รวบ ลูกเขยคลั่ง ยิงดับ พ่อตาแม่ยาย 2 ราย ที่สมุทรสงคราม
ตำรวจนำกำลัง เข้าจับกุมลูกเขยคลุ้มคลั่ง ควง 9 มม. ยิงดับ พ่อตาแม่ยาย 2 ศพ คาบ้านพัก อ้างเขยใหญ่ยุงยง2ผู้ตาย หวังฮุบสมบัติ กดดันจึงก่อเหตุ
เหตุสลด มีรายงานว่า พ.ต.ต.ชุติมา บรรจงปรุ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองสมุทรสงคราม ได้รับแจ้งเหตุยิงกันภายในบ้านเลขที่ 11/1 ม.2 ต.บ้านปรก อ.เมืองฯ จ.สมุทรสงคราม และมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส จึงได้นำกำลังและผู้เกี่ยวข้องไปยังที่เกิดเหตุในทันที พร้อมกับเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิสว่างเบญจธรรมสมุทรสงคราม
ที่เกิดเหตุ เป็นบ้านปูนชั้นเดียว และมีเสียงปืนดังออกมาประมาณ 3 ชุดๆ ละประมาณ 9 นัด ตำรวจจึงถอยออกมาห่างจากบ้านหลังดังกล่าว ประมาณ 100 เมตร โดยไม่ได้ให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยเข้าไปรับคนเจ็บ เนื่องจากผู้ก่อเหตุมีอาการคลุ้มคลั่ง ยืนถือปืนอยู่ในบ้าน ต่อมาได้ให้ญาติเจรจากับผู้ก่อเหตุ ทราบชื่อต่อมาคือ นายไพโรจน์หรือ ตึ๊ก จินตพงศ์ ภูมิลำเนา ต.บางจะเกร็ง และเป็นลูกเขยของผู้ตาย โดยขณะเจรจาผู้ก่อเหตุยังยืนถืออาวุธปืนพกสั้น กึ่งอัตโนมัติ ขนาด 9 ม.ม. ซึ่งเป็นอาวุธที่ใช้ในการก่อเหตุ เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวไว้ได้ ในเวลาต่อมา
จากนั้นเจ้าหน้าที่กู้ภัย จึงได้เข้าให้ความช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ แต่ได้เสียชีวิตไปแล้ว 2 ราย คือ นายโชติพัฒน์ ภิรธนาเจริญวงศ์อายุ 56 ปี สมาชิกสภา อบต.บ้านปรก หมุ่ 2 นอนเสียชีวิตอยู่ลานหน้าบ้านสภาพนอนหงายเบื้องต้นพบถูกยิงที่คอขวา 1 นัด, ใต้รักแร 1 นัด, ข้อศอกซ้าย 1 นัด, หลังข้างซ้าย 1 นัด, และ นางพัชรีย์ ภิรธนาเจริญวงศ์ อายุ 57 ปี ภรรยานอนคว่ำเสียชีวิตบริเวณประตูเข้าบ้าน, ชายโค้งด้านซ้าย 1 นัด, ใต้ไหล่ขวา 1 นัด โดยมีสุนัขคู่ใจชื่อ สุขใจ นอนเฝ้าไม่ห่างสีหน้าโศกเศร้า บริเวณหน้าบ้านพบปลอกกระสุน ตกอยู่ในที่เกิดเหตุ ขนาด 9 มม. จำนวน 30 ปลอก และขนาด .22 อีกจำนวน 1 ปลอก
นายไพโรจน์ ผู้ก่อเหตุ ซึ่งเป็บเขยเล็ก เล่าว่า ที่ผ่านมา ตั้งแต่แต่งานกันมา ตนเองมักถูกกดดันจากพ่อตา และแม่ยาย มาโดยตลอด เวลาเงินไม่พอใช้ในบ้าน ก็ให้ตนเองเป็นคนออกค่าใช้จ่ายให้ตลอดเวลา กระทั่งถึงที่สุด เนื่องจากคู่เขยใหญ่เข้ามาอยู่ในบ้านไม่ถึงเดือน และทำเว็บพนัน ตนกลัวว่าจะมีปัญหา จึงได้ปรึกษากับแม่ยาย แต่แม่ยายกลับไปฟ้องเขยใหญ่ อีกทั้งคู่เขยยังยังไปใส่ความ และยุยงพ่อตา ว่าตนจะไปยิงพ่อตา เพื่อหวังฮุบสมบัติ และยังขู่จะยิงลูกหลานอีกด้วย ซึ่งตนมีคลิปเป็นหลักฐาน อีกทั้งคู่เขยยังได้ขโมยไฟหลวงใช้ ตนก็กลัวจะมีปัญหาอีก เพราะที่ผ่านมาตนไม่อยากมีปัญหากับใคร เพราะเคยติดคุกมาก่อน
และอยากกลับตัวเป็นคนดี แต่กลับมาถูกกดดันตลอดเวลา ด้วยความที่ถูกกดดันมานาน จึงทำให้เกิดอารมณ์ชั่ววูบ ลงมือก่อเหตุในครั้งนี้
อย่างไรก็ตาม หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ทำการควบคุมตัวไปสอบสวนที่โรงพัก พร้อมกับแจ้งข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และจะได้รวบรวมพยานหลักฐานให้ละเอียด เพื่อแจ้งข้อหานายไพโรจน์ เพิ่มเติม และจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุดต่อไป