'บิ๊กโจ๊ก' สั่งเร่งล่า 'แก๊งจีนอุ้มรีดค่าไถ่' หนองปรือ จี้ออกหมายแดง
"บิ๊กโจ๊ก" พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. สั่งเร่งล่า แก๊งชาวจีน" อุ้มรีดเงินค่าไถ่เพื่อนร่วมชาติ ในพื้นที่ สภ.หนองปรือ พร้อมเร่งออกหมายแดงอินเตอร์โพล ล่าคนร้ายข้ามชาติ
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการติดตามจับกุมคนร้ายชาวจีนอุ้มชาวจีน 2 ราย ไปเรียกค่าไถ่เป็นเงินจำนวน 5 แสนบาท ก่อนบินหลบหนีไปต่างประเทศ โดยเหตุเกิดเมื่อวันที่ 20 มี.ค. 2566 ในพืันที่ สภ.หนองปรือ จ.ชลบุรี ว่าคดีดังกล่าวเป็นคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญที่ประชาชนทั้งชายไทยและชาวต่างชาติ ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของประเทศไทย
ซึ่งพล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ได้สั่งการให้เร่งสืบสวนจับกุมคนร้ายในคดีดังกล่าวมาดำเนินคดีโดยเร็วที่สุด
จากการสืบสวนทราบว่า การก่อเหตุครั้งนี้มีการเตรียมการเป็นอย่างดี เชื่อว่าแก๊งคนจีนดังกล่าวได้วางแผนกันมาจากประเทศจีน มีการตรวจสอบข้อมูลของผู้เสียหายมาก่อน จนทราบว่าผู้เสียหายมีการใช้ชีวิตประจำวันอย่างไร และมีทรัพย์สินอะไรบ้าน
จากนั้นจึงได้บินมายังไทยจำนวน 4 ราย และเข้าพักที่โรงแรมในเขตกรุงเทพฯ เพื่อเตรียมการวางแผนเข้าก่อเหตุ โดยมีเครือข่ายคนจีนในไทยสนับสนุนรถยนต์เพื่อใช้ในการก่อเหตุ จากนั้นได้ย้ายไปพักในโรงแรมในพื้นที่เมืองพัทยาเพื่อเตรียมเข้าก่อเหตุจริง โดยมีการศึกษาเส้นทางและสะกดรอยผู้เสียหาย และลงมือก่อเหตุดังกล่าว
โดยได้อุ้มผู้เสียหายไปที่บริเวณเขายายร้า อ.บ้านฉาง จ.ระยอง โดยมีการเตรียมอุปกรณ์ยังชีพในป่าไปด้วย จากนั้นจึงได้ส่งคลิปวิดีโอไปให้กับสามีของผู้เสียหายเพื่อเรียกเงินค่าไถ่ และหลังจากได้เงินตามที่ต้องการแล้ว จึงได้ปล่อยตัวผู้เสียหายโดยให้เดินกลับเอง ก่อนจะรีบจองตั๋วเครื่องบินกลับประเทศจีนโดยทันที
หลังเกิดเหตุ ผู้เสียหายที่ถูกจับกุมตัวไปได้รับการช่วยเหลือโดยปลอดภัย และตำรวจสามารถสกัดการหลบหนีจนจับกุมตัวผู้ต้องหาได้จำนวน 1 ราย ที่สนามบินสุวรรณภูมิ จึงได้นำมาสอบถามและรวบรวมขยายผลจนสามารถขออนุมัติหมายจับผู้ต้องหารวมทั้งสิ้น 4 ราย ประกอบด้วย
1. นายหู ไฮ่หยาง (จับกุมได้)
2. นายเฉิน วาน
3. นายเฉิน ฮัว
4. นายอิน ตง
นอกจากนี้ยังพบว่า ฝ่ายผู้เสียหายจำนวน 3 คน มีพฤติการณ์ในการเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ จึงได้สั่งการให้ดำเนินคดีตามกฎหมาย และให้มีการสืบสวนขยายผลเกี่ยวกับพฤติการณ์ต่อเนื่องว่า มีการเข้ามาในประเทศไทยเพื่อจุดประสงค์ใด หากพบการกระทำผิดเพิ่มเติมจะให้ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวอีกว่า ในช่วงที่ผ่านมามีการก่อเหตุในลักษณะที่เป็นแก๊งคนจีนเข้ามาก่อเหตุอุ้มคนจีนเพื่อเรียกค่าไถ่มากขึ้น ซึ่งส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศไทยเป็นอย่างมาก และเร่งสั่งกองการต่างประเทศ (ตท.) ประสานขอหมายแดงตำรวจสากล เพื่อประสานกับทางการจีนในการติดตามจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย เพื่อนำกลับมาดำเนินคดีที่ประเทศไทยต่อไป
นอกจากนี้เจ้าหน้าที่สืบสวนยังพบข้อพิรุธบางอย่างของฝ่ายผู้เสียหาย เนื่องจากมีพฤติกรมหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย มีการรับรองบุตรจากหญิงชาวไทย เชื่อว่าอาจมีการว่าจ้างในการอุ้มบุญ นอกจากนี้ผู้เสียหายยังมีบัตรประจำตัวคนซึ่งไม่มีสัญชาติไทย (บัตรชมพู) จึงได้สั่งการให้ดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง และให้เจ้าหน้าที่สืบสวนตรวจสอบข้อมูลโดยละเอียดว่า กลุ่มผู้เสียหายหลบหนีเข้ามาทำอะไร หากพบว่ามีการกระทำผิดกฎหมายเพิ่มเติมก็จะสั่งให้มีการดำเนินคดีโดยเด็ดขาดต่อไป