‘บิ๊กโจ๊ก’ จ่อเอาผิด จนท.รัฐ หลัง ‘สองผัวเมีย’ โกดังพลุมูโนะ มอบตัว
‘บิ๊กโจ๊ก’ เผย ‘สองผัวเมีย’ เจ้าของโกดังพลุมูโนะระเบิด ดอดเข้ามอบตัว สารภาพสิ้น นำเข้าจากจีน เร่งขยายหาที่มาที่ไป เตรียมเอาผิด 5 หน่วยงานรัฐ ชี้ปัดความรับผิดชอบไม่ได้ หลังพบพลุจำนวนมากเกือบครึ่งตัน
ความคืบหน้าเหตุโกดังพลุระเบิด ในพื้นที่ชุมชนตลาดมูโนะ จ.นราธิวาส จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตหลายรายและบาดเจ็บอีกจำนวนมาก ล่าสุดที่สโมสรตำรวจ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา ตำรวจมาเลเซียได้ควบคุมตัว ‘สองผัวเมีย’ นายสมปอง(สงวนนามสกุล) เสี่ยไหว พร้อมด้วย น.ส.ปิยะนุช(สงวนนามสกุล) หรือ เจ๊หลิน สองสามีภรรยาเจ้าของโกดังเก็บพลุที่ระเบิดมาส่งให้ทางการไทยบริเวณด่านพรมแดนไทยสะเดา จ.สงขลา
โดยมีเจ้าหน้าที่หน่วยงานฝ่ายความมั่นคงที่เกี่ยวข้องทั้งตำรวจ, ทหาร, เจ้าหน้าที่ตม. และตำรวจ สภ.มูโนะ เดินทางไปรอรับมอบตัวก่อนควบคุมตัวทั้งสองคนไปบันทึกการจับกุม และทำระเบียนประวัติตามขั้นตอนของผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับ
จากการสอบปากคำทั้ง “สองผัวเมีย”ให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี โดยรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ว่า ซื้อสินค้ามาจากประเทศจีน มีการขนส่งอย่างไร ขนย้ายอย่างไรข้ามด่านด้วยวิธีไหน ซึ่งจากการสอบถาม ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส ได้รับรายงานว่า การให้ปากคำของ ผู้ต้องหาทั้งสองคน เป็นประโยชน์อย่างมาก
ส่วนกรณีการสอบสวนขยายผลดำเนินการกับเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ทุจริตต่อหน้าที่ หลังสังคมเกิดความสงสัย และติดใจในจำนวนของพลุว่า ทำไมจึงมีปริมาณมากขนาดนี้ ซึ่งจากการสืบสวนพบว่า ในที่เกิดเหตุมีพลุมากถึง 400-500 กิโลกรัม ทั้งที่มีหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องต้องดูแลถึง 5-6 หน่วยงาน อาทิ กระทรวงกลาโหม กระทรวงมหาดไทย องค์การบริหารส่วนท้องถิ่น กระทรวงแรงงาน กระทรวงสาธารณสุข
ซึ่งจากนี้ไปต้องไล่ตรวจสอบตั้งแต่ต้นทาง ตั้งแต่ขั้นตอนของการนำเข้าว่า ได้สำแดงการนำเข้าถูกต้อง หรือไม่ มีการจดแจ้งจำนวนที่นำเข้ามาถูกต้อง หรือไม่ ขั้นตอนการขนส่งมีวิธีการขนส่งอย่างไร มีการอนุญาตจากขนส่ง หรือไม่ เช่น การขนย้ายจากแหลมฉบังไปโรงงานที่บางกล่ำที่ จ.สงขลา หรือขนย้ายจากบางกล่ำไปที่ จ.นราธิวาส ซึ่งเชื่อว่า ขั้นตอนการขนย้ายไม่ถูกต้อง แม้แต่โกดังที่เกิดเหตุ มีการขออนุญาตเป็นสถานประกอบการ แต่ในใบอนุญาตไม่ได้ระบุว่า เป็นการประกอบการอะไร
ดังนั้นเจ้าหน้าที่ทั้ง 5 หน่วยงานจะปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้ จะอ้างว่า ไม่มีคนแจ้ง จึงไม่ทราบไม่ได้ เพราะเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ทำการดูแล จึงต้องทำการตรวจสอบ ว่าสถานประกอบการดังกล่าว ดำเนินการถูกต้องตามกฏหมาย หรือไม่
ส่วนกรณีที่ผู้ต้องหาที่หลายคนสงสัยว่า ที่ผู้ต้องหาติดต่อขอมอบตัว อาจมีการตกลงเงื่อนไขกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ เรื่องการขอประกันตัวนั้น รองผบ.ตร. ยืนยันว่าไม่มีเงื่อนไขดังกล่าวแต่อย่างใด