ตร.ภาค 3 ทลาย 'แก๊งจีนทุนสีเทา' ข้ามชาติ เตรียมตั้งฐานคอลเซ็นเตอร์
ตำรวจภูธรภาค 3 ขยายผลทลายเครือข่ายขบวนการขนคน "จีนทุนสีเทา" เตรียมตั้งฐานแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และอาชญากรรมข้ามชาติ ฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน
22 พ.ค. 2566 พล.ต.ท.สมประสงค์ เย็นท้วม ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 (ผบช.ภ.3) แถลงผลการจับกุมขบวนการลักลอบนำคนต่างด้าวสัญชาติจีน หลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักรไทย เมื่อวันที่ 31 มี.ค. 2566 โดยเชื่อว่า กลุ่มคนสัญชาติจีนดังกล่าวมีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการอาชญากรรมข้ามชาติ และอาชญากรรมทางเทคโนโลยี สร้างความเดือดร้อนให้กับคนไทย
ต่อมา พ.ต.อ.ทศพร เพียรปรุ ผกก.สืบสวน 2 บก.สส.ภ.3 , พ.ต.อ.ชาญชัย อินนราผกก.สส.ภ.จว.อุบลราชธานี นำกำลังเข้าจับกุมผู้ร่วมกระทำความผิดได้เพิ่มอีก 2 คน คือนายเบนซ์ อายุ 31 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาลจังหวัดอุบลราชธานี และนายจุ๋น อายุ 35 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดอุบลราชธานี ในฐานความผิด "ร่วมกันรู้ว่าคนต่างด้าวคนใดเข้ามาในราชอาณาจักรโดยฝ่าฝืนพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง ให้เข้าอาศัย ซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใดๆเพื่อให้คนต่างด้าวนั้นพ้นจากการจับกุม"
พล.ต.ท.สมประสงค์ เปิดเผยว่ากลุ่มบุคคลดังกล่าว ได้ร่วมกันกระทำความผิดเป็นขบวนการ โดยแบ่งหน้าที่กันทำในแต่ละขั้นตอน เริ่มจากขั้นตอนการติดต่อกับนายหน้าชาวลาว เพื่อจัดหาชาวจีนที่ต้องการลักลอบข้ามชายแดนเข้ามาในไทยตามช่องทางธรรมชาติ โดยเฉพาะพื้นที่ตะเข็บชายแดนไทย - สปป.ลาว จัดหารถยนต์เพื่อลักลอบนำคนจีนไปส่งยังพื้นที่ทางตอนเหนือของไทยโดยเฉพาะ อ.แม่สอด จ.ตาก และลักลอบข้ามชายแดนไทยออกไปยังประเทศเพื่อนบ้านต่อไป
โดยการเดินทางแต่ละครั้งจะมีการใช้รถยนต์อย่างน้อย 2-3 คัน ทำหน้าที่เป็นรถยนต์ส่วนล่วงหน้า รถยนต์ขนคนจีน และคันปิดท้าย เพื่อส่งความเคลื่อนไหวของเจ้าหน้าที่ให้ทุกคันทราบตลอดระยะเวลาการเดินทางไปส่งคนจีนยังจุดหมายปลายทาง ซึ่งผู้ร่วมกระทำความผิดดังกล่าว ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มเครือญาติ และคนในหมู่บ้านเดียวกัน โดยแบ่งเงินค่าจ้างขนคนจีนในแต่ละครั้งเป็นเงินจำนวนหลายหมื่นบาทต่อคัน ซึ่งเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้สืบสวนติดตามอย่างต่อเนื่อง
กระทั่งพบว่า ขบวนการดังกล่าวมีเตรียมขนคนต่างด้าวสัญชาติจีนเข้ามาในราชอาณาจักร บริเวณ อ.เขมราฐ จ.อุบลราชธานี และคาดว่า จะนำคนต่างด้าวสัญชาติจีนไปส่งยังพื้นที่ทางภาคเหนือของไทย จึงวางแผนติดตามจับกุม โดยการสะกดรอยและติดตามรถยนต์ของกลุ่มขบวนการ จนไปถึงหน้าจุดบริการประชาชนตำรวจทางหลวงทรัพย์ไพรวัลย์ อ.วังทอง จ.พิษณุโลก จึงได้ประสานงานตำรวจทางหลวงสกัดรถยนต์เข้าตรวจสอบพบบุคคลต่างด้าวสัญชาติจีน 4 คน ในรถยนต์ โตโยต้า วีโก้ สีเทา ทะเบียน อุบลราชธานี มีนายวันชนะ เป็นคนขับ และมีรถยนต์โตโยต้า วีโก้ สีเทา ทะเบียนชลบุรี เป็นรถนำทาง มีนายสมพงษ์ เป็นผู้ขับ โดยนายธงชัย นางมณีวัล และนายอัคณี นั่งมาในรถยนต์คันดังกล่าว
จากนั้น ได้ประสาน ตม. และนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดไปทำการสอบสวนเพิ่มเติม โดย นายธงชัย, นางมณีวัล , นายวันชนะ และ นายอัคณี ได้ให้การรับสารภาพ ในข้อหา “ร่วมกัน รู้ว่าเป็นคนต่างด้าว คนใด เข้ามาในราชอาญาจักรโดยฝ่าฝืนพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง ให้เข้าอาศัย ซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใดๆ เพื่อให้คนต่างด้าวนั้น พ้นจากการจับกุม” และได้จับกุม MR.Zhang jian qiu สัญชาติจีน , MR.Li hai ping สัญชาติจีน , MR.Yang jin yi สัญชาติ จีน และ MS.Aigerim kalzhanova สัญชาติคาซักสถาน ในข้อหา “ เป็นบุคคลต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับ-อนุญาต” นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.บ้านแยง อ.นครไทย จ.พิษณุโลก ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
จากการสืบสวนเบื้องต้น พบว่า กลุ่มผู้ต้องหาคนไทยทั้ง 5 คนมีความเกี่ยวข้องกับกลุ่มผู้ต้องหาคนไทยทั้ง 3 คนที่ถูกจับกุมก่อนหน้านี้ ส่วนบุคคลสัญชาติจีน 3 คนและคาซักสถาน 1 คน ได้ข้อมูลว่า จะถูกพาไปยังพื้นที่ทางภาคเหนือ แถวบริเวณ จ.ตาก เช่นเดียวกับกลุ่มบุคคลสัญชาติจีน 3 คนที่เคยจับกุมก่อนหน้านี้ และจะมีกลุ่มขบวนการนี้มารับต่อ เพื่อเดินทางข้ามชายแดนไทยไปยังฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน
จากข้อมูลทางการสืบสวนพบว่าบริเวณฝั่งชายแดนประเทศเพื่อนบ้านที่กลุ่มบุคคลสัญชาติจีนเดินทางไปนั้น เป็นแหล่งที่ทำการของกลุ่มแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และอาชญากรรมข้ามชาติที่กลุ่มคนจีนเกี่ยวข้อง ซึ่งชุดสืบสวนจะได้ประสานข้อมูลกับหน่วยต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อดำเนินการสืบสวนขยายผลหาผู้ร่วมกระทำความผิดในขบวนการนี้ มาดำเนินคดีทางกฎหมายเพิ่มเติมต่อไป