ข่าว

'บิ๊กโจ๊ก' ถกทีมคดี 'แอม ไซยาไนด์'  หาตัวผู้สมรู้ร่วมคิด

'บิ๊กโจ๊ก' ถกทีมคดี 'แอม ไซยาไนด์' หาตัวผู้สมรู้ร่วมคิด

28 เม.ย. 2566

"รอง ผบ.ตร." เรียกประชุม ตำรวจชุดทำคดี "แอม ไซยาไนด์" พิจารณาเอาผิดเพิ่ม-มีผู้รู้เห็นหรือไม่ ขณะที่ ผอ.ทัณฑสถานหญิงกลาง เผย แอม ยังมีความกังวล ไร้ญาติเยี่ยมมีเพียงทนายติดต่อเพียงคนเดียว

28 เม.ย. 2566  พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) เรียกประชุมความคืบหน้าในการทำสำนวนคดี น.ส.สรารัตน์ หรือ แอม ผู้ต้องหา ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ในคดีการเสียชีวิตของ น.ส.ศิริพร หรือ ก้อย เท้าแชร์สาว กระทั่งล่าสุด เจ้าหน้าที่พบว่ามีคดีการเสียชีวิตก่อนหน้าที่มีความเชื่อมโยงกับ น.ส.สรารัตน์ หรือ แอม ทั้งหมด 14 ราย เสียชีวิต 13 ราย รอดชีวิต 1 ราย  


โดยตั้งแต่ช่วงเช้า ตำรวจชุดทำคดีทั้ง จากกองบังคับการปราบปราม , ตำรวจภูธรภาค 7 ทั้งจากจังหวัดเพชรบุรี กาญจนบุรี นครปฐม ราชบุรี และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน เข้าร่วมประชุมที่สโมสรตำรวจ  

บิ๊กโจ๊ก ประชุมคดีแอม หาตัวผู้สมรู้ร่วมคิด

 

 

โดยการประชุมในวันนี้ ตำรวจชุดทำคดี จะรายงานผลการทำสำนวนต่อ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ที่วีดีโอคอนเฟอร์เรนซ์มาร่วมประชุมจากต่างประเทศ รวมถึงไทม์ไลน์ พยานแวดล้อม ผลการสอบปากคำแพทย์ทั้งหมด ไม่ว่าจะผ่าชันสูตรศพ และไม่ผ่าศพ , การสอบปากคำผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด , ผลทางนิติวิทยาศาสตร์ จากการตรวจวัตถุพยานที่ตรวจเก็บได้ ไม่ว่าจะเป็นจากในรถของผู้เสียชีวิต รถของผู้ต้องหา ในบ้านของผู้ต้องหา บ้านของพี่สาวผู้ต้องหา มาหารือเพื่อพิจารณาว่า คดีการวางยานี้ จะมีใครที่มีส่วนเกี่ยวข้อง และรู้เห็นกับแอมอีกหรือไม่  และจะสามารถออกหมายจับ ใครได้อีกหรือไม่ และแจ้งข้อกล่าวหาแอมเพิ่มเติมได้อีกหรือไม่อย่างไร

 

 

 

ส่วนตัว น.ส.สรารัตน์ หรือ แอม ภายหลังจากถูกฝากขังอยู่ภายในเรือนจำเป็นวันที่ 2 หลังศาลไม่อนุญาตให้ประกันตัว  นางสาวโศรยา ฤทธิอร่าม ผู้อำนวยการทัณฑสถานหญิงกลาง เปิดเผยว่า น.ส.สรารัตน์ หรือ แอม สามารถปรับตัวได้ดีขึ้น และอยู่กับผู้ต้องขังรายอื่นในห้องกักโรค

 

จากการที่ทีมสหวิชาชีพและนักจิตวิทยาของเรือนจำสังเกตพบว่า แอม มีการพูดคุยกับผู้ต้องขังรายอื่นทำให้อาการเครียดลดน้อยลง แต่ยังมีความวิตกกังวลอยู่เล็กน้อย แต่ไม่ถึงกับวันแรกที่เข้ามาในเรือนจำที่แอมมีอาการเครียดจนความดันขึ้นสูง จนต้องพาเข้าทัณฑสถานโรงพยาบาล และเมื่อแพทย์ให้ยา อาการของแอมก็ดีขึ้น ก่อนจะกลับมาอยู่ที่ห้องกักโรคตามเดิม ซึ่งต้องมีการควบคุมเฝ้าระวังอาการตามกฎกระทรวงสาธารณสุขป้องกันโควิดให้ครบ 5 วัน จึงจะไปย้ายไปอยู่ที่ห้องบับเบิลโซนอีก 5 วัน ก่อนย้ายเข้าสู่แดนแรกรับได้ปกติ
 

ส่วนเด็กในครรภ์ของแอม เมื่อวานนี้สูตินารีแพทย์ได้เข้ามาดูแล โดยมีการตรวจสัญญาณชีพของเด็ก พบว่า อาการและสัญญาณชีพปกติ ไม่มีความน่ากังวลใดๆ ส่วนประเด็นอาการทางจิตเวชของแอมขณะนี้ ไม่สามารถสรุปได้ ต้องรอให้แพทย์เป็นผู้สรุปข้อมูลอย่างละเอียดก่อนส่งมาอีกครั้ง

 

อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่ถูกส่งตัวเข้าเรือนจำยังไม่มีญาติติดต่อขอเข้าเยี่ยม มีเพียงนางสาวธันย์นิชา เอกสุวรรณวัฒน์ ทนายความของแอมได้ติดต่อเข้ามาเพียงคนเดียว