ข่าว

อ้างเป็นเลขา รอง ผบ.ตร. 'ติดสินบน' จนท. หอบเงิน 8 แสน แลกปล่อยตัว ชาวจีน

อ้างเป็นเลขา รอง ผบ.ตร. 'ติดสินบน' จนท. หอบเงิน 8 แสน แลกปล่อยตัว ชาวจีน

20 พ.ค. 2566

ตำรวจซ้อนแผน รวบตัว อ้างเป็นเลขา รอง ผบ.ตร หอบเงิน 800,000 บาท 'ติดสินบน' เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.เชียงแสน แลกปล่อยตัวผู้ต้องหา ชาวจีน

เงินสดจำนวน 800,000 บาท เป็นของกลาง ที่ตำรวจภูธรเชียงแสน จ.เชียงราย ตรวจยึด พร้อมควบคุมตัว 4 ผู้ต้องหา ฐานร่วมกันติดสินบนเจ้าพนักงาน เพื่อขอให้ปล่อยตัวผู้ต้องหาชาวจีน หลบหนีเข้าเมือง อ้างเป็นเลขาฯ รอง ผบ.ตร.

               

 

 

โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อกลางดึก วันที่ 19 พ.ค. 2566 เจ้าหน้าที่ตำรวจด่านตรวจคนเข้าเมืองเชียงแสน พร้อม ตำรวจ สภ.เชียงแสน ร่วมกันจับกุมตัว นายสุนฉ่าย (สงวนนามสกุล) อายุ 34 ปี, นายพีระพล (สงวนนามสกุล) อายุ 34 ปี, น.ส.ธัฐธิดา (สงวนนามสกุล) อายุ 54 ปี และ นายรัชต์ธพงศ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 50 ปี พร้อมด้วยของกลาง เงินสด จำนวน 800,000 บาท

 

รวบผู้ต้องหา ติดสินบน เจ้าหน้าที่ตำรวจ

โดย นายรัชต์ธพงศ์ ได้ถูกแจ้งข้อหา แสดงตนเป็นเจ้าพนักงาน และกระทำการเป็นเจ้าพนักงาน โดยตนเองมิได้เป็นเจ้าพนักงาน มาตรา 145 และ ข้อหา มีและใช้เครื่องวิทยุคมนาคม โดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 144 ()

 

เงินสดของกลาง ติดสินบน เจ้าหน้าที่แลกปล่อยตัว

 

เหตุการณ์ครั้งนี้ สืบเนื่องจากการจับกุมต่างด้าวชาวจีน จำนวน 4 คน พร้อมคนนำพา 1 คน เมื่อช่วงเย็นวันที่ 18 พ.ค. 2566 หลังจากมีการจับกุมแล้ว ได้มีการติดต่อประสานงานเข้ามายังเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม เพื่อเสนอเงินจำนวน 800,000 บาท เพื่อแลกกับการปล่อยตัวผู้ต้องหาทั้งหมด โดยอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทำหน้าที่เป็นเลขาฯ ของรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ท่านหนึ่ง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ซ้อนแผน ให้ผู้ที่ประสานงาน นำเงินจำนวน 800,000 บาท ที่จะใช้เป็นการติดสินบนเจ้าหน้าที่ มาส่งมอบให้ ที่ สภ.เชียงแสน จ.เชียงราย

 

รวบยกแก๊ง ติดสินบน เจ้าหน้าที่แลกปล่อยตัว

เมื่อถึงเวลานัดหมาย ทั้ง 4 คน ได้เดินทางมาที่ สภ.เชียงแสน พร้อมกับนำเงินสดมามอบให้กับเจ้าหน้าที่ เพื่อแลกกับการปล่อยตัวผู้ต้องหาชาวจีนทั้ง 4 คน และผู้นำพา ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ทำการควบคุมตัวเอาไว้ พร้อมแจ้งข้อกล่าวหา

 

รวบยกแก๊ง ติดสินบน เจ้าหน้าที่แลกปล่อยตัว

 

โดยนายรัชต์ธพงศ์ ได้อ้างว่า ตนเองเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ และปฏิบัติงานเป็นเลขาของ รอง ผบ. ตร.ท่านหนึ่ง เมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจสอบแล้วพบว่า ไม่มีรายชื่อเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ และไม่มีความเกี่ยวข้องกับ รอง ผบ. ตร.ที่กล่าวอ้างแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการควบคุมตัว พร้อมของการวิทยุสื่อสาร ดำเนินคดีตามกฎหมาย