ย้อน คดีฆาตกรรมต่อเนื่อง มุ่งฆ่าหวังผลประโยชน์
ศึกษาคดีฆาตกรรมต่อเนื่องต่างประเทศ ทั้งหลอกแต่งงานเพื่อฆ่าเอาเงินประกันชีวิต แต่งเรื่องสร้างโปรไฟล์ ฆ่ายกครัว
“ไม่มีคดีไหน ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนหรอกวัตสัน มันเคยเกิดขึ้นมาแล้วทั้งสิ้น” ประโยคสนทนา ระหว่าง เชอร์ล็อก โฮล์มส์ นักสืบมือฉกาจ กับ หมอวัตสัน คู่หู ในนิยายนักสืบระดับโลก ของ เซอร์อาเธอร์ โคนัน ดอยล์ นักเขียนเรื่องสั้น นวนิยาย ประวัติศาสตร์ และแพทย์คนสำคัญของสกอตแลนด์ ซึ่งก็เป็นจริงตามบทสนทนานั้น เรื่องราวคดีต่างๆ มักจะเกิดซ้ำ วนเวียน ด้วยรูปแบบ การกระทำ แรงจูงใจที่ไม่ต่างกันมากนัก
คดีดังในช่วงเวลานี้ ของ แอม ไซยาไนด์ กลายเป็นประหนึ่งคดีฆาตกรรมต่อเนื่อง ที่มียอดผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นทุกๆการสืบสวนสอบสวนของตำรวจ หลักฐานต่างๆ ชี้เป้าไปยังบุคคลคนๆเดียว พยานแวดล้อมก็มัดแน่นเข้ามาเรื่อยๆ แม้ผู้ต้องหายังให้การปฏิเสธก็ตาม
เมื่อหาข้อมูลจากข่าวอาชญากรรมต่างประเทศ พบว่า มีไม่น้อยทีเดียว ที่มีเหตุฆาตกรรมต่อเนื่อง ทั้งฆ่าเพื่อความสนุกส่วนตัว การลงมือด้วยความเป็นโรคจิตเวชอย่างรุนแรง แต่หนึ่งในการฆ่าที่คล้ายกับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น มีจำนวนหนึ่งที่เป็นการฆาตกรรมต่อเนื่องเพื่อเงินทอง และผลประโยชน์ ‘คมชัดลึก’ จึงขอรวบรวมคดีฆาตกรรมต่อเนื่องที่มีแรงจูงใจและขับเคลื่อนด้วยผลประโยชน์ และได้รับรู้ถึงซึ่งที่เกิดขึ้นมาแล้วบนโลกใบนี้
Hell's Belle
Belle Gunness หรือฉายา Hell's Belle เป็นฆาตกรต่อเนื่องชาวนอร์เวย์-อเมริกัน ที่มีบทบาทในรัฐอิลลินอยส์และรัฐอินเดียนาระหว่างปี 1884 และ 1908 คาดว่า Gunness ได้คร่าชีวิตผู้คนไปจำนวนมาก
กันเนส เกิดที่ Brynhild Paulsdatter Størseth เมื่ออายุได้ 14 ปี Gunness เริ่มทำงานให้กับฟาร์มใกล้เคียงด้วยการรีดนมและต้อนฝูงสัตว์เพื่อประหยัดเงินให้เพียงพอสำหรับการเดินทางไปยังนครนิวยอร์ก[7] เธอย้ายไปสหรัฐอเมริกา
ในปี พ.ศ. 2424 เมื่อเธอได้รับการตรวจคนเข้าเมืองที่ Castle Garden เธอเปลี่ยนชื่อเป็น เบล จากนั้นเดินทางไปชิคาโกเพื่อร่วมกับ Nellie น้องสาวของเธอซึ่งอพยพมาเมื่อหลายปีก่อนในชิคาโก ขณะที่อาศัยอยู่กับพี่สาวและน้องเขย กันเนสทำงานเป็นคนรับใช้ในบ้าน จากนั้นได้งานที่ร้านขายเนื้อชำแหละซากสัตว์ กันเนสแต่งงานกับแมดส์ โซเรนสันในปี พ.ศ. 2427 ทั้งคู่เป็นเจ้าของร้านขายขนมซึ่งต่อมาถูกไฟไหม้ บ้านของพวกเขาก็ถูกไฟไหม้เช่นกัน และทั้งสองกรณีได้จ่ายเงินประกันให้กับทั้งคู่
กันเนส มีลูก 2 คน และทั้งคู่เสียชีวิตจากการอักเสบของลำไส้ใหญ่ ซึ่งอาจเป็นผลมาจากการเป็นพิษ กันเนสทำประกันเด็กทั้งสองและรวบรวมเช็คประกันจำนวนมากหลังจากการตายแต่ละครั้ง
ต่อมา โซเรนสันได้ซื้อกรมธรรม์ประกันชีวิตไว้สองฉบับ ในวันที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2443 หลังจากนั้น เขาก็เสียชีวิตด้วยอาการเลือดออกในสมอง ซึ่งกันเนสอธิบายว่าเขากลับมาบ้านด้วยอาการปวดหัว และเธอก็ให้ผงควินินแก่เขาเพื่อแก้ปวด หลังจากนั้นเธอก็ตรวจดูเขาและเขาก็ตายแล้ว กันเนสเก็บเงินจากทั้งกรมธรรม์ประกันชีวิตที่หมดอายุ และกรมธรรม์ที่มีผลบังคับใช้ในวันนั้น รวมเป็นเงิน 5,000 ดอลลาร์ จากนั้น กันเนส ย้ายไปที่ La Porte รัฐอินเดียนา และซื้อฟาร์มเลี้ยงหมู
ต่อมา เบลล์แต่งงานใหม่ กับปีเตอร์ กันเนสเมื่อวันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2445 สัปดาห์ต่อมาขณะที่ปีเตอร์อยู่นอกบ้าน ลูกสาววัยทารกของเขาเสียชีวิตโดยไม่ทราบสาเหตุในความดูแลของเบลล์
ในเวลาไม่นาน ปีเตอร์เสียชีวิต จากอาการบาดเจ็บที่กะโหลกศีรษะซึ่ง เบลล์อธิบายว่าปีเตอร์เอื้อมมือไปหยิบอะไรบางอย่างบนหิ้งสูง แล้วเครื่องบดเนื้อก็ตกลงมาใส่เขา กะโหลกของเขาแตก เจ้าหน้าที่ชันสูตรศพเรียกประชุมคณะลูกขุนของเจ้าหน้าที่ชันสูตรศพ โดยสงสัยว่ามีการฆาตกรรม แต่ไม่มีอะไรเกิดขึ้นจากคดีนี้ เบลล์ได้เงินประกันการตายของปีเตอร์ได้ 3,000 ดอลลาร์
หลังจากการตายของปีเตอร์ กันเนสทำการประกาศลงโฆษณาในหนังสือพิมพ์ชิคาโกในปี 2448 เพื่อหาคู่แต่งงาน และมีชายนามว่า เฮนรี่ เกอร์โฮลท์ เกษตรกรชาววิสคอนซินหลังจากนั้น เกอร์โฮลท์ ได้หายตัวไป ครอบครัวของเขาติดตามหา รวมทั้งติดต่อกับ กันเนส ซึ่งบอกเพียงว่า เฮนรี่ เกอร์โฮลท์ เดินทางไปกับพ่อค้าม้าแห่งชิคาโกแล้ว
ต่อมาไม่นาน โฆษณาหาคนแต่งงานก็เกิดขึ้นอีก และ จอห์น โมส ก็ตอบรับการโฆษณาดังกล่าว ก่อนที่จะเดินทางไปหากันเนส มีพยานพบเห็นว่า เขาเบิกเงินสดติดตัวไปจำนวนมาก ก่อนที่จะหายตัวไปอย่างลึกลับเช่นกัน พยานที่เป็นช่างไม้ที่เคยรับงานที่บ้านของกันเนสให้ข้อมูลไว้ว่า เขาพบเห็นของใช้ประเภทหีบสิ่งของของจอห์นยังอยู่ภายในบ้าน
ปีพ.ศ.2451 เกิดเหตุไฟไหม้ที่บ้านในไร่ของกันเนส ในลาปอร์ต รัฐอินเดียน่า ในซากปรักหักพัง เจ้าหน้าที่พบศพของหญิงชราที่ไร้ศีรษะ ซึ่งในตอนแรกระบุว่าชื่อเบลล์ กันเนส และลูกทั้งสามของเธอ แต่แล้วสิ่งที่น่าตกใจก็เกิดขึ้น เมื่อมีการตรวจสอบที่เกิดเหตุเพิ่มเติม กลับพบว่า มีซากศพในที่เกิดเหตุถึง 11 ราย รวมทั้งทรัพย์สินของบุคคลที่สูญหายไปรวมอยู่ด้วย
จากการตรวจสอบศพที่พบ หัวขาด แขนหัก ขาหลุดจากเข่า ถูกนำใส่ในกระสอบไว้ รวมทั้งกะโหลกของศพแตก นอกจากนี้ ยังมีการพบพยาน เรย์ แลมเฟียร์ ซึ่งเป็นผู้จ้างและคาดว่าเป็นคู่รักของกันเนส ได้ให้การว่า ศพที่ถูกระบุว่าเป็นกันเนส แท้จริงคือหนึ่งในเหยื่อ และได้บอกเพิ่มเติมว่า กันเนสปล้นผู้ชายที่มาหาเธอที่บ้าน ซึ่งภายหลังมีการจับกุมแลมเฟียร์ และพบทรัพย์สินของบุคคลสูญหายอยู่เขา หลายคนเขาใจว่ากันเนสจัดฉากตายเพื่อหนี แต่ภายหลัง มีบาทหลวงท่านหนึ่ง บุพร้อมเอกสารสารภาพของแลมเฟียร์ ว่าตนเป็นคนฆ่ากันเนสและลูกๆ ก่อนจุดไฟเผาบ้าน
สร้างโปรไฟล์ดี ฆ่าเอาเงิน
อีกกรณี ที่โหดร้ายไม่แพ้กันกับคดีของ Harry Powers ทำการหลอกลวงเงินและฆาตกรรมผู้หญิงหลายคนด้วยกัน
Powers เกิดในเนเธอร์แลนด์ ชื่อตอนเกิดระบุไว้ว่าชื่อ Hermann หรือ Harm Drenth ในปี พ.ศ. 2453 เขาอพยพไปยังสหรัฐอเมริกาและย้ายไปเวสต์เวอร์จิเนียในปี พ.ศ. 2469 การก่ออาชญากรรมครั้งแรกของเขาเกิดขึ้นในปี พ.ศ. 2464 ในรัฐวิสคอนซิน เขาถูกตัดสินว่ามีความผิดในข้อหาลักทรัพย์ในวิสคอนซินและใช้เวลา เจ็ดปีต่อมา เขาเป็นผู้ต้องสงสัยในการหายตัวไปของดัดลีย์ เวด คนขายเครื่องดูดฝุ่น และการตายของผู้หญิงที่ไม่ปรากฏชื่อในไอโอวา
ต่อมา Powers ได้เริ่มต้นการก่อคดีด้วยการลงประกาศโฆษณาในหนังสือพิมพ์ ด้วยการนนำเสนอตนเองว่า เป็นวิศวโยธา ตกพุ่มม่าย มีฐานะมั่งคั่ง เขาระบุรายได้เฉลี่ยต่อเดือนที่ 400 ถึง 3,000 ดอลลาร์ แต่ยังหาผู้หญิงที่ถูกใจไม่ได้ จึงพร้อมเสนอเงินและรถยนต์ให้กับหญิงสาวที่เขาถูกใจ มีผู้หญิงจำนวนไม่น้อยที่ให้ความสนใจกับประกาศโฆษณาของ Powers
หนึ่งในเหยื่อของเขา คือ คอร์นีเลียส เพียร์สัน ที่หลงเชื่อและถูกหลอกไปยังเวสต์เวอร์จิเนีย และทพการแต่งงานกับเธอเพื่อครอบครองทรัพย์สิน และท้ายที่สุดก็ฆ่าเธอ ต่อมา Powers ทำการฆ่ายกครัว Anna Eicher พร้อมลูก 2 คน ด้วยการบีบคอคอแม่จนเสียชีวิต และตีหัวเด็กทั้ง 2 คนด้วยค้อนจนตาย ในรัฐอิลลินอยส์ จากนั้นเหยืออีกรายเป็นหญิงสาวชาวแมสซาชูเซตส์ถูกพบศพภายในบ้านที่ไควเอตเดล เวสต์เวอร์จิเนีย
ตำรวจอิลลินอยส์เริ่มตามหาครอบครัว Eicher ในปี 1931 พวกเขาพบจดหมายจาก Pierson และค้นหาทรัพย์สินของเขากลายเป็นเส้นผม สมุดธนาคารที่ถูกไฟไหม้ และรอยเท้าเปื้อนเลือดในโรงรถของ Powers และยังมีการค้นพบศพเพิ่มเติมจากการช่วยเหลือชี้จุดของเด็กชายข้างบ้าน และนำมาสู่การจับกุม Powers
การพิจารณาคดีห้าวันเกิดขึ้นในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2474 อำนาจถูกตัดสินว่ามีความผิดและถูกตัดสินประหารชีวิตด้วยการแขวนคอ เวสต์เวอร์จิเนียรับโทษเมื่อวันที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2475
ที่มาข้อมูล
https://en.wikipedia.org/wiki/Belle_Gunness
https://en.wikipedia.org/wiki/Harry_Powers