จับเจ้าของโรงแรมบน“เกาะหลีเป๊ะ” หลังหนีหมายจับบุกรุกป่าพื้นที่อุทยานฯ
จับเจ้าของโรงแรมบน 'เกาะหลีเป๊ะ' หลังหนีหมายจับเหลืออายุความแค่ 1 ปี 'บิ๊กโจ๊ก' สั่งขยายผลตรวจสอบเส้นทางการเงินเพิ่มเติม พร้อมส่งเรื่องปปง. ยึดอายัดทรัพย์ ส่วนปัญหาพิพาทบนเกาะ มีการแจ้งความเอาผิดโรงแรม 108 แห่ง
ตำรวจจับกุม น.ส.พัชรินทร์ (สงวนนามสกุล) เจ้าของโรงแรมขนาดใหญ่มูลค่า 128 ล้านบาท บนเกาะหลีเป๊ะ ซึ่งถูกเจ้าหน้าที่ออกหมายจับศาลจังหวัดสตูล ตั้งแต่ปี 2562 ฐานบุกรุกพื้นที่ของอุทยานฯ ซึ่งเจ้าตัวหนีหมายจับเรื่อยมาจนเหลืออายุความเพียง 1 ปี และถูกตำรวจติดตามจับกุมตัวได้ในที่สุด
ล่าสุด พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) สั่งการให้เจ้าหน้าที่สืบสวนดำเนินการขยายผลติดตามเส้นทางการเงินของ น.ส.พัชรินทร์ เพิ่มเติม ซึ่งได้มีการอายัดทรัพย์ไว้บางส่วนแล้ว และส่งเรื่องให้ ปปง. ดำเนินการยึดอายัดทรัพย์ตามกฎหมายต่อไป
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ในฐานะประธานกรรมการตรวจสอบข้อมูลและข้อเท็จจริงกรณีปัญหาข้อพิพาทในที่ดินที่เกี่ยวข้องกับชุมชนชาวเล เกาะหลีเป๊ะ จ.สตูล พร้อมด้วย กรมการปกครอง กรมที่ดิน กรมธนารักษ์ กรมประมง กรมสอบสวนคดีพิเศษ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมประชุมติดตามความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาที่ดินพิพาทบนเกาะหลีเป๊ะ ณ ห้องประชุม ตำรวจภูธรจังหวัดสตูล โดยมีการติดตามการดำเนินการเกี่ยวกับการบังคับใช้กฎหมายดำเนินคดีกับโรงแรม ที่พัก รีสอร์ท ที่มีพฤติกรรมบุกรุกที่ดิน และมีการก่อสร้างอาคารสถานที่โดยไม่ได้รับอนุญาต
สำหรับเรื่องดังกล่าวเป็นปัญหาเรื้อรังมานานมากกว่า 20 ปี รวมถึงการแก้ไขปัญหาพื้นที่การทำประมงพื้นบ้านของชาวประมงในพื้นที่ร่วมกับกรมอุทยานแห่งชาติฯ การดำเนินคดีกับโรงแรม และสถานประกอบการต่างๆ ที่มีการก่อสร้างอาคารสถานที่รุกล้ำที่ดินของกรมธนารักษ์ ซึ่งเป็นการก่อสร้างโดยไม่ได้รับอนุญาต
ในส่วนของโรงแรมนั้นมีการแจ้งข้อกล่าวหาไปทั้งสิ้น 108 แห่ง ส่วนกรณีของการเพิกถอนโฉนดที่ดินแปลงที่ 11 ได้ดำเนินการไปแล้วโดยคาดว่าจะแล้วเสร็จก่อนต้นเดือนพฤษภาคม
ในส่วนของการแก้ไขปัญหาที่ดินพิพาทบนเกาะหลีเป๊ะนั้น ปัจจุบันมีความคืบหน้าไปมาก โดยในด้านการบังคับใช้กฎหมายนั้น มีการแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีกับโรงแรมถึง 108 แห่ง ส่วนกรณีของการเพิกถอนโฉนดทีดินแปลงที่ 11 ได้ดำเนินการไปแล้วโดยคาดว่าจะแล้วเสร็จก่อนต้นเดือน พ.ค. ที่จะถึงนี้ รวมถึงยังได้กำหนดทิศทางให้ผู้ที่ประกอบธุรกิจโดยถูกต้องตามกฎหมายอีกด้วย
ส่วนความเดือดร้อนของกลุ่มผู้ประกอบการโรงแรมที่มีการชุมนุมเรียกร้องไปเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา รอง ผบ.ตร.ระบุว่าเรื่องนี้ก็ขึ้นอยู่กับกระบวนการเพราะเจ้าหน้าที่รัฐทำหน้าที่บังคับใช้กฎหมาย ดังนั้นก็ต้องเป็นไปตามกระบวนการแต่หากการต่อสู้สิ้นสุดแล้ว และมีประชาชนหรือใคร ได้รับความเดือดร้อนก็จะต้องมีการพิจารณาเพื่อเยียวยาและช่วยเหลือต่อไป โดยเฉพาะกลุ่มแรงงานที่ต้องตกงานแบบฉุกเฉินเนื่องจากโรงแรมถูกบังคับคดี