
ด่วน รวบ 'ผู้การชลบุรี' กับพวกรวม 10 คน 'รีดเงิน' ผู้เสียหาย กว่า 140 ล้าน
ฉาวสะเทือนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตำรวจ สภ.คูคต บุกรวบ 'ผู้การชลบุรี' หรือ ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.ชลบุรี กับพวก รวม 10 " รีดเงิน" ผู้เสียหาย กว่า 140 ล้าน
17 มิ.ย. 2566 มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คูคต จ.ปทุมธานี เข้าจับกุม เจ้าหน้าที่ตำรวจชุด ศปอส. ภ.จ.ชลบุรี ที่ร่วมกันก่อเหตุตบทรัพย์ผู้เสียหาย ซึ่งเป็นผู้ต้องหาในคดีเว็บพนัน และรีดเงินผู้เสียหายรวม 6 ครั้ง เป็นจำนวนเงินกว่า 140 ล้าน
โดยผู้ก่อเหตุ นายตำรวจระดับผู้บังคับการ กับพวกรวมทั้งหมด 10 ราย ประกอบด้วย
1.พล.ต.ต.กัมพล ลีลาประภาภรณ์ ผบก.จ.ชลบุรี
2.พ.ต.ท.ณรงค์ฤทธิ์ วาสุพัน รอง ผบก.จ.ชลบุรี
3.พ.ต.ท.เสถียร รัชพงษ์ไทย รอง ผกก.สภ. หนองขาม จ.ชลบุรี
4.พ.ต.ต.พรเทพ เพ็ชรนวล สว.สส.สภ.วังจันทร์ จ.ระยอง
5.พ.ต.อ.ดำรงศักดิ์ อ่อนตา รอง ผบก.สอท.2
6.พ.ต.ต.นครราช นนทสีลาด
7.พ.ต.ท.ปฐมพงษ์ มีอยู่
8.ร.ต.อ.สมบุญ บุตรดาเลิศ
9.นายพิสิษฐ์ คณิศรพาณี หรือ ต้น
10.นายวีระ นาทรัพย์
โดยพฤติกรรมของผู้ก่อเหตุ ได้จับกุมผู้เสียหาย จากพื้นที่ จ.ปทุมธานี แล้วนำไปคุยในห้องของ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี และมีการข้อความให้ผู้เสียหาย
เบื้องต้น ได้แจ้งข้อหา
- เป็นเจ้าพนักงาน ร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้น การปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความ เสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต
- ร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นให้ยอมให้ หรือยอมจะให้ตนหรือผู้อื่นได้ประโยชน์ในลักษณะที่เป็นทรัพย์สิน โดยใช้กำลังประทุษร้ายหรือโดยขู่เข็ญว่าจะทำอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียงหรือทรัพย์สินของผู้ถูกขู่เข็ญหรือของบุคคลที่สาม จนผู้ถูกข่มขืนใจยอมเช่นว่านั้น
- ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่น หรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพ ในร่างกาย
ต่อมา จากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คูคต จ.ปทุมธานี เข้าจับกุมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ (ศปอส.) กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี ที่ก่อเหตุร่วมกันตบทรัพย์ผู้เสียหายในคดีเว็บพนัน และรีดเงินรวม 6 ครั้ง กว่า 140 ล้านบาท โดยจับกุม พลตำรวจตรี กัมพล ลีลาประภาภรณ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี พร้อมพวกรวม 9 คน
ลือแซ่ด เก้าอี้ผบก.ชลบุรีอาถรรพ์ 7 เดือน เด้ง 2 ราย
จากกรณี พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ออกมาเปิดเผยว่า พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เตรียมเซ็นคำสั่งย้าย พล.ต.ต.กัมพล ลีลาประภารณ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี เจ้าของวลี “เป้รักผู้การเท่าไหร่ เป้เขียนมา” พร้อมกลุ่มตำรวจลูกน้องรวม 8 นาย ไปช่วยราชการที่ ศปก.ตร. หลังถูกพนักงานสอบสวน สภ.คูคต จว.ปทุมธานี ร้องทุกข์กล่าวโทษ โดยระบุพฤติการณ์ว่าผู้การชลบุรีได้ตั้งชุดเฉพาะกิจบุกจับวัยรุ่นแก๊งเว็บพนันออนไลน์ พร้อมทั้งรีดเงินจำนวน 140 ล้านบาท
วันนี้ ( 17 มิ.ย. 66 ) ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี ซึ่งเป็นสถานที่ทำงานของ พล.ต.ต.กัมพล ลีลาประภาภรณ์ ผู้การชลบุรี เจ้าของวลีเด็ดสะเทือนวงการสีกากี พบว่าบรรยากาศเป็นไปด้วยความเงียบเหงา โดยประตูทางเข้าออกทั้งด้านหน้าและด้านหลังถูกปิดไว้ แต่ยังมีเจ้าหน้าที่ตำรวจบางส่วนเข้ามาทำงานที่ตกค้าง ถึงแม้จะเป็นวันหยุดเสาร์-อาทิตย์
เมื่อไปสอบถามเจ้าหน้าที่ตำรวจภายในกองบังคับการบอกว่าวันนี้ไม่มีใครอยู่ ก่อนจะล็อคประตูแล้วเดินกลับเข้าไปด้านใน ส่วนที่บ้านพักประจำตำแหน่งผู้การชลบุรีก็เงียบเหงา ไม่มีใครอยู่เช่นเดียวกับที่ทำงาน
ขณะที่ชาวบ้านต่างพากันลือว่าเกิดอะไรขึ้นกับเก้าอี้ "ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี" ซึ่งมีอำนาจครอบคลุมสถานีตำรวจ 23 แห่ง ที่ล้วนเป็นโรงพักขึ้นชื่อ เพราะเป็นแหล่งท่องเที่ยวติดชายทะเล สถานบริการ และนิคมอุตสาหกรรม ตั้งอยู่ในพื้นที่ สภ.เมืองชลบุรี สภ.ศรีราชา สภ.หนองขาม สภ.บ่อวิน สภ.แหลมฉบัง สภ.เมืองพัทยา และสภ.สัตหีบ นับได้ว่าเป็นโรงพักชั้นดีเยี่ยมที่นายตำรวจระดับผู้กำกับการไปจนถึงนายตำรวจชั้นประทวน ต้องการเข้ามานั่งเก้าอี้ทำงานในพื้นที่ทองคำ
ทั้งนี้พบว่าตำแหน่ง "ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี" สุดอาถรรพ์ เวลาเพียงแค่ 7 เดือน เกิดเรื่องราวอื้อฉาวหลายอย่างเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนทำให้ผู้การชลบุรีถูกโยกย้ายมาแล้ว 2 คน เริ่มจากเมื่อเดือนช่วงตุลาคม 2565 สำนักงานตำรวจแห่งชาติมีคำสั่งให้ พล.ต.ต.กิตติ์ธเนศ ธนนันท์ทวีสิน ไปดำรงตำแหน่งผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี แต่อยู่ได้ไม่ถึง 2 เดือน ก็ถูก พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เซ็นคำสั่งย้ายเข้ากรุ โดยขาดจากตำแหน่งเดิม หลังมีข่าวพัวพันการเปลี่ยนตัวผู้ต้องหาคดีดังที่เมืองพัทยา
กระทั่งวันที่ 27 มกราคมที่ผ่านมา ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ส่ง พล.ต.ต.กัมพล ลีลาประภาภรณ์ เดินทางมารับตำแหน่งผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี คนใหม่ และพบว่าตลอดการทำงาน 4 เดือนเศษ จากภาพข่าวของสื่อมวลชนในพื้นที่ พบว่าผู้การชลบุรีคนนี้มีผลงานที่ดีให้เห็นมาอย่างตลอด กระทั่งเกิดเรื่องฉาวเกิดขึ้น โดย ผบ.ตร. จะมีคำสั่งเซ็นย้ายเข้ากรุภายในเย็นวันนี้
บิ๊กโจ๊ก คุมคดีเอง ตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง
จากเหตุการณ์ฉาววงการสีกากี 6 ผู้เสียหายแจ้งจับตำรวจระดับผู้บังคับการจังหวัดชลบุรี พร้อมชุดปราบเว็บพนัน 7 รายและพลเรือนอีก 2 ราย รีดเงินนายทุน 140 ล้านบาท ล่าสุดทางด้าน พล.ต.ต.ชัยต์พจน สูวรรณรักษ์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 (รอง ผบช.ภ.2)เปิดเผยว่า กรณีนี้ต้องแบ่งเป็น 2 ขั้นตอนในคดีอาญา ทางกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค1 จะต้องเป็นผู้ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายที่มีการแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษกับนายตำรวจดังกล่าว
ส่วนการดำเนินการทางวินัยกับพลตำรวจตรีและพวกรวม 8 นาย ทางต้นสังกัดกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 (บช.ภ.2) และกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี(บช.สอท.) จะมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาโดยของบช.ภ.2 ได้มอบหมายให้ตนในฐานะกำกับดูแลเรื่องราวร้องทุกข์เป็นประธานในการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยจะต้องทราบผลภายใน 15 วัน
“ส่วนคำสั่งให้ช่วยราชการโดยขาดจากตำแหน่งเดิมอยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะออกจากต้นสังกัดหรือทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะเป็นผู้สั่งการ”
มีรายงานว่าสำหรับข้อมูลรายละเอียดรายงานเหตุคดีที่น่าสนใจจากการตรวจสอบพบว่ามีการแจ้งความไว้จริงที่สภ.คูคต เมื่อวันที่ 15 มิถุนายนที่ผ่านมา อยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูลและสืบสวนของพนักงานสอบสวน ตามขั้นตอนหลังจากนี้จะมีการเชิญผู้ถูกกล่าวหาทั้งหมดมารับทราบข้อกล่าวหา
“ทั้งนี้คดีนี้ทางพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติจะลงไปกำกับดูแลด้วยตนเอง เพราะที่ผ่านมาคดีดังกล่าวทาง คณะทำงานของรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้รับมอบหมายให้ตรวจสอบประเด็นดังกล่าวมาก่อนหน้านี้แล้ว”
ทั้งนี้สำหรับประวัติผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี เป็นนรต.รุ่น 45 ก่อนหน้านี้ดำรงตำแหน่งรอง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดจันทบุรี ก่อนจะขึ้นเป็นผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรีเมื่อวาระการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ
ก่อนหน้านี้พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เซ็นคำสั่ง เด้ง “ผู้การชลบุรี” คนเก่าเข้ากรุ ศปก.ตร. โดยขาดจากตำแหน่งเดิม เซ่นเอี่ยวคดีเปลี่ยนตัวผู้ต้องหาแก๊งทวงหนี้ บุกใช้ปืนตบคู่กรณีในพูลวิลล่า ริมหาดจอมเทียน พัทยา
ส่วนรองผู้บังคับการตำรวจไซเบอร์ที่มีรายชื่อถูกแจ้งจับ ในปัจจุบันเป็นนรต.รุ่น 51 และทำงานอยู่หน้าห้องรองผู้บัญชาการตำรวจไซเบอร์นรต.รุ่น 45
ผบ.ตร.สั่งเด้ง ผบก.ภ.จว.ชลบุรีพร้อมพวก-ยังไม่ออกหมายจับ
คืบหน้ากรณี พล.ต.ต.กัมพล ลีลาประภาภรณ์ ผบก.ภ.จว.ชลบุรี พร้อมตำรวจรวม 8 นายถูกแจ้งความดำเนินคดี พัวพัวคดีรีดเงิน 140 ล้าน ล่าสุดทางด้าน พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (โฆษกตร.) เปิดเผยึงกรณี ผู้เสียหายแจ้งความดำเนินคดี พล.ต.ต.กัมพล ลีลาประภาภรณ์ ผบก.ภ.จว.ชลบุรี พร้อมตำรวจรวม 8 นาย สังกัด ภ.2 และ กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ( บช.สอท. ) ร่วมกับพลเรือน 2 คน ว่า
คดีนี้เกิดจากมีผู้เสียหายร้องทุกข์กล่าวโทษ ที่ สภ.คูคต จว.ปทุมธานี เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2566 ให้ดำเนินคดีกับ กลุ่มบุคคลดังกล่าวโดยอ้างว่าได้มีการตรวจค้นจับกุม หน่วงเหนี่ยวกักขัง เรียกเงินเป็นจำนวนหลักร้อยล้านบาท ซึ่งพนักงานสอบสวน สภ.คูคต รับคำร้องทุกข์ไว้แล้ว
พล.ต.ท.อาชยน กล่าวว่า กรณีนี้ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร.ได้สั่งให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผบช.ภ.1 และ พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผบช.ภ.2 ให้ควบคุมกำกับดูแลการสืบสวนสอบสวนคดีนี้อย่างใกล้ชิด ตรงไปตรงมา และให้รวบรวมเอกสารหลักฐาน ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับกรณีนี้ และผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดแล้วรายงานตรงมายังสำนักงานตำรวจแห่งชาติโดยด่วน เพื่อดำเนินการทางวินัย หากข้อเท็จจริงมีมูลก็จะต้องดำเนินการตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยรายแรงต่อไป
“วันนี้ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ มีคำสั่งให้ข้าราชการตำรวจทั้ง 8 นาย มาปฏิบัติราชการที่ ศปก.ตร. โดยขาดจากตำแหน่งเดิม เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายกระทบการทำคดี และความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ” โฆษก ตร.กล่าว
พล.ต.ท.อาชยน กล่าวว่า นอกจากนี้ผบ.ตร.ได้มีคำสั่งตั้งคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนคดีนี้ ให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ฯ เป็นหัวหน้าคณะฯ และให้ตำรวจ ภ.1 และ 2 รวบรวมข้อมูล เนื่องจากผู้ถูกกล่าวหาหลายราย เหตุเกิดหลายพื้นที่
" ยืนยันว่าขณะนี้คดีนี้อยู่ในขั้นตอนการสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน มีความคืบหน้าไปพอสมควร ยังไม่ออกหมายจับ หรือจับกุมผู้ใดตามที่มีกระแสข่าว ซึ่งคดีมีจุดเริ่มต้นมาจาก ภ.จว.ชลบุรี ได้สืบสวนสอบสวนเกี่ยวกับการกระทำผิดพนันออนไลน์ นำมาสู่การตรวจค้น 3 จุดตามที่มีการกล่าวหา มีการจับกุมจริง โดยรายละเอียดของคดีพนันออนไลน์ ทางชุดสืบสวนสอบสวนที่ ผบ.ตร.ตั้งขึ้นจะต้องไปตรวจสอบลงรายละเอียด ส่วนเรื่องเรียกรับเงินจะจริงหรือไม่ต้องตรวจสอบทุกประเด็น"
พล.ต.ท.อาชยน กล่าวว่า คดีที่กล่าวหาตำรวจทั้ง 8 นายและพวก อยู่ในขั้นตอนการรวบรวมพยานหลักฐาน เอกสาร รวมทั้งพยานบุคคล เส้นทางการเงินให้ครบถ้วน โดยผู้เสียหายได้มาให้ข้อมูลเบื้องต้นในขั้นตอนร้องทุกข์กล่าวโทษแล้ว ส่วนผู้ถูกกล่าวหานั้นหลังรวบรวมข้อมูลแล้ว หากชัดเจนครบถ้วนว่ามีความผิดก็สามารถเรียกมาแจ้งข้อกล่าวหาได้เลย ส่วนจะมีการเรียกรับเงินจำนวนมากตามที่กล่าวหารือไม่ ต้องรอให้ชุดสืบสวนสอบสวนฯ เข้าไปตรวจสอบก่อน สำหรับพลเรือน 2 คนที่ถูกกล่าวหานั้นก็ต้องสืบสวนสอบสวนว่ามีความเกี่ยวข้องกับตำรวจทั้ง 8 นายอย่างไร รวมทั้งตรวจสอบประวัติ ตามที่มีการกล่าวอ้างว่าทั้ง 2 คนเคบถูกจับกุมในคดีอื่น ๆ ว่าจริงหรือไม่
“ผบ.ตร.มีนโยบายชัดเจนตั้งแต่รับตำแหน่ง ต้องกวาดบ้านตัวเอง หากตำรวจคนไหนทำผิด จะต้องดำเนินคดีทุกราย ไม่ว่าจะเป็นตำรวจชั้นผู้ใหญ่หรือก็ไม่มีการปล่อยปละละเลย แม้จะเป็นตำรวจชั้นผู้ใหญ่ก็ต้องดำเนินการ อย่างตรงไปตรงมา โปร่งใส เป็นธรรม และต้องตรวจสอบได้ คดีนี้ ผบ.ตร.ย้ำว่าคดีนี้ต้องทำความจริงให้เป็นที่ประจักษ์” โฆษก ตร.กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีมีการระบุคำพูด “เป้รักผู้การเท่าไหร่ เป้เขียนมา” หมายถึงการเรียกรับเงินหรือไม่ และ ผบ.ตร.ได้สอบถาม ผบก.ภ.จว.ชลบุรี ประเด็นนี้ หรือไม่อย่างไร พล.ต.ท.อาชยน กล่าวว่า ผบ.ตร.สั่งการให้ พล.ต.ต.กัมพล ฯ มาช่วยราชการ ตร. ส่วนการสอบถามถึงประโยคนี้ เป็นเรื่องของพนักงานสอบสวนที่ต้องสืบสวนสอบสวนให้กระจ่างทุกประเด็นที่ร้องทุกข์กล่าวโทษ ทั้งนี้ยอมรับว่าเรื่องนี้สร้างความเสียหายต่อองค์กรตำรวจ แต่ยืนยันว่า ตร.จะดำเนินการอย่างโปร่งใส ตรงไปตรงมา ทุกคนต้องทำความจริงให้ปรากฏ และย้ำว่าไม่มีการช่วยเหลือกัน
“ ผบ.ตร.สั่งการให้ตรวจสอบเรื่องนี้ทุกมิติ หากขยายผลแล้วพบผู้เกี่ยวข้องเพิ่มเติมก็ให้รวบรวมพยานหลักฐานดำเนินคดีตามกฎหมายทุกราย ส่วนกรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าเหตุใดตำรวจ ภ.จว.ชลบุรี มาจับกุม ตรวจค้นคดีพนันออนไลน์ที่ จว.ชลบุรีนั้น เบื้องต้นทราบว่าเป็นคดีพนันออนไลน์ ที่สืบทราบและผู้เกี่ยวข้องโยงใยหลายพื้นที่ จึงสามารถสืบสวนจับกุมได้ แต่อย่างไรก็ตามชุดสืบสวนสอบสวนฯที่ ผบ.ตร.ตั้งขึ้นต้องตรวจสอบเรื่องนี้ให้กระจ่าง”
นอกจากนี้กรณีที่โซเชียลมีเดียแชร์ภาพ ผบ.ตร.มอบรางวัลให้กับ พล.ต.ต.กัมพล นั้น โฆษก ตร.ชี้แจงว่า การมอบรางวัลดังกล่าวไม่ได้มอบให้บุคคล แต่เป็นการมอบให้กับหน่วยงานทั่วประเทศ ในส่วน ภ.จว.ชลบุรี ก็เป็นการมอบให้กับตำรวจทุกนายที่ปฏิบัติหน้าที่ด้านการจราจร โดยจัดงานมอบรางวัลเมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2566 เป็นรางวัลผลการปฏิบัติงานดีเด่นตามมาตรการป้องกัน และลดอุบัติเหตุทางถนน การบังคับใช้กฎหมาย และการอำนวยการจราจร ช่วงเทศกาลปีใหม่ 2566 ซึ่งในครั้งนั้นมีหน่วยงานในสังกัด ตร. ได้รับรางวัลกว่า 30 หน่วยงาน
อย่างไรก็ตามมีรายงานว่า พล.ต.ต.กัมพล ลีลาประภาภรณ์ ปัจจุบัน อายุ 54 ปี เป็นนักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่นที่ 45 ได้รับการเสนอชื่อแต่งตั้งขึ้นเป็น ผบก.ภ.จว.ชลบุรี ในการแต่งตั้ง ผบก.- ผบช. นอกวาระประจำปี ทดแทนตำแหน่งว่างจากการเข้าโครงการสับเปลี่ยนกำลังพล และตำแหน่งที่ถูกกำหนดขึ้นมาใหม่ เมื่อเดือนธันวาคม 2565
โดยกรณี พล.ต.ต.กัมพล นั้นได้รับแต่งตั้งเลื่อนขึ้นจาก รอง ผบก.ภ.จว.จันทบุรี ขึ้นเป็น ผบก.ภ.จว.ชลบุรี แทนอดีต ผบก.ภ.จว.ชลบุรี ที่ถูกย้ายเข้ากรุ ศปก.ตร.จากกรณีคดีเปลี่ยนตัวผู้ต้องหาแก๊งทวงหนี้ในพูลวิลล่า นอกจากนี้หลังได้รับการแต่งตั้ง ยังตกเป็นข่าวร่วมคณะเพื่อนตำรวจร่วมเฟรมกับนายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ผู้กว้างขวางในชลบุรี โดยในภาพมีการถือพานพวงมาลัยคล้ายการเข้ากราบขอบคุณ แต่ต่อมานายสุชาติชี้แจงว่าเป็นการเข้าสวัสดีปีใหม่ ตามประเพณีเท่านั้น
อย่างไรก็ตามเส้นทางชีวิตราชการ ของพล.ต.ต.กัมพล นั้นเติบโตในพื้นที่ ภ.2 มาโดยตลอด บรรจุเป็นรองสารวัตร สืบสวน สภ.ศรีราชา จว.ชลบุรี ดำรงตำแหน่งสำคัญในพื้นที่ ภ.2 อาทิ รองผบก.ภ.จว.ตราด, ผกก.สภ.วังจันทร์ จว.ระยอง, ผกก.สภ.ห้วยใหญ่ จว.ชลบุรี ก่อนได้ขึ้นเป็น ผบก.ภ.จว.ชลบุรี กระทั่งล่าสุดถูกกล่าวหาเรียกรับผลประโยชน์ 140 ล้านบาท
โฆษกตร. แจงภาพผู้การฯชลบุรีรับรางวัล ไม่ใช่ผลงานส่วนตัว
กลายเป็นกระแสวิพากย์วิจารณ์ เมื่อโลกออนไลน์ ได้มีการแชร์ภาพข่าว พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. มอบโล่ประกาศเกียรติคุณแก่ พล.ต.ต.กัมพล ลีลาประภาภรณ์ ผบก.ภ.จว.ชลบุรี โดยระบุรางวัลดีเด่น ล่าสุดทางด้าน พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติขอชี้แจงว่า
ภาพดังกล่าวเป็นการมอบโล่ประกาศเกียรติคุณเเก่หน่วยงานที่มีผลการปฏิบัติงานดีเด่น ด้านการป้องกันอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2566 จำนวน 31 รางวัล ให้แก่หน่วยที่มีผลงานดีเด่น ทั้งระดับภาค และตำรวจภูธรจังหวัด เช่น ภ.3 รับรางวัลหน่วยงานที่สามารถลดจำนวนอุบัติเหตุ ผู้เสียชีวิต และผู้บาดเจ็บ จากค่าเฉลี่ย 3 ปี ย้อนหลังได้ดีที่สุด , กองบังคับการตำรวจทางหลวง ด้านการอำนวยความสะดวกและจัดการจราจร
ส่วนหน่วยงานที่สามารถบังคับใช้กฎหมาย ข้อหาขับรถในขณะเมาสุราได้มากที่สุด 3 ลำดับแรก ได้แก่ ตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา นครปฐม เชียงใหม่ , หน่วยงานที่บังคับใช้กฎหมายจราจร 9 ข้อหาหลักด้านความปลอดภัยทางถนนมากที่สุด 3 ลำดับแรก คือ ตำรวจภูธรจังหวัดอุบลราชธานี ชลบุรี สุรินทร์ ซึ่งตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรีได้รับรางวัลในด้านการบังคับใช้กฎหมาย
" รางวัลดังกล่าวทั้ง 31 หน่วยงานที่ได้รับรางวัล เป็นการรับรางวัลของหน่วยงานที่มีผลปฏิบัติดีเด่นด้านต่างๆ ไม่ใช่รางวัลส่วนตัวของตำรวจนายหนึ่งนายใด เป็นรางวัลของตำรวจผู้ปฏิบัติทุกนาย โดยภาพที่ ผบก.ภ.จว.ชลบุรี รับรางวัล เป็นเพียงการรับรางวัลแทนหน่วยงาน ในฐานะตัวแทนของตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี"