เปิดปม 'นักธุรกิจชาวเยอรมัน' หายตัวปริศนา พบ เส้นทางการเงิน ถูกโอนหลายครั้ง
เปิดปม 'นักธุรกิจชาวเยอรมัน' หายตัวปริศนา พบ เส้นทางการเงิน กลุ่มต้องสงสัย ถูกโอนหลายครั้ง ครอบครัว วอนปล่อยตัว เชื่อ ยังมีชีวิตอยู่
ประเด็นการหายตัวปริศนาของ “นักธุรกิจชาวเยอรมัน” นายฮันส์ ปีเตอร์ แรลเตอร์ มัค อายุ 62 ปี ยังเป็นเรื่องที่ต้องติดตาม หลังตำรวจพบรถเบนซ์ คูเป้ E 350 สีบรอนซ์เทา ของนายฮันส์ ที่ขับออกมาหลังจากเจรจากับนายหน้าขายที่ดิน เมื่อวันที่ 4 ก.ค. 2566 จอดทิ้งไว้ลานจอดรถชั่วคราว ที่คอนโดมิเนียม ในพื้นที่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี และภายในรถพบพิรุธจากการทำลายหลักฐาน ส่วนตัวของนักธุรกิจชาวเยอรมัน ยังไร้วี่แวว
โดยล่าสุด มูลนิธิวินวิน ได้พา น.ส.แพท ภรรยาปัจจุบันของนักธุรกิจชาวเยอรมัน, อดีตภรรยา, ลูกชายกับอดีตภรรยา 2 คน และเจ้าหน้าที่ของสถานทูตเยอรมัน เข้ามารอพบกับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
น.ส.แพท เปิดเผยว่า ในวันเกิดเหตุได้นัดกับนายฮันส์ สามี เนื่องจากจะมีลูกค้าไปดูที่แห่งหนึ่งในพัทยา ตอนเวลาประมาณ 13.00 น. แต่สามีได้ขอไปเจอกับลููกค้าคนสำคัญก่อน จนกระทั่งเวลาผ่านไปจนถึง 14.00 น.ได้พยายามโทรศัพท์ติดต่อไปหาสามีอีกครั้ง แต่ปรากฎว่าติดต่อไม่ได้ และเปิดปิดเครื่องสลับอยู่ตลอด ก่อนจะมีข้อความส่งกลับมาหาเธอว่า “อยู่กับลูกค้านะ เดี๋ยวโทรกลับ” ซึ่งที่ผ่านมา สามีไม่เคยส่งข้อความมาหาในลักษณะแบบนี้
“รอไปสักพัก จนกระทั่งติดต่อไม่ได้ และทุกๆคนก็พยายามโทรหาอยู่เรื่อยๆ โทรติดบ้าง ไม่ติดบ้าง จนกระทั่งเวลาประมาณ 4 ทุ่ม ได้มีข้อความส่งมาอีกว่า “วันนี้ฉันจะอยู่กับลูกค้านะ คนนี้สำคัญมาก ฉันต้องดีลกับเขา เซ็นสัญญาให้เสร็จ” น.ส.แพท เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟัง
จากนั้น ได้พยายามโทรศัพท์ติดต่ออีกเรื่อยๆ จนวันที่ 5 ก.ค.ที่ผ่านมา ก็ยังติดต่อไม่ได้ จนมีข้อความสุดท้ายส่งมาอีกว่า “ฉันต้องอยู่กับลูกค้า และจะต้องไปกินข้าวกับลูกค้า” และสามีก็ไม่ได้ส่งข้อความอะไรมาอีกเลย
น.ส.แพท เล่าต่อว่า สำหรับเรื่องที่ดินในพัทยา ที่มีการซื้อ-ขายของสามีนั้น มีการพูดคุยกันจริง แต่ในเรื่องที่ดินในพื้นที่เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ยังไม่ได้มีการพูดคุยกัน เพราะไม่ได้มีแผนจะขาย ส่วนตอนนี้ ยอมรับว่า กลุ่มคนที่อุ้มสามีไป น่าจะรู้จักสามี แต่ในเรื่องธุรกิจคาดว่ารู้แค่บางส่วนเท่านั้น และเชื่อว่าสามีโดนจับตัวไปแน่ๆ เพราะไม่เคยผิดนัด และเป็นคนตรงเวลาตลอด ทุกครั้งจะเป็นคนมาก่อนเวลา หรือถ้าหากมีปัญหาจริงๆ จะโทรมาบอกก่อน จะไม่ชอบให้ครอบครัวเป็นห่วง
“ทางครอบครัว ไม่ทราบเลยว่า เกิดอะไรขึ้นกับสามี หรือว่าใครทำอะไรเขา เพราะเขาไม่เคยมีปัญหากับใคร และส่วนตัวก็ไม่เคยเห็นคนที่ชื่อโอราฟ ส่วนเรื่องเส้นทางการเงินที่พบว่าผิดปกตินั้น ยังไม่ทราบ และยังขอไม่ลงรายละเอียด ตอนนี้สงสัยคนในวิดิโอกล้องวงจรปิด คนที่อยู่กับสามีเป็นคนสุดท้าย แต่ก็ไม่ได้ไปกล่าวหาเขา”
นอกจากนี้ น.ส.แพท ยืนยันว่า ไม่ทราบความสัมพันธ์ระหว่างสามีกับนายหน้าขายที่ดินเลย รวมถึงเรื่องคดีค้ามนุษย์เมื่อปี 2561 อยากให้ทุกคนให้ความสนใจในเรื่องการหาสามีก่อน พร้อมอยากบอกไปถึงคนที่อุ้มสามีไปว่า “ต้องการอะไรให้มาบอก ช่วยเอาสามีกลับมาเถอะ ทุกคนเป็นห่วงมาก เรารอกันอยู่ และจะหาเขาให้เจอ” โดยตอนนี้ทางครอบครัวยังหวังว่า สามียังมีชีวิตอยู่ และน่าจะอยู่ในประเทศไทย ทุกคนจะช่วยเขากลับบ้าน
"สำหรับเบาะแสล่าสุดก็คือเรื่องการพบรถ แต่ในส่วนข้อมูลที่มีกระแสมาว่า พบสามีในพื้นที่สระแก้ว ยืนยันว่า ไม่ใช่สามีตัวเอง เป็นแค่คนหน้าคล้ายเท่านั้น"
ด้านลูกชาย ของนายฮันส์ ปีเตอร์ บอกว่า ตอนนี้อยากเจอพ่อเร็วๆ เพราะผ่านมา 6 วันแล้ว ทุกคนเป็นห่วง ส่วนเมื่อวานนี้ได้เจอกลุ่มของโอราฟ และได้ฟังการสอบปากคำบางส่วน แต่ขอไม่ลงรายละเอียด
ขณะเดียวกัน ทีมข่าวได้พยายามติดต่อไปยังนายหน้าขายที่ดิน ที่ได้เจอนักธุรกิจชาวเยอรมัน เป็นคนสุดท้าย บอกว่า ไม่ขอให้สัมภาษณ์ และให้เพียงข้อมูลว่า วันที่นัดไปนั่งดื่มกาแฟกับนายฮันส์ ปีเตอร์ ที่คาเฟ่แห่งหนึ่งนั้น เป็นการนัดกัน เพื่อพูดคุยกันเรื่องการซื้อ-ขายค่ายมวยเท่านั้น แต่หลังจากนั้น ก็ไม่ทราบจริงๆ ว่า ตัวของนายฮันส์ ปีเตอร์ ขับรถตามมา เพราะไม่ได้มองกระจกหลังเลย
ทั้งนี้ มีรายงานว่า ข้อมูลจากชุดสืบสวนว่า หลังจากนำตัวชาวเยอรมัน 3 คน ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ต้องสงสัยมาสอบปากคำแล้ว ที่ สภ.หนองปรือเมื่อคืนนี้ เบื้องต้นทั้ง 3 คน ไม่ให้การอะไรที่เป็นประโยชน์เลย แต่จากการตรวจสอบเส้นทางการเงินในบัญชีของผู้สูญหายนั้น ปรากฎว่า เงินถูกโอนออกจากบัญชีตัวเองหลายครั้ง ยอดมากกว่า 2 ล้านบาท ส่วนคนที่เป็นคนโอน พบไม่ได้อยู่ในประเทศไทย เนื่องจากการตรวจสอบพิกัดข้อมูล พบอยู่ที่พนมเปญ ประเทศกัมพูชา
อย่างไรก็ตาม เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา พล.ต.ต.ธีระชัย ชำนาญหมอ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 2 และชุดสืบสวนคลี่คลายคดี ได้เข้ามาประชุมเพื่อติดตามความคืบหน้า ก่อนที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จะเดินทางเข้ามาติดตามความคืบหน้าคดี