เปิดอาณาจักร 'สารวัตรซัว' ยึดแล้ว 480 ล้าน เจอสร้าง คลับเฮาส์ 20 ไร่
กองปราบแถลงผล ทลายเครือข่าย 'สารวัตรซัว' จับ 3 ผู้บริหารเงิน เครือข่ายรายสำคัญ ยึดทรัพย์มูลค่า 480 ล้าน เจอสร้าง คลับเฮาส์ เนื้อที่ 20 ไร่ จ่อยกระดับข้อหาเอาผิด จัดให้เล่นการพนัน พ่วง ฟอกเงิน
กองปราบ แถลงผลปฏิบัติการ “ทลายอาณาจักรซัว มาเฟียคาสิโน” จับ 3 ผู้บริหารเงิน เครือข่ายรายสำคัญ ยึดทรัพย์ มูลค่า 480 ล้าน พร้อมยกระดับข้อหาเอาผิด “สารวัตรซัว” จัดให้เล่นการพนัน พ่วงฟอกเงิน
พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผู้บังคับการปราบปราม พร้อมด้วย พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) แถลงผลปฏิบัติการ ทลายเครือข่าย สารวัตรซัว หลังกระจายกำลังเข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย 16 จุด 6 จังหวัด ประกอบด้วย กรุงเทพฯ ,นนทบุรี, ลำปาง, อ่างทอง, มหาสารคาม และ มุกดาหาร
จากปฏิบัติการดังกล่าว เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้จำนวน 3 ราย คือ นายธีรภัทร์ ธรรมบัณดิษฐ์ อายุ 28 ปี, นายธนณัฐ มรกต อายุ 32 ปี และ น.ส.ธีรพรรณ รันขน์ อายุ 33 ปี ตามหมายจับศาลอาญา ข้อหา “ร่วมกันจัดให้มีการเล่นการพนันฯ, สมคบกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินฯ และ ร่วมกันฟอกเงิน”
โดยจับกุมตัวนายธีรภัทร์ ได้ในพื้นที่ จ.อ่างทอง จับกุมนายธนณัฐ ได้ที่ คอนโดมีเนียมแห่งหนึ่งย่านศรีนครินทร์ กทม. ส่วน น.ส.ธีรพรรณ จับกุมได้ในพื้นที่ จ.มหาสารคาม พร้อมตรวจยึด รถยนต์หรู 12 คัน, รถยนต์ทั่วไป จำนวน 2 คัน มูลค่าโฉนดที่ดิน จำนวนรวมกว่า 56 ไร่ เงินสด จำนวน 1,052,000 บาท ตุ๊กตาแบร์บริค 3 ตัว , โมเดลการ์ตูน กว่า 100 ตัว สมุดบัญชีธนาคารจำนวน 3 เล่ม, โทรศัพท์จำนวน 6 เครื่อง notebook จำนวน 3 เครื่อง และ CPU จำนวน 2 เครื่อง รวมมูลค่าของกลางกว่า 480 ล้านบาท
พล.ต.ต.มนตรี กล่าวว่า แม้ว่าที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่จะมีการเปิดปฏิบัติการทลายเครือข่ายเว็บพนันของ “สารวัตรซัว” มาแล้ว 2 ครั้ง จนสามารถจับกุมผู้ต้องหา ที่เกี่ยวข้องกับคดี จำนวน 6 ราย ยึดทรัพย์มูลค่ารวมกว่า 1,400 ล้านบาท แต่ก็ยังคงเร่งขยายผลกวาดล้างจับกุมขบวนการดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง เพื่อกวาดล้างจับกุมให้สิ้นซาก
รวมถึงขยายผลหาความเชื่อมโยงเกี่ยวกับการกระทำผิดตาม พ.ร.บ.การพนันฯ และความผิด พ.ร.บ.ฟอกเงินฯ เพราะเชื่อว่ากลุ่มขบวนการนี้ทำกันมาเป็นระยะเวลานาน จนก่อเกิดเป็นองค์กรอาชญากรรม ที่ขยายตัวเป็นธุรกิจเกี่ยวกับพนันออนไลน์ ตั้งแต่ปี 2559 จนถึงปัจจุบัน
โดยมี สารวัตรซัว เป็นผู้ควบคุมสั่งการในเครือข่ายในทุกขั้นตอน รวมถึงเปิดบัญชี และรับโอนเงินจากเว็บไซต์ต่างๆ ก่อนที่จะถ่ายเทโอนเงินที่ได้จากผู้เล่น ไปยังบัญชีของกลุ่มพนักงานในเครือข่ายด้วยเช่นกัน จากนั้น ทำการถ่ายเทโอนเงินที่ได้จากผลกำไรไปยังบัญชีรับโอนเงิน
ซึ่งเป็นบัญชีของกลุ่มที่ทำหน้าที่กรรมการ หรือผู้ถือหุ้นในเครือบริษัทของ สารวัตรซัว เชื่อว่าเป็นผู้ร่วมขบวนการ ตัวการ หรือผู้ได้รับผลประโยชน์ จากการจัดให้มีการเล่นพนันออนไลน์ โดยมี 4 คีย์แมนหลัก เป็นผู้อยู่เบื้องหลัง ถือหุ้นใน บริษัท เป็นต่อ กรุ๊ป
พล.ต.ต.มนตรี กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ยังพบข้อมูลว่า สารวัตรซัว ขายแฟรนไชส์ ระบบพนันออนไลน์ให้กับลูกค้าจำนวนมาก มีลักษณะจัดตั้งในรูปแบบบริษัท สนับสนุนในการทำธุรกิจเว็บพนันออนไลน์ ซึ่งเชื่อว่าน่าจะมีบุคคลที่เกี่ยวข้องอีกจำนวนมาก จึงรวบรวมพยานหลักฐาน ขออนุมัติศาลอาญา ออกหมายจับ จำนวน 9 หมาย และขออนุมัติออกหมายค้น จำนวน 16 หมาย เพื่อเก็บพยานหลักฐานสำคัญ และตรวจยึดทรัพย์สินที่เชื่อว่า ได้มาจากการกระทำความผิดจนนำมาสู่ปฏิบัติการดังกล่าว
ล่าสุด ที่สามารถจับกุมผู้ต้องหาเพิ่มเติมได้ในวันนี้ จำนวน 3 ราย และ อายัดตัวนายธีรพงศ์ ทองสุวรรณ หรือ จิ๋ว อายุ 34 ปี หนึ่งในคีย์แมนคนสำคัญ ที่ถูกจับกุมตัวไปก่อนหน้านี้ เพื่อแจ้งข้อหาเพิ่มเติมอีก 1 ราย ทำให้ตอนนี้คงเหลือผู้ต้องหาที่อยู่ระหว่างหลบหนี 5 ราย ในจำนวนนี้รวมถึง สารวัตรซัว ด้วย คาดว่า น่าจะกบดานอยู่ต่างประเทศ
ด้าน พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ กล่าวว่า เครือข่ายสารวัตรซัว จัดอยู่ในระดับมาสเตอร์แฟรนไชส์ เพราะฉะนั้น ข้อมูลพยานหลักฐาน พยานบุคคล จึงมีจำนวนมาก อาจต้องใช้เวลาในการตรวจสอบ แต่ทางตำรวจสอบสวนกลางยืนยันว่า จะไม่หยุดเพียงแค่นี้ และ จะยังคงดำเนินการขยายผลต่อเนื่อง แม้ที่ผ่านมาจะมีการจับกุมผู้ต้องหาไปแล้ว 31 ราย ยึดทรัพย์กว่า 2,000 ล้านบาทแล้วก็ตาม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับกลไกบริหารจัดการเงินรายได้เว็บพนันออนไลน์ เครือข่ายสารวัตรซัว มีด้วยกัน 3 แถว หรือ 3 ลำดับขั้น โดยบัญชีแถวที่ 3 จะเป็นบัญชีที่รับเงินจากหน้าเว็บพนัน หรือ ลูกค้า ก่อนโอนส่งต่อให้กับบัญชีแถวที่ 2 จากนั้นบัญชีแถว 2 ก็จะโอนส่งต่อให้กับกลุ่มคีย์แมน
ในส่วนของผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย ที่จับกุมตัวได้ในวันนี้ ประกอบด้วย นายธีรภัทร์, นายธนณัฐ และ น.ส.ธีรพรรณ นั้น จึงถือเป็นผู้ต้องหากลุ่มสำคัญของเครือข่าย ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการรายได้จากเว็บพนันโดยตรง โดยนายธีรภัทร์ กับ นายธนณัฐ จะทำหน้าที่เป็นบัญชีแถวที่ 2 ส่วน น.ส.ธีรพรรณ จะจัดอยู่ในบัญชีแถวที่ 3 อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบเส้นทางการเงินของผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย พบว่ามีเงินผ่านเข้าบัญชีมากถึง 125 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า จากปฏิบัติการดังกล่าว ยังถือเป็นการพัฒนาความคืบหน้าการเอาผิดเครือข่ายเว็บพนันออนไลน์ สารวัตรซัว เพิ่มขึ้นอีกขั้นหนึ่ง ซึ่งเดิมทีหมายจับที่ใช้ในการเอาผิด พ.ต.ท.วสวัตติ์ มุครสกุล หรือ สารวัตรซัว นั้น เป็นเพียงหมายจับคดี “ฉ้อโกงประชาชน”
แต่หลังจากที่เจ้าหน้าที่ดำเนินการสืบสวนสอบสวนขยายผลต่อเนื่องเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน จึงทำให้สามารถรวบรวมพยานหลักฐานแตกแขนงออกเป็นคดีต่างๆ จนนำมาสู่การออกหมายจับความผิด เกี่ยวกับ พ.ร.บ.การพนันฯ และความผิด พ.ร.บ.ฟอกเงินฯ เพิ่มเติมอีกคดีครั้งนี้ได้สำเร็จ
นอกจากนี้ ยังมีการเปิดคลิปภาพมุมสูง ซึ่งถูกอ้างว่า เป็นจุดที่ก๊วน เป็นต่อกรุ๊ป ถือครอง (อดิศ, เปา,จตุประภา,อุกฤษณ์ เป็นต้น) เนื้อที่ประมาณ 20 ไร่ เพื่อก่อสร้างคลับเฮ้าส์ให้กับพนักงาน มีการเริ่มก่อสร้างปี 2565