ตนก็ตอบไปตามตรงว่ารู้จักกันมาได้ ราว 1 ปี ในฐานะล่ามแปลภาษา จากนั้นชายฉกรรจ์ทั้งหมดก็พาตน และ หนุ่มชาวจีน ขับรถไปวนบนถนนเส้นแจ้งวัฒนะ ใช้เวลาประมาณ 4-5 ชั่วโมง ก่อนที่ทั้งหมดจะขับรถพาตน และ หนุ่มชาวจีน มาปล่อยทิ้งไว้ที่ซอยประชาสงเคราะห์ 2 ในช่วงใกล้ค่ำ
หลังจากนั้น หนุ่มชาวจีน ยอมรับกับตนว่า มาอยู่ในประเทศไทย โดยมีเพื่อนชายชาวจีนคนดังกล่าว แนะนำช่องทางให้สวมบัตรประชาชนคนไทย จนกระทั่งก่อนเกิดเหตุเพื่อนโทรศัพท์มาบอกว่า วีซ่ากับหนังสือเดินทางมีปัญหาใกล้หมดอายุ ให้เดินทางไปทำด้วยกันที่หน่วยงานรับผิดชอบ ย่านถนนแจ้งวัฒนะ
หนุ่มชาวจีน จึงไหว้วานให้ตนเดินทางไปด้วย จนเป็นที่มีของการถูกอุ้มขึ้นรถไปเรียกค่าไถ่ โดยระหว่างที่ถูกควบคุมตัวอยู่บนรถ มีชายฉกรรจ์อ้างตัวเป็นตำรวจ ข่มขู่ว่า หนุ่มชาวจีน จะต้องรับโทษฐานปลอมแปลงบัตรประชาชน จึงขอเรียกค่าไถ่ เป็น เงินคริปโต จำนวน 60,000 USDT เพื่อแลกกับการปล่อยตัวเป็นอิสรภาพ แต่ หนุ่มชาวจีน ขอต่อรองครึ่งหนึ่ง เหลือ 30,000 USDT ซึ่งคนร้ายก็ตอบตกลง
จึงประสานให้ทางบุตรชายโอนเงินให้ผ่านแอพพลิเคชั่น imtoken ไปที่บัญชีปลายทางซึ่งก็ไม่รู้เป็นของผู้ใด เมื่อกลุ่มคนร้ายตรวจสอบยอดเงินเข้าบัญชีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จึงยอมปล่อยตัวตน และ หนุ่มชาวจีน ด้วยการขับรถมาส่งที่บ้าน
น.ส.นามี กล่าวด้วยว่า หลังจากนั้น ตนก็ไม่สามารถติดต่อ หนุ่มชาวจีน ได้อีก มารู้ข้อมูลอีกทีคือ เจ้าตัว ได้เดินทางออกจากราชอาณาจักรไทย กลับไปอยู่กับบุตรชายที่ประเทศจีนแล้ว ตอนนี้ตนจึงรู้สึกหวาดกลัวและเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย เนื่องจากเชื่อว่า คนร้ายทำผิดแบบเป็นขบวนการ และไม่แน่ใจว่า มีเจ้าหน้าที่รัฐรู้เห็นด้วยหรือไม่ จึงรวบรวมสติ และนำความเข้าปรึกษากับคนใกล้ชิด ก่อนตัดสินใจเดินทางเข้าแจ้งความกับทางตำรวจ
หลังรับแจ้งความทางชุดคลี่คลายคดี ได้ทำการเช็กประวัติ หนุ่มชาวจีน แล้วพบว่า เจ้าตัวมีบัตรประชาชนคนไทยเอาไว้ในความครอบครอง และเคยใช้บัตรประชาชนดังกล่าวทำธุรกรรมในประเทศไทย ซึ่งจะต้องตรวจให้ลึกถึงรายละเอียดว่า เจ้าของบัตรยังมีชีวิตหรือไม่ และบัตรประชาชนมาอยู่ในมือบุคคลต่างด้าวได้อย่างไร
นอกจากนี้เมื่อลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดในละแวกจุดเกิดเหตุ ก็พบภาพรถต้องสงสัย 4 คัน และ ชายฉกรรจ์คนร้าย รวม 6 คน ก่อเหตุอุ้ม น.ส.เอ และ หนุ่มชาวจีน ขึ้นรถไปจริงตามคำให้การ โดยผู้ต้องสงสัยชายฉกรรจ์ จำนวน 2 ใน 6 คน มีรูปพรรณสัณฐานคล้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจระดับสารวัตร สังกัดสำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ซึ่งอยู่ระหว่างตรวจสอบให้เกิดความชัดเจนอีกครั้ง
ซึ่งภายหลังที่มีการเชิญตัวกลุ่มผู้ต้องสงสัย จำนวน 5 ราย จากพื้นที่ย่านแจ้งวัฒนะ และดอนเมือง มาทำการสอบปากคำ พบว่าในจำนวนนี้มีตำรวจชั้นสัญญาบัตร สังกัด บก.ตม.1 รวมอยู่ด้วย สำหรับแนวทางการทำงานขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้ต้องสงสัยทั้ง 5 ราย ไปแยกสอบปากคำตามห้องปฏิบัติการที่ทาง สน.ดินแดง จัดเตรียมเอาไว้ หากพบรายใดเข้าข่ายการกระทำความผิด ก็จะมีการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อออกหมายจับและแจ้งข้อหาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป