รูดม่านชีวิต 'ผอ.กอล์ฟ' กราดยิงชิงทองสุดโหดผิดมนุษย์
ปิดฉากคดีสะเทือนขวัญอีกหนึ่งคดี หลังศาลฎีกาพิพากษายืนตามศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ประหารชีวิต "ผอ.กอล์ฟ" โจรโหดกราดยิงชิงทองกลางห้าง ลพบุรี จนมีผู้เสียชีวิต 3 ราย สาหัส 1 ศาลชี้พฤติการณ์โหดเหี้ยมผิดมนุษย์
รูดม่านปิดฉากคดีสะเทือนขวัญคนไทยทั้งประเทศไปอีกหนึ่งคดี เมื่อศาลฎีกาพิพากษายืนประหารชีวิต นายประสิทธิชัย หรือ ผอ.กอล์ฟ อดีตผู้อำนวยการโรงเรียนประถมแห่งหนึ่งใน จ.สิงห์บุรี จำเลยในความผิดฐานฆ่าผู้อื่นฯ , พยายามฆ่าผู้อื่นฯ , ชิงทรัพย์ในเวลากลางคืนฯ และความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืน จากเหตการณ์ ใช้อาวุธปืนฆ่าชิงทรัพย์ร้านทอง ภายในห้างสรรพสินค้าใน จ.ลพบุรี
ย้อนกลับไปในวันเกิดเหตุ 9 ม.ค. 2563 เวลาประมาณ 20.45 น. คนร้ายขี่จักรยานยนต์เข้าไปในห้างสรรพสินค้าชื่อดัง ใน อ.เมือง จ.ลพบุรี จากนั้นเดินเข้าไปในห้างฯใช้อาวุธปืนขนาด 9 มม. ซึ่งติดกระบอกเก็บเสียง ยิงคนที่ผ่านไปมา ก่อนที่จะเดินมาถึงบริเวณหน้าร้านทองออโรร่า ยิงพนักงานร้านที่หลบอยู่บริเวณเคาน์เตอร์ แล้วกวาดทองรูปพรรณน้ำหนักรวม 28 บาท และขณะหลบหนียังได้ใช้อาวุธปืนยิง พนักงานรักษาความปลอดภัยที่ถึงแม้จะวิ่งไปหลบหนีเอาชีวิตรอดแต่ก็ยังไม่พ้นคมกระสุนของคนร้ายเสียชีวิตอีกราย และที่สะเทือนใจเป็นอย่างมากกับเหตุการณ์นี้ เพราะเด็กชายวัยเพียง 2 ขวบถูกยิงที่ศีรษะ เสียชีวิตอีก 1 ราย รวมผู้เสียชีวิต 3 ราย และมีผู้บาดเจ็บสาหัสซึ่งเป็นลูกค้าร้านทองอีก 1
ปฏิบัติการตามล่าโจรโหดในครั้งนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้เวลาคลี่คลายคดีประมาณ 14 วัน กระทั่งแกะรอยและติดตามจับกุมตัวได้ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการพิเศษหนุมาน กองปราบปราม จับกุมนายประสิทธิชัย เขาแก้ว หรือ กอล์ฟ เป็นผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.สิงห์บุรี ขณะขับรถเก๋งคันหรู อยู่บนถนนสายสิงห์บุรี-ลพบุรี เพื่อไปทำงาน จากนั้นได้ไปค้นหาของกลางสร้อยคอทองคำ จำนวน 31 เส้น จากที่โรงรถในบ้านของภรรยานายประสิทธิชัย
ตำรวจคุมตัว นายประสิทธิชัย หรือ ผอ.กอล์ฟ มาสอบปากคำ ซึ่งเขาให้การรับสารภาพว่า เหตุจูงใจเนื่องจากปัญหาส่วนตัวและเรื่องการเงิน ส่วนวันเกิดเหตุ ที่ลงมือกราดยิงเพราะต้องการเปิดทางให้คนกลัว และขณะที่ปีนขึ้นไปบนตู้กระจกเพื่อกวาดทองนั้น ถุงมือไปขัดในไกปืนทำให้กระสุนถูกพนักงานร้านทองเสียชีวิต สำหรับเด็กชายวัย 2 ขวบนั้น นายประสิทธิชัย อ้างว่าไม่เห็น คาดว่าลูกกระสุนแฉลบไปโดนโดยไม่ได้ตั้งใจ
ภายหลังประชุมสรุปส่งสำนวนคดีต่ออัยการเพื่อพิจารณาสั่งฟ้องใน 9 ข้อหา คือ
1. ฆ่าผู้อื่นเพื่อตระเตรียมการหรือเพื่อความสะดวกในการที่จะกระทำความผิดอย่างอื่นหรือเพื่อจะเอาหรือเอาไว้ซึ่งผลประโยชน์อันเกิดแต่การที่ตนได้กระทำความผิดอื่นหรือเพื่อหลีกเลี่ยงให้พ้นอาญาในความผิดอื่นที่ตนได้กระทำไว้
2. พยายามฆ่าผู้อื่นเพื่อตระเตรียมการหรือเพื่อความสะดวกในการที่จะกระทำความผิดอย่างอื่น
3. ชิงทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยใช้อาวุธและใช้ยานพาหนะเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายและได้รับอันตรายสาหัส
4. ยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุในเมืองหมู่บ้านหรือที่ชุมนุมชน
5. พาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันสมควรและโดยไม่ได้รับอนุญาต
6. มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต
7. มีและใช้อาวุธปืนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้
8. ใช้อาวุธปืนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ในการกระทำความผิดฐานฆ่าผู้อื่นและฐานชิงทรัพย์
9. มียุทธภัณฑ์ไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต
27 ส.ค.2564 ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษา รวมโทษทุกกระทง ให้ลงโทษประหารชีวิต ผอ.กอล์ฟ พร้อมสั่ง ปรับ 1,000 บาท ริบของกลาง และให้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่บรรดาโจทก์ร่วม จำเลยยื่นอุทธรณ์ขอลดโทษ
20 ก.ค. 2564 ศาลอุทธรณ์ ตรวจสำนวนประชุมปรึกษาหารือแล้ว แม้จำเลยชดใช้ความเสียหาย เพื่อบรรเทาผลร้ายสำนึกผิด หรือมีคุณความดีดังที่อุทธรณ์ ก็ไม่เป็นเหตุผลเพียงพอที่จะสมควรใช้ดุลยพินิจลดโทษ จึงพิพากษายืนตามศาลชั้นต้น จำเลยยื่นฎีกาขอให้ศาลลดโทษ
กระทั่งล่าสุดวันนี้ (26 เม.ย. 2566) ศาลฎีกา พิพากษายืนตาม ศาลชั้นต้น และศาลอุทธรณ์ ประหารชีวิต เนื่องจาก จำเลย นายประสิทธิชัย หรือ ผอ.กอล์ฟ พฤติการณ์อุกอาจโหดเหี้ยมอันตรายร้ายแรงผิดมนุษย์ เป็นถึงผู้อำนวยการโรงเรียนควรมีจิตสำนึกที่ดี ควรประพฤติตัวให้เป็นเยี่ยงอย่างกลับกระทำอย่างอุกฉกรรจ์ จึงไม่มีเหตุสมควร ตามศาลล่างทั้งสองพิพากษาลงโทษประหารชีวิตจำเลยมานั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย ฎีกาจำเลยฟังไม่ขึ้น พิพากษายืน