ตร.ไซเบอร์ รวบ 'อดีตนักบินลวงสาวมีสัมพันธ์' แอบตั้งกล้องถ่ายขายกลุ่มลับ
ตำรวจไซเบอร์ บุกรวบ "อดีตนักบิน" ลวงสาวเข้าโรงแรมมีสัมพันธ์ แอบตั้งกล้องถ่ายคลิป ก่อนขายกลุ่มลับ พบมีผู้เสียหายร่วม 30 ราย พบประวัติเคยทำมาแล้วตั้งแต่ปี 2564
ภัยสังคมทางทางโลกออนไลน์ที่มีเหยื่อเป็นหญิงสาวถูกหลอกให้มีความสัมพันธ์แล้วแอบตั้งกล้องถ่ายคลิปอนาจารไปเผยแพร่ยังคงมีให้เห็นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด ตำรวจไซเบอร์ ทำการสืบสวนสอบสวนจนได้เบาะแสและนำกำลังเข้าจับกุม โดย พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ผบช.สอท.) พร้อมกำลังเข้าตรวจค้นเป้าหมาย 2 จุด ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและจันทบุรี
โดยจุดแรกนำกำลังเข้าตรวจค้นบ้านหลังหนึ่งในซ.รามคำแหง 112 หมู่บ้านสัมมากร แขวงและเขตสะพานสูง เป็นบ้านพักของ นายภัทรวิทย์ (สงวนนามสกุล) อดีตนักบินสายการบินแห่งหนึ่ง
ส่วนจุดที่สอง เป็นหมู่บ้านแห่งหนึ่งในอ.เมืองจันทบุรี เป็นบ้านพักของนายอรรถพล (สงวนนามสกุล) ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ในความผิดกระทำอนาจาร, หมิ่นประมาทได้กระทำโดยการโฆษณาฯ, นําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดๆ ที่มีลักษณะอันลามก จากการตรวจค้นเจ้าหน้าที่ทำการยึดคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ค, โทรศัพท์มือถือ, ฮาร์ดดิสต์ ไว้เป็นหลักฐาน
การเข้าจับกุมครั้งนี้ ผู้เสียหายเข้าร้องทุกข์กับ บช.สอท. ให้ดำเนินคดีกับนายภัทรวิทย์ ซึ่งรู้จักกันผ่านแอปพลิเคชั่นอินสตาแกรม, เฟซบุ๊ก, ทินเดอร์ เป็นต้น มีการสร้างโปรไฟล์เป็นนักบินสายการบินแห่งหนึ่ง ชักชวนคุยตีสนิท จากนั้นก็ได้มีการนัดพาผู้เสียหายไปเปิดห้องพัก ก่อนที่จะมีเพศสัมพันธ์กัน
ต่อมาผู้เสียหายพบว่ามีการนำภาพคลิปลับลักษณะอนาจารไปปรากฎในแอปพลิเคชั่น VK และแพลตฟอร์มอื่นๆ และยังมีการนำเฟซบุ๊ก อินสตาแกรมของผู้เสียหายไปโพสต์ไว้ได้ จึงได้แจ้งความกับทางตำรวจไซเบอร์ และทำการสืบสวนแกะรอย จนพบว่าผู้ก่อเหตุทั้งสองคนคือ นายภัทรวิทย์ และนายอรรถพล จึงได้นำกำลังเข้าตรวจค้นและจับกุม
จากแนวทางการสืบสวน พบว่าเมื่อปีที่แล้ว นายภัทรวิทย์ ได้มีการเปิดห้องพักที่โรงแรมแห่งหนึ่งย่านราชเทวี 13 ครั้ง โดยใช้เป็นสถานที่นัดเหยื่อสาวมามีความสัมพันธ์ และแอบถ่ายคลิปไว้ นอกจากนี้ยังพบว่าเมื่อปี 2564 ผู้ต้องหา ยังเคยมาเปิดห้องพักที่โรงแรมดังกล่าว 7 ครั้งเช่นกัน ซึ่งสอดรับกับที่เจ้าหน้าที่พบว่ามีการขายคลิปขณะมีสัมพันธ์กับผู้เสียหาย ในราคาคลิปละ 3,600 บาท และมีการเปิดสมัครสมาชิกในลักษณะกลุ่มลับ จากคลิปที่ปรากฎในแอพพลิเคชั่น VK มีการตรวจพิสูจน์พบว่ามีผู้เสียหายถูกกระทำในลักษณะเดียวกันกว่า 29 ราย
สำหรับนายภัทรวิทย์ เคยถูกดำเนินคดีในลักษณะเดียวกันที่ สภ.สำโรงเหนือ และมีผู้เสียหายแจังความดำเนินคดีที่ สน.โคกคราม จากประวัติพบว่าเคยทำงานเป็นนักบินของสายการบินแห่งหนึ่ง แต่ได้ลาออกมาแล้ว