'พนง.ท่าเรือ' 384 คน สู้ต่อปมค่าโอที จ่อฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหายพันล้าน
มหากาพย์ค่าล่วงเวลา หรือ ค่าโอที "พนักงานการท่าเรือ" 384 คน ส่อบานปลาย ทั้งคดีอาญามาตรา 157 และคดีแพ่งละเมิดเรียกค่าเสียหายนับพันล้านบาท
แม้ว่าศาลอุทธรณ์คดีชำนัญพิเศษ ยกฟ้องคดีที่พนักงานการท่าเรือฯ จำนวน 384 คน ฟ้องการท่าเรือแห่งประเทศไทยเรื่องค่าล่วง ซึ่งเป็นคดีมหากาพย์อีกคดี ซึ่งมีแนวโน้มว่าอดีตพนักงานการท่าเรือกลุ่มดังกล่าวจะฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหายกว่าพันล้านบาท
ล่าสุด เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (8 พ.ค. 2566) ที่ หน้าศาลแรงงานกลาง ถนนพระราม 4 กทม. นายกฤษฎา อินทามระ ทนายความพร้อมด้วยพนักงานการท่าเรือกว่า 100 คน ร่วมกันแถลงภายหลังทราบผลคำพิพากษาศาลอุทธรณ์คดีชำนัญพิเศษ ที่พนักงานการท่าเรือฯ จำนวน 384 คนฟ้องการท่าเรือแห่งประเทศไทยเรื่องค่าล่วงเวลาจำนวนทุนทรัพย์กว่า 500 ล้านบาท
โดยนายกฤษฎา กล่าวว่า ศาลแรงงานกลางมีคำพิพากษายกฟ้องเพราะคดีขาดอายุความ จึงได้ยื่นอุทธรณ์ต่อศาลอุทธรณ์คดีชำนัญพิเศษโดยให้เหตุผลว่า การท่าเรือจำเลยได้ใช้คดีพิเศษของ ดีเอสไอ มากล่าวอ้างกับศาลว่าโจทก์ทั้ง 384 คนได้ถูกการท่าเรือแจ้งความดำเนินคดีที่ ดีเอสไอ ในข้อหาทุจริตเบิกค่าล่วงเวลา
ดังนั้นการแจ้งความในครั้งนี้จึงเป็นเหตุสุดวิสัยที่เกิดขึ้นในระหว่างมีข้อพิพาทจึงทำให้อายุความสะดุดหยุดลง คดีของโจทก์ทั้งหมดจึงยังไม่ขาดอายุความ โดยในวันนี้ศาลอุทธรณ์คดีชำนัญพิเศษมีคำพิพากษาว่า คดีโจทก์ฟ้องทั้งหมดขาดอายุความ
การที่ศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษาดังกล่าวทำให้โจทก์ทั้งหมดมีสิทธิดำเนินคดีทางแพ่งกับการท่าเรือในมูลละเมิดเป็นคดีใหม่เพราะขณะนี้ปรากฎชัดแล้วว่าการแจ้งความในคดีพิเศษของ ดีเอสไอ นั้น ถือเป็นการแจ้งความเท็จ เนื่องจาก ดีเอสไอ สรุปสำนวนสั่งพ้องผู้ต้องหาได้เพียง 34 คนจากผู้ถูกล่าวหา 1,019 คน
โดยนายกฤษฎากล่าวว่า มหากาพย์เรื่องเงินค่าล่วงเวลาของพนักงานการท่าเรือที่มีปัญหากันมายาวนานหลายสิบปีนั้น จะต้องดำเนินต่อไปแต่จะเปลี่ยนข้อหาจากค่าล่วงเวลามาเป็นค่าเสียหายในมูลละเมิด สืบเนื่องมาจากการแจ้งความเท็จในคดีพิเศษของ ดีเอสไอ โดยคดีใหม่นี้จะมีมูลค่าความเสียหายตั้งแต่ 500 ล้านบาทถึง1,000 ล้านบาท และยังมีคดีอาญาตามมาตรา 157 ที่พนักงานนับร้อยคนแจ้งความจับผู้บริหารกับพวกรวม 130 คนไว้ที่ บก.ปปป. พนักงานก็จะดำเนินคดีต่อไปจนถึงที่สุด เพราะถือว่ามีการกระทำความผิดสำเร็จแล้วโดยอาจทำให้พนักงานนับพันคนต้องติดคุกทั้งที่เป็นผู้บริสุทธิ์
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า พนักงานที่มารับฟังคำพิพากษาฯ วันนี้แสดงพลังด้วยการตะโกน สู้ สู้ สู้ และยืนยันจะเอาผิดผู้บริหารการท่าเรือฯ ให้ถึงที่สุด