เปิดแผนประทุษกรรม 'แอม ไซยาไนด์' ก่อเหตุ หลังถูกทวงหนี้ เลือกวันชัดเจน
วางแผนอย่างดี บิ๊กโจ๊ก เผยแผนประทุษกรรม 'แอม ไซยาไนด์' ก่อเหตุ หลังจากถูกทวงหนี้ เลือกก่อเหตุช่วงวันหยุด พร้อมสั่งตรวจสอบ บัญชีม้า
ยิ่งสืบยิ่งพบ คดี “แอม” ผู้ต้องหา ใช้ “ไซยาไนด์” วางยาเหยื่อ หลังขยายผลพบผู้เสียชีวิตที่เชื่อมโยงกับ “แอม” รวมกว่า 14 ราย รอดชีวิต 1 ราย โดยที่ผ่านมา ตำรวจมีการทยอยออกหมายจับ “แอม” เพิ่มในหลายคดี ทั้งในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ข้อหาพยายามฆ่า และข้อหาลักทรัพย์
จากการขยายผล ล่าสุด พบว่า แอม ไซยาไนด์ จะก่อเหตุ หลังจากถูกทวงหนี้ พบหนี้สิ้นท่วมตัว บัตรเครดิต-พนันออนไลน์ เลือกก่อเหตุช่วงวันหยุด ศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ ก่อนจะกลับไปหาคนใกล้ชิด เพื่อสร้างพยานหลักฐาน ซึ่งทาง “บิ๊กโจ๊ก” รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ สั่งตรวจสอบ บัญชีม้า
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยความคืบหน้าการประชุมร่วมกับชุดคลี่คลาย คดีนางสรารัตน์ หรือ แอม ผู้ต้องหาในคดีฆ่าวางยา “ไซยาไนด์” ว่า จากพยานหลักฐาน และไทม์ไลน์ การก่อเหตุ ทำให้สามารถถอดแผนประทุษกรรมออกมาได้ว่า เหตุจะเกิดช่วงวัน ศุกร์ เสาร์ และ อาทิตย์ เมื่อก่อเหตุแล้ว แอมจะกลับมาหาบุคคลใกช้ชิด และไปต่างจังหวัดกับบุคคลใกล้ชิด ซึ่งเป็นวิธีการสร้างพยานหลักฐาน และถิ่นที่อยู่
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ตั้งข้อสังเกตว่า จากการกระทำของแอม ถ้าไม่มีคนแนะนำ ไม่สามารถทำได้ขนาดนี้ เพราะรู้วิธีการสร้างพยานหลักฐาน สร้างถิ่นที่อยู่ และทำในห้วงวันหยุด ทั้งนี้ ก็จะต้องไปดูว่าในห้วงวันหยุดนั้นใครหยุด และทุกครั้งที่ก่อเหตุ จะต้องมีแรงกระตุ้น เช่น เมื่อมีการทวงเงิน ทวงหนี้ ก็จะเริ่มก่อเหตุ
โดยแนวทางการสืบสวนพบว่า สภาพทางเศรษฐกิจของแอม ล้มเหลว หนี้สินท่วมไปหมด และยังเป็นหนี้บัตรเครดิต ติดเครดิตบูโร และเมื่อไรที่มีการทวงเงิน ก็จะเริ่มหาเหยื่อ และเลือกลงมือวัน ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ อีกทั้งยังพบอีกว่า แอม และอดีตสามี เล่นพนันออนไลน์ด้วย ส่วนหนี้สินของอดีตสามี อยู่ระหว่างการตรวจสอบ
นอกจากนั้น จากการตรวจสอบ ยังพบเส้นทางการเงินของแอม โอนไปหลายส่วน และมีบัญชีม้าด้วย ซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจสอบบัญชีม้าว่า เอาไปทำอะไร
“ส่วนการตรวจสอบพยานหลักฐานที่พบในรถของแอม มีทั้งสัญญาเงินกู้และอื่นๆ และตำรวจไล่เส้นทางการขับรถ ก็พบชัดเจนว่า มีบุคคลใกล้ชิดแอม ขับรถลงมาจาก จ.อุดรธานี เป็นรถของแด้ สามีนอกสมรส และเมื่อมาถึงนครปฐม แอมก็เอารถคันนี้ไปจำนำ” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เผยข้อมูล
ทั้งนี้ ตำรวจอยู่ระหว่างการสอบปากคำ พ.ต.ท.วิฑูรย์ รังสิวุฒาภรณ์ อดีตรองผู้กำกับการ สภ.เมืองบ้านโป่ง อดีตสามีของแอม เพิ่มเติม หลังจากรวมรวบพยานหลักฐาน ซึ่งขณะนี้ อดีตสามีของแอม ให้การเป็นประโยชน์เพิ่มขึ้นมากกว่าครั้งแรกที่มีการสอบปากคำ แต่ยังไม่ได้ให้การรับสารภาพใดๆ โดยหากพบว่า คำให้การในครั้งนี้ ไม่ตรงกับคำให้การในครั้งแรก ก็จะต้องถูกดำเนินคดีในข้อหาให้การเท็จต่อเจ้าพนักงานด้วย
ซึ่งในประเด็นเคสของ นายสิทธิศักดิ์ หรือ แด้ จากการสอบปากคำอดีตสามีของแอม ได้ให้การไว้ว่า วันที่แด้เสียชีวิต แอมให้มาเอารถที่ จ.อุดรธานี เพราะเป็นรถที่มีการเอามาจำนำ ซึ่งประเด็นนี้ ตำรวจไม่ได้เชื่อคำให้การ เพราะคำให้การขัดกับพยานหลักฐาน และข้อเท็จจริงที่มี โดยอดีตสามีของแอมให้การว่า ที่จดทะเบียนหย่ากับแอม เพราะมีปัญหาเรื่องทางการเงิน แต่เชื่อว่า เพื่อต้องการให้เจ้าตัวพ้นผิด ส่วนจะเกี่ยวข้องกับคดีร่วมกันฆ่าฯหรือไม่ อยู่ระหว่างพิจารณาในรายละเอียด
อย่างไรก็ตาม หากจะขอศาลอนุมัติหมายจับตามความผิด จะมีทั้งข้อหา ยักยอกทรัพย์ /ใช้เอกสารราชการปลอม ที่เอาทะเบียนปลอมมาใช้ ส่วนข้อหาร่วมกันฆ่า ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ ซึ่งคาดว่าในวันพรุ่งนี้ จะไปขอศาลอนุมัติหมายจับได้ และหากเป็นไปตามขั้นตอน หากเป็นข้าราชการก็จะต้องให้ออกจากราชการไว้ก่อน เบื้องต้น ยังยืนยันมีผู้กระทำความผิดเพียงแค่ 2 คน คือ แอม และคนใกล้ชิด ที่คอยให้คำแนะนำ ที่เตรียมที่จะขอศาลอนุมัติหมายจับเท่านั้น
ขณะที่ ผลการตรวจสอบวัตถุพยาน ยืนยันได้ว่า พบสารไซยาไนด์ ในรถของผู้ต้องหา และบ้านพี่สาวของผู้ต้องหา รวมถึงหลักฐานในที่เกิดเหตุ บ้านของครูอ๊อด เช่น ขวดน้ำ และวัตถุพยานอื่นๆ ก็พบสารไซยาไนด์ จึงเป็นที่มาของการขอศาลอนุมัติหมายจับ