ผกก.โก-ลก แจงโดนบิดเบือน 'ลงโทษ' 14 ตร. ยืนธำรงวินัยไม่มีความรุนแรง
ผกก. สภ.โก-ลก จ.นราธิวาส แจงปมเพจดังโพสต์ภาพ "ลงโทษ" ตำรวจ 14 นาย ให้ยืนแตกแดดถูกบิดเบือนข้อเท็จจริง ย้ำเป็นการธำรงวินัยตามระเบียบไม่มีความรุนแรงแต่อย่างใด
22 พ.ค. 2566 พ.ต.ท.คำพันธ์ แสนทวีสุข รองผู้กำกับการ สอบสวน หัวหน้างานสอบสวน สภ.สุไหงโกลก เปิดเผยถึงกรณีที่เพจเฟซบุ๊ก "พระจันทร์ลายกระต่าย V3" โพสต์ภาพที่ระบุว่าได้รับจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ถูกลงโทษด้วยการถอดเสื้อและรองเท้า และให้ยืนตากแดด จำนวน 14 นาย จนร่างกายมีรอยไหม้ บางคนมีตุ่มพุพองด้านหลังจนต้องนอนคว่ำโดยเหตุเกิดเมื่อวันเสาร์ที่ 20 พ.ค. 2566 ที่ผ่านมา
ข้อเท็จจริงการลงทัณฑ์ของผู้บังคับบัญชาในครั้งนี้ เนื่องจากว่ามีการบกพร่องต่อระเบียบหน้าที่เป็นหลายๆ ส่วน เป็นเนื้อหาของทางราชการเกี่ยวกับระเบียบหน้าที่ มีการตักเตือนหลายครั้ง ลงทัณฑ์เป็นบางส่วน ซึ่งการลงทัณฑ์ที่นี่เป็นภาพรวม เพื่อให้เป็นมาตรฐานของการปฏิบัติงานร่วมกัน และเป็นไปตามระเบียบไม่มีอะไรที่รุนแรงหรืออะไรนอกเหนือจากระเบียบของตำรวจวางไว้ ส่วนที่ว่าไม่สบายนั้นถึงกับเป็นลมนั่นไม่ ตนก็ควบคุมการปฏิบัติอยู่ตลอดและใกล้ชิดการลงทัณฑ์
ขณะเดียว จ.ส.ต.อดิศร สุขนวล ผบ.หมู่งานป้องกันและปราบปราม สภ.สุไหงโก-ลก ซึ่งเป็น 1 ใน 14 คน ที่ถูกลงโทษ กล่าวว่า วันนั้นการลงโทษก็มีแค่ให้ยืนตามระเบียบพัก ยืนท่าตรงก็ซึ่งแต่ละท่าจะให้เปลี่ยนท่าก็ราวๆ1 ชั่วโมง คนสั่งก็ไม่มีการแตะต้องตัวแต่อย่างใด ข่าวที่ออกไปว่ามีการเป็นลมล้มทั้งยืน ต้องห้ามส่งโรงพยาบาลไม่เป็นความจริง ทุกคนยืนกันทุกคนคนไหนที่ไม่ไหวก็ได้ขออนุญาตนั่ง พอได้นั่งสักพักก็ลุกขึ้นมายืน
ด้าน พ.ต.อ.ปรัชญา ไปเตะ ผกก.สภ.สุไหงโก-ลก ซึ่งอยู่ระหว่างไปราชการต่างพื้นที่ ส่งหนังสือชี้แจงถึงกรณีดังกล่าวโดยมีประเด็นสำคัญใน 9 ข้อ ดังนี้
1.ภาพที่ปรากฏดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 20 พ.ค. 2566 เวลาประมาณ 13.00 น. ณ ลานหน้า สภ.สุไหงโกลก
2.เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปรากฏในภาพเป็น เจ้าหน้าที่ตำรวจแผนกงานคดี ประจำ สภ.สุไหงโกลก จำนวน 14 นาย และมี ร.ต.ท.ชาญวิทย์ สิงห์ป้อง พงส.(สบ 1) สภ.สุไหงโกลก เป็นผู้ฝึกแถว
3.ตลอดระยะเวลาการฝึกธำรงวินัย ได้มี พ.ต.ท.คำพันธ์ แสงทวีสุข รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.สุไหงโกลก และพ.ต.ท.นที จันทร์แสงศรี สว.(สอบสวน) สภ.สุไหงโกลก หัวหน้างานคดี ได้ควบคุมการปฏิบัติและชี้แจงถึงเหตุบกพร่องในปฏิบัติหน้าที่และแนวทางในการปฏิบัติงานราชการต่อไป
4.ข้อบกพร่องในการปฏิบัติ สาเหตุมาจากทางพนักงานสอบสวนหลายๆนาย ได้ประสบก็คือ
4.1 เจ้าหน้าที่ธุรการที่ปฏิบัติหน้าที่เขียนประจำวัน ไม่ได้อยู่ปฏิบัติหน้าที่และไม่สามารถติดต่อได้ และบางครั้ง พงส.ต้องเขียนประจำวันด้วยตนเอง
4.2 เจ้าหน้าที่ห้องคดี ไม่อยู่ประจำห้องคดี ทำให้ไม่สามารถประสานงานเรื่องสำนวนได้ทันท่วงที 4.3 การลงข้อมูลระบบ crime ยังมีการลงข้อมูลผิดพลาดและไม่ครบ 100 เปอร์เซ็นต์เป็นต้น 4.4 หลายครั้งที่ทางผู้บังคับบัญชาต้องระดมสายงานอื่น มาช่วยบันทึกข้อมูลของงานสอบสวนและกำชับให้รับผิดชอบหน้างานตนเอง ไม่ให้มีลักษณะงานค้าง
5.ก่อนที่จะมีการลงโทษครั้งนี้ ทาง พงส.รวมถึงหัวหน้างานสอบสวน ได้มีการแนะนำการปฏิบัติและได้ว่ากล่าวตักเตือนไว้แล้ว แต่การปฏิบัติยังไม่ดีขึ้น
6.การฝึกธำรงวินัยในครั้งนี้ ได้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 14 นายแต่งกายชุดฝึกเขียว มารวมพลหน้า สภ.และสั่งท่า ตามระเบียบพัก และมี รอง ผกก.(สอบสวน)ฯ,สว.(สอบสวน)ฯและร้อยเวร สอบสวน ได้ชี้แจงในการปฏิบัติปฏิบัติหน้าที่และความช่วยเหลือในการทำงานและรู้หน้าที่ของตนเอง
7.การฝึกธำรงวินัยในครั้งนี้ ไม่มีการแตะเนื้อต้องตัวแต่อย่างใด มีเพียงสั่งท่าบุคคลท่ามือเปล่าเท่านั้น
8.หลังเหตุการณ์ดังกล่าวได้มีภาพปรากฏในสื่อสังคมออนไลน์ถึงกรณีการลงโทษดังกล่าว ทาง ผกก.สภ.สุไหงโก-ลก ได้ประชุมระดับ รอง ผกก.ทุกนาย และรีบรายงานผู้บังคับบัญชา (ผบก.ฯ) ทราบ สิ่งจะดำเนินการต่อไป
ณรงค์ นวลสกุล จ.นราธิวาส