ข่าว

รวบหนุ่มใหญ่ 'ตุ๋นลงทุนธุรกิจ' ลวงเหยื่อโอน เงินดิจิทัล 20 ล้านบาท

รวบหนุ่มใหญ่ 'ตุ๋นลงทุนธุรกิจ' ลวงเหยื่อโอน เงินดิจิทัล 20 ล้านบาท

06 ก.ค. 2566

ตร.ไซเบอร์ รวบหนุ่มใหญ่ "ตุ๋นลงทุนธุรกิจ"ลวงผู้เสียหาย โอนสินทรัพย์ดิจิทัล ผ่านแพลตฟอร์มบิทคับ ร่วม 20 ล้าน อ้างทำธุรกิจต่างประเทศ ติดต่ออดีตผู้นำฟิลิปปินส์ได้ เจ้าตัวยังปากแข็ง อ้างผู้เสียหายร่วมลงทุนธุรกิจสมัครใจเอง

พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผู้บัญชาการสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี(ผบช.สอท.) สั่งการให้ขยายผลการจับกุม ผู้ต้องหาหลอกลงทุนธุรกิจเสียหายร่วม 20 ล้านบาท จากการสืบสวนพบว่ามีผู้เสียหายถูกผู้ต้องหาหลอกจนเชื่อใจยอมย้ายไปอยู่ด้วยกันกับหนึ่งในกลุ่มของผู้ต้องหา ระหว่างที่อยู่ด้วยกัน ด้วยความเชื่อใจผู้เสียหายได้ให้ข้อมูลรหัสผ่านในกระเป๋าเงินดิจิทัลของตนเองให้ผู้ต้องหา จนกระทั่งทางครอบครัวของผู้เสียหายติดตามจนเจอตัว จึงได้นำตัวผู้เสียหายกลับไปอยู่บ้านและไม่ได้ติดต่อกับทางกลุ่มผู้ต้องหาอีก

 

 

ตร.ไซเบอร์ รวบหนุ่มใหญ่หลอกลงทุนสูญกว่า 20 ล้าน

 

 

ต่อมาผู้เสียหายพบว่าอีเมล์ส่วนตัวมีการแจ้งเตือนการโอนสินทรัพย์ดิจิทัลออกจากแพลตฟอร์มไบแนนซ์ของผู้เสียหาย โอนไปที่แพลตฟอร์มบิทคับ มูลค่าประมาณร่วม 20 ล้านบาท จึงได้เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน กก.2 บก.สอท.1

 

ตำรวจสืบสวนยังพบว่า มีการโอนสินทรัพย์ดิจิทัลของผู้เสียหายออกไปจำนวน 20 ครั้ง โดยเส้นทางการเงินทั้งหมดไปจบที่บัญชีของนายพลาวัฒน์  (สงวนนามสกุล)  ซึ่งเชื่อว่าเป็นหัวหน้าขบวนการในการหลอกลวงครั้งนี้ และยังพบอีกว่ามีพฤติการณ์หลอกผู้เสียหายว่า ทำธุรกิจกับต่างประเทศ โดยอ้างว่าสามารถติดต่ออดีตผู้นำฟิลิปปินส์ได้ และสร้างความเชื่อถือให้ผู้เสียหายหลงเชื่อและร่วมลงทุนในธุรกิจ

 

 

 

ตร.ไซเบอร์ รวบหนุ่มใหญ่หลอกลงทุนสูญกว่า 20 ล้าน

 

ตำรวจจึงได้นำกำลังเข้าจับกุม นายพลาวัฒน์ อายุ 64 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ในความผิดฐาน "ร่วมกันเข้าถึงโดยมิชอบซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่มีมาตรการป้องกันการเข้าถึงโดยเฉพาะและมาตรการนั้นมิได้มีไว้สำหรับตนและทำให้เสียหาย ทำลาย แก้ไข เปลี่ยนแปลง หรือเพิ่มเติมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นโดยมิชอบโดยเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่บุคคลอื่นหรือทรัพย์สินของผู้อื่น และร่วมกันลักทรัพย์ และฟอกเงิน" อันเป็นความผิดพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2560 มาตรา 7 , 9 ,12/1และประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 334 และพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 มาตรา 3 , 5"

 

โดยจับกุมได้ที่ภายใน ซอยพหลโยธิน แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร กรุงเทพฯ​

 

จากการสอบสวน​เบื้องต้นนายพลาวัฒน์ ผู้ต้องหา ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา พร้อมระบุว่า เงินที่เข้าบัญชีส่วนตัวมานั้น เป็นเงินที่ผู้เสียหายร่วมลงทุนธุรกิจต่างประเทศด้วยความสมัครใจ  ไม่ได้มีการแฮกข้อมูลหรือมีเจตนาหลอกลวงแต่อย่างใด