ครอบครัว 'สารวัตรอยุธยา' ใช้หนี้ค้ำประกัน ปิดรับบริจาคหลังคนแห่ช่วย | คมชัดลึก

จากกรณี พ.ต.ท.วิริยะ เจิมจำนงค์  สารวัตรกองอำนวยการ  กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่มีภาระใช้หนี้ค้ำประกันแทนเพื่อนตำรวจ ถูกหักเงินเดือนจนเหลือติดบัญชีเพียงแค่ 70 บาท ลูกสาววัย 19 ปี สอบติดมหาวิทยาลัยดัง กลับไม่มีเงินส่งให้ลูกเรียน ส่วนภรรยาและครอบครัวช่วยกันรับทำข้าวกล่อง ขนมหวาน และอาหารตามสั่ง เพื่อหารายได้ช่วยเหลือครอบครัว

 

ล่าสุดที่บ้านพักของ พ.ต.ท.วิริยะ  ช่างต๋อย หัวแหลม ช่างรับเหมาเดินไฟฟ้า ซึ่งได้เห็นข่าว เดินทางเข้ามาดูบ้าน พ.ต.ท.วิริยะ ตั้งแต่เช้าพร้อมนำอุปกรณ์การไฟฟ้า มาช่วยเดินไฟฟ้าใหม่ให้ทั้งหลังโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย

 

 

 

 

 

ช่างต๋อย เปิดเผยยว่าหลังจากดูข่าวแล้วรู้สึกสงสารเห็นสภาพบ้านจากในทีวีแล้วเกิดความสงสาร จึงเดินทางมาดูและตรวจสอบพบว่าสภาพบ้านเก่า ปลวกขึ้นสภาพอุปกรณ์ไฟฟ้าชำรุดเก่าทรุดโทรมทั้งหมดหากปล่อยไว้อาจเกิดอันตรายไฟฟ้าลัดวงจรได้ จึงนำอุปกรณ์เครื่องมือทั้งหมดมาเดินให้ใหม่ทั้งหลัง เพื่อความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น บนบ้านก็สามารถใช้อยู่อาศัยได้ไม่ต้องมาอยู่แออัดรวมกันด้านล่าง
    

 

 

 

ทางด้าน น้องช่อฟ้า ลูกสาววัย 19 ปี ของ พ.ต.ท.วิริยะ ได้กล่าวขอบคุณทุกคนที่ช่วยเหลือทั้งทุนการศึกษา ซึ่งขณะนี้การช่วยเหลือเพียงพอแล้ว และขอขอบคุณทุกๆคนพร้อมให้คำมั่นสัญญาตั้งใจเรียนให้ดีที่สุด จบมามีงานทำทีดี และจะมีน้ำใจเหมือนที่ทุกคนช่วยเหลือครอบครัว จะส่งต่อน้ำใจแบบนี้ต่อไป ขณะนี้ยอดบัญชีเพียงพอขอปิดรับบริจาค และขอขอบคุณทุกคน 

 

 

 

 

ขณะที่ นางพัชริยา ภรรยาของ พ.ต.ท.วิริยะ กล่าวว่า ขณะนี้เรื่องการศึกษาน้องช่อฟ้าได้ไปลงทะเบียนเรียนเรียบร้อยแล้ว ชำระค่าหอพักเรียบร้อยแล้ว และยังมีทางมหาวิทยาลัยติดต่อมาช่วยในเรื่องชุดนักศึกษา ขอขอบคุณทุกคนที่ให้ความช่วยเหลือ ขณะนี้เพียงพอแล้ว เจตนาตอนแรกอยากให้ทุกคนช่วยอุดหนุนหรือรู้ว่าเราขายอาหาร แต่สิ่งที่ได้รับกลับมาถือว่าเกินกว่าที่คาดคิด ต้องขอขอบคุณคนไทยทุกคนไม่ทิ้งกัน ตอนนี้ยอดบัญชีเข้ามาสูงถึง 1,700,000 บาท ซึ่งเพียงพอแล้วทางครอบครัวขอปิดรับบริจาค ขอขอบคุณทุกคนที่ช่วยเหลือ
 

 

 

 

 

 

พ.ต.ท.วิริยะ เจิมจำนงค์ ตำแห่ง สารวัตรกองอำนวยการ รับอัตราขั้นเงินเดือน ส.2 เงินเดือน 45,750 บาท จะต้องถูกหักสหกรณ์ตำรวจ 30,000 กว่า บาท รวมกับค่าใช้จ่ายอื่นๆ ในครอบครัว ทำให้รายได้ไม่เพียงพอ ซึ่งที่ผ่านมา ทางผู้บังคับบัญชาชั้นต้น และเพื่อนร่วมงาน ก็ได้ช่วยเหลือด้านการเงินมาโดยตลอด แต่ยังไม่เพียงพอ ประกอบกับบุตรสาวกำลังจะเข้าเรียนมหาวิทยาลัย ทำให้ต้องใช้เงินอีกพอสมควร เกิดความเครียด จึงมีการไปขอความเห็นใจจากที่ต่างๆ จนเป็นข่าว

 

 

 

 

ด้าน พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. หลังรับทราบเรื่องได้ประสาน นายกสมาคมแม่บ้านตำรวจเข้าช่วยเหลือด่วน ในส่วนของการให้ทุนการศึกษา ซึ่งในรายนี้ จะได้เข้าไปพูดคุยรายละเอียด เพื่อช่วยเหลือตามหลักเกณฑ์ดังกล่าวข้างต้น โดยผู้บังคับบัญชาระดับ ตร.จะเข้าไปช่วยเหลือเพิ่มเติมอีก หากไม่เพียงพอ

 

ส่วน พ.ต.ท.วิริยะ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะนำเข้าโครงการแก้ไขปัญหาหนี้สินของข้าราชการตำรวจ เพื่อช่วยเรื่องการปรับโครงสร้างหนี้ และทางสมาคมแม่บ้านตำรวจ จะลงไปช่วยให้ความรู้เกี่ยวกับการออม การบริหาร การใช้เงิน ตามโครงการ Money Management & Investment  พร้อมกับช่วยปรับเปลี่ยนพฤติกรรมส่วนตัว ที่ทำให้เกิดจากการใช้จ่ายฟุ่มเฟือย โดยจะมีการเชิญ พ.ต.ท.วิริยะ ครอบครัวและบุตรสาว มาพูดคุยช่วยเหลือเยียวยา

 

 

 

สัมฤทธิ์ เจียมเจริญพรกุล    จ.อยุธยา