ข่าว

'ชูวิทย์' ร่ายยาว อัด สัมภเวสี วิญญาณเร่ร่อน 3 ตน ปมเงินบริจาค 6 ล้าน

'ชูวิทย์' ร่ายยาว อัด สัมภเวสี วิญญาณเร่ร่อน 3 ตน ปมเงินบริจาค 6 ล้าน

01 เม.ย. 2566

'ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์' โพสต์ร่ายยาว อัด 'สัมภเวสี' วิญญาณเร่ร่อน 3 ตน ปม เงินบริจาค 6 ล้าน เมื่อ ผีเห็นผี จึงไม่กลัวผีด้วยกัน

“ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์” โพสต์เฟซบุ๊ก ร่ายยาว ปมคืนเงินบริจาค 6 ล้านบาท เพราะเจอ สัมภเวสี วิญญาณเร่ร่อน ทำบุญไม่ขึ้น แต่เปิดโปงความชั่ว ประสบความสำเร็จ หลังจากที่เมื่อวานนี้ เขาหอบเงินสด 6 ล้านบาท ที่ได้รับคืนมาจากโรงพยาบาล 2 แห่ง ไปมอบให้กับตำรวจกองปราบ เพราะถือเป็นเงินที่ได้จากการกระทำความผิด

 

ชูวิทย์ ระบุว่า หลังจากที่เขานำเงินสด 6 ล้านบาท ที่รับคืนมาจากโรงพยาบาลศิริราช และโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ ไปส่งให้กองปราบ เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ หมอบอกว่า นับเป็นครั้งแรกที่มีการคืนเงินผู้บริจาค เขาคงทำบุญไม่ขึ้น แต่เรื่องการเปิดโปงการกระทำความผิด ที่คนอื่นจับไม่ได้ไล่ไม่ทัน เขาสามารถทำให้คนเหล่านั้นตกม้าตายมาแล้วหลายคน

ตั้งแต่ปี 2535 ชูวิทย์ บอกว่า เขาสร้างป้องจราจรให้ตำรวจ ตามสี่แยกทั่วกรุงเทพฯ รวมกว่า 70 ป้อม ถึงแม้ต่อมาจะถูกรื้อบ้าง เอาป้ายออกบ้าง เพราะทะเลาะกับตำรวจ จนเหลือเป็นอนุสรณ์อยู่ไม่กี่ที่ แต่ก็ถือว่ายังได้ทำบุญ แต่ครั้งนี้ มี “สัมภเวสี ผีเร่ร่อน” มาฉกฉวยแสง ทำให้หมอ และโรงพยาบาลกลัว

 

สัมภเวสีตนแรก

 

นอกจากนั้น ชูวิทย์ ยังได้ยกตัวอย่าง “สัมภเวสี” ที่เขาออกมาเปิดโปง ไม่ว่าจะเป็น “ทนายประชาชน” คิดเงิน “ค่าแถลงข่าว” 300,000 บาท แล้วอ้างเป็นค่าเสี่ยงภัย กลัวถูกฟ้อง ทั้งที่มีหน้าที่ว่าความที่ศาล แต่กลับเลือกหาแสงแถลงข่าวแทน เพียงเพราะอยากอัปเกรดเป็น “เซเลบ” กำหนดทิศทางของสังคม ทั้งที่เพิ่งไต่ชั้น ความรู้กฎหมายเท่าหางอึ่ง ใช้ชีวิตเกินฐานะ บ้าแบรนด์เนม เสื้อตัวละแสน นาฬิกาเรือนละหลายล้าน บนความเดือดร้อนของคนที่จำเป็นต้องหาทนายความ แต่เลือกผิดคน

 

โดยกลุ่มเป้าหมายของสัมภเวสีตนนี้ จะเน้นที่คนไม่รู้เรื่องกฎหมาย เป็นชาวบ้านแต่ต้องมีเงิน และเล่นโซเชียล พอเห็นพูดหน้าจอก็คิดว่าเก่ง เวลามีเรื่องเข้าไปหารือ ก็จะโดนเรียกเงินไปเรื่อยๆ เพราะจะอ้างตนว่า รู้จักผู้ใหญ่ทุกคน โดยเฉพาะตำรวจใหญ่ ที่เก็บสัมภเวสีตนนี้ไว้ใช้งาน เพราะออกหน้าเองไม่ได้ เล่นบทเป็น “เทพเจ้า” อยู่

 

ชูวิทย์โพสต์ สัมภเวสี วิญญาณเร่ร่อน

สัมภเวสี ตนที่ 2

 

ส่วน “สัมภเวสี” อีกตน ที่ชูวิทย์ ยกตัวอย่าง เรียกว่า “สัมภเวสีหัวล้าน” ที่อาศัยเดินตามนายตำรวจผู้ใหญ่ หรือใครดังที่เป็นกระแส จะคอยเข้าไปยืนข้างๆ เดินตามให้ติดกล้องดูดแสง กลุ่มเป้าหมายคือ ตำรวจสีเทา

 

สัมภเวสีตนที่สาม

 

ชูวิทย์ ร่ายต่อว่า สัมภเวสีอีกตน คือ “เฒ่าสารพัดพิษ” ที่คงความแก่กล้าอวิชชา เอาธรรมะบังหน้า แต่เบื้องหลังไม่ได้เป็นอย่างที่คิด ทำหน้าที่ นำความจริงมาเล่าให้ประชาชน แต่กลับนำความเท็จมาขู่ให้กลัว เพื่อฉกฉวยประโยชน์ใส่ตนเอง เช่นตอนทำม็อบ ก็ไปหลอกสร้างผลงานแตกแยก จนเป็นเจ้าแห่งผีเร่ร่อน

 

"หมู่นี้สัมภเวสีผีเร่ร่อนมันมาก ตัวผมก็ไม่ได้ดีเด่ เป็นผีเหมือนกัน จึงรู้เท่าทัน “ผีเห็นผี” ไม่กลัวผีด้วยกัน" ชูวิทย์ ร่ายยาว

 

ชูวิทย์ โพสต์ทิ้งท้ายว่า ผีอย่างเขาดูง่าย เพราะรับว่าเป็นผี แต่ที่เป็นผีแล้วบอกว่าเป็น “เทวดา” นี่สิ ต้องลงอาคม แล้วจับลงหม้อถ่วงน้ำ ไม่อย่างนั้นไปหลอกหลอนชาวบ้านไม่เป็นอันกินอันนอน

 

 

 

ขอบคุณเพจเฟซบุ๊ก ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์