'ผบก.ปปป.' เตือนข้าราชการทุจริต หยุดเรียกรับ 'ใต้โต๊ะ' อย่าให้ใช้ยาแรง
'เสือตัวจริง' บก.ปปป. เดินหน้าเชิงรุกปราบข้าราชการ 'ทุจริต' กล้าชนทุกหน่วย เปิดตัวสู้องกรณ์ทุจริต ย้ำเตือนหยุดเรียกรับ 'ใต้โต๊ะ' อาจโดนยาแรง ขอประชาชนลุกขึ้นสู้ชะล้างขบวนการทุจริต
ย้อนไปเมื่อวันที่ 27 ธ.ค.65 เป็นคดีครึกโครมเมื่อ กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) บุกจับ นายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช คาห้องทำงานภายในกรมอุทยานฯ เจอเงินสดประมาณ 5 ล้านบาท
การเข้าจับกุมครั้งนั้นเนื่องจากได้รับการร้องเรียนว่าอธิบดีกรมอุทยานฯ ใช้อำนาจหน้าที่มิชอบเรียกรับเงินจากผู้ใต้บังคับบัญชาเพื่อแลกกับการโยกย้ายตำแหน่ง หากใครไม่จ่ายก็จะถูกกลั่นแกล้งโยกย้ายอย่างไม่เป็นธรรม
วันที่ 3 พ.ค.66 บก.ปปป. นำกำลังเข้าจับกุม นายสถิต ฉ่ำแฉล้ม อายุ 50 ปี ผอ.กองช่าง เทศบาลเมืองคลองหลวง รวมทั้ง นายเอกพจน์ ปานแย้ม นายกเทศบาลคลองหลวง ครั้งนั้นสามารถยึดเงินสด 5 แสนบาท ซึ่งเป็นเงินจากการเรียกรับสินบนค่าถมดิน โดยตามระเบียบผู้ขออนุญาตจะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมทั่วไปเพียง 500 บาท แต่กลับถูกเรียกรับเงิน 3 ล้านบาท แต่ผู้เสียหายมอบเงินให้ไปก่อน 5 แสนบาท
ขณะนี้เชื่อว่าการทุจริตของเจ้าหน้าที่รัฐ ยังเกิดขึ้นอยู่ในหลายหน่วยงาน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผู้บังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ผบก.ปปป.) เปิดเผย "คมชัดลึก" ว่า การปราบปรามข้าราชการทุจริต บก.ปปป. ทำงานหน่วยเดียวไม่ได้แน่นอน ต้องบูรณาการร่วมกับ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (สำนักงาน ป.ป.ท.) และ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.)
บก.ปปป. ถือว่ามีอำนาจการสืบสวนสอบสวนจับกุมทั่วราชอณาจักร เพื่อปราบปรามข้าราชการทุจริต เรียกรับสินบน สร้างความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชน ซึ่งแตกต่างกับในอดีต บก.ปปป. แม้จะมีอำนาจ แต่นำมาใช้ปฎิบัติน้อย
"ตอนนี้ บก.ปปป.เป็น เสือตัวจริง ไม่ใช่เสือกระดาษ ทำจริง จับจริง ข้าราชการทุจริต"
ขณะที่การเข้าจับกุมข้าราชการทุจริตแต่ละครั้ง มักจะมีการปฎิเสธของผู้ถูกจับกุม ประเด็นนี้ "พล.ต.ต.จรูญเกียรติ" ย้ำว่า ถ้าตัวเราไม่ดี ไม่เป็นธรรม ไม่ทุจริต ไม่ออกนอกกรอบ เรากล้าชนกับทุกหน่วยงาน ตอนนี้ บก.ปปป. ถือว่าเป็นตำรวจสีขาว ไม่ยุ่งกับผลประโยชน์ มุ่งทำงานเพื่อประชาชน กล้าเปิดตัวสู้กับองกรณ์ทุจริต
"เราไม่บริสุทธ์ ไม่กล้าทำ เราไม่มีแผล ที่ปราบปรามก็เพื่อส่วนรวม ไม่ใช่รังแกใคร เมื่อมีกฎหมายเอาผิดเจ้าหน้าที่รัฐ แต่เจ้าหน้าที่รัฐยังฝ่าฝืน บก.ปปป. ต้องไปปราบเพื่อให้วงจรอุบาทว์ลดน้อยลง"
ส่วนการที่จะปราบปรามข้าราชการฉ้อโกง ตำรวจทำงานหน่วยเดียวไม่ได้ ต้องอาศัยความร่วมมือกับ ป.ป.ช , ปปง. และ ป.ป.ท แต่ที่สำคัญคือ พี่น้องประชาชน ที่จะเป็นกลไก สำคัญในการแจ้งเบาะแส ไม่ต้องจ่ายให้กับข้าราชการเหล่านี้
"เชื่อว่าทุกหน่วยทุจริตจะมากจะน้อยแล้วแต่รูปแบบวัฒนธรรม ประเพณี และอำนาจหน้าที่"
บก.ปปป.เดินหน้ารุกปราบข้าราชการทุจริต ไม่หยุดเพียงเท่านี้ "พล.ต.ต.จรูญเกียรติ" บอกว่า ทาง บก.ปปป.ได้มีการตั้ง "ศูนย์ปราบโกง" ขึ้นมาเพื่อเป็นช่องทางให้ประชาชน แจ้งเบาะแสเข้ามา โดยศูนย์ปราบโกง ได้รับความอนุเคราะห์งบประมาณ 2 ล้านบาท จาก พระราชมงคลวัชราจารย์ หรือ หลวงปู่พัฒน์ ปุญฺญกาโม ในการสร้างห้อง ศูนย์ปราบโกง เพื่อเป็นห้องสืบสวนสอบสวน วางแผนการปราบปราม รับแจ้งเรื่องจากประชาชน จะเป็นศูนย์กลางรับข้อมูลจากทั่วประเทศ
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ฝากถึงข้าราชการทุจริต หากไม่หยุด ยังเดินหน้าทุจริต บก.ปปป. ก็พร้อมที่จะใช้ยาแรง หากไม่อยากให้ใช้ยาแรงก็ขอให้หยุดพฤติกรรมทุจริต ไม่อย่างนั้นเมื่อถูกจับแล้วไม่คุ้มกับชีวิตรับราชการ เมื่อถูกจับรับรองมีหลักฐานแน่นรอดยาก ถูกดำเนินคดีติดคุกแน่นอน
ส่วนพี่น้องประชาชน ต้องลุกขึ้นสู้กับข้าราชการทุจริต อย่านิ่งเฉย ไม่ใช่มาจ่ายเงินในสิ่งที่ไม่ควรจ่าย ถ้าลุกขึ้นสู้ คนหนึ่งคนเม็ดฝน 1 เม็ด คนล้านคนเม็ดฝนเป็นล้านเม็ด เป็นคลื่นยักษ์ที่ล้างชะล้างสิ่งเลวร้ายของขบวนการทุจริตให้หมดไป
นี่คือ "เสือตัวจริง" ทำงานเชิงรุกเร่งปราบปรามข้าราชการทุจริต