'กองทัพเมียนมา' บุกโจมตี ทิ้งระเบิดฐาน กะเหรี่ยง KA ตามยึดคืนอาวุธ
"กองทัพเมียนมา" บุกโจมตีฐานที่มั่น "กะเหรี่ยงคะยา KA" อย่างหนัก หลังหน่วยเหนือสั่งการให้ติดตามยึดคืน ปืน ค.120 มม.ที่ถูกทหารกะเหรี่ยงคะยาและพันธมิตรยึดได้เมื่อเดือน มิถุนายน ที่ผ่านมา
6 ส.ค. 2566 สถานการณ์การสู้รบในพื้นที่ของรัฐคะยา ประเทศเมียนมา ยังคงมีความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง โดยแหล่งข่าวผู้นำระดับสูงกองกำลังกะเหรี่ยงคะยา KA เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า เมื่อวันที่ 5 ส.ค. 2566 ที่ผ่านมา ตั้งแต่เวลา 04.30 น. ทหารเมียนมา สังกัดกองพันทหารราบเบาที่ 80 ( พัน.ร.เบา 80 ) สังกัดกองพลงทหารราบเบา ที่ 66 ( พล.ร.เบา 66 ) ได้ทุ่มกำลังเข้าโจมตีฐานที่มั่นกะเหรี่ยงคะยา KA และ KNDF
ในการปะทะดังกล่าว กองกำลังทหารกะเหรี่ยงอิสระ KNU ได้ส่งกำลังมาช่วยเหลือ กองกำลังทหารคะยา จำนวน 1 กองร้อย ที่หมู่บ้านจ๊อกซู จ.บอลาแคะ ใกล้กับแม่น้ำสาละวิน ติดเขตพื้นที่ อ.ผาซอง จ.ลอยก่อว์ ห่างจากชายแดนไทยประมาณ 30 กม. โดยทั้งสองฝ่ายได้มีการปะทะอย่างหนัก จนถึงเวลา 13.00 น.การสู้รบจึงสงบลง
โดยระหว่างการสู้รบระหว่างทหารราบของทั้งสองฝ่าย ทางกองทัพอากาศเมียนมา ได้ส่งเครื่องบินขับไล่ จำนวน 3 ลำ มาโจมตีและทิ้งระเบิดใส่ฐานที่มั่นทหารกะเหรี่ยงคะยา โดยเครื่องบินขับไล่ซึ่งบินขึ้นจากฐานบินตองอูและฐานบินเนปีดอว์ ในเวลาประมาณ 11.00 น. จนถึง เวลา 14.00 น. จากการโจมตีทางอากาศของฝ่ายเมียนมา ทำให้ทหารกะเหรี่ยงคะยา เสียชีวิต 2 นาย และได้รับบาดเจ็บอีกจำนวน 7 นาย
เครื่องบินขับไล่ของกองทัพอากาศเมียนมา ได้ทิ้งระเบิดถูกทหารพวกเดียวกัน ส่งผลให้ทหารเมียนมาเสียชีวิต ไม่ต่ำกว่า 12 นายและได้รับบาดเจ็บอีกเป็นจำนวนมาก สำหรับทหารกะเหรี่ยงที่ได้รับบาดเจ็บ ที่อาการหนัก ได้ถูกส่งมารักษาตัวในไทย เนื่องจากถูกสะเก็ดระเบิดจากเครื่องบินที่ทิ้งลงมา
ล่าสุด ทหารเมียนมา เสริมกำลังที่ อ. ผาซอง 300 นาย สามารถข้ามมาฝั่งสาละวินมาทางด้านทิศตะวันออกแล้ว และที่ บ้านใหม่ (หยั่วติ๊ด ) อีกจำนวน 300 นาย ยังไม่ข้ามสาละวิน โดยเมื่อวานนี้ (5 ส.ค.2566 ) มีการปะทะ ที่ บ้านจ๊อกซู ตรงข้าม อ.ผาซอง และ บ้านป่าตึง ตรงข้ามช่องทางบ้านห้วยต้นนุ่น อ.ขุนยวม
ทั้งนี้ หน่วยเหนือของทหารเมียนมาได้มีคำสั่ง ให้ออกปฏิบัติการเพื่อยึดคืน ปืน ค.120 มม.จำนวน 7 กระบอก ที่ กกล.คะยา ดาวแดง พีดีเอฟ และ เคเอ็นยู ยึดไป คืนมาให้ได้ ปัจจุบัน ค.120 มม.อยู่กับกลุ่มดาว KNPLF , กองกำลังกะเหรี่ยงคะยา KA และ กองกำลัง KNDF ได้ทำการแจกจ่าย ปืน ค.120 มม.ให้กับ กองกำลัง KNU สังกัดกองพล 5 อีก 1 กระบอก ซึ่งการปฏิบัติการของทหารกะเหรี่ยงคะยา KA ร่วมกับ กลุ่มดาว KNPLF , กองกำลัง KNDF และ กองกำลัง KNU สามารถยึดปืน ค.120 มม.ได้จำนวน 7 กระบอก พร้อมด้วยกระสุนปืน ค. 120 อีก ประมาณ 12,000 นัด และคาดว่าจะมีการสู้รบอย่างหนัก และต่อเนื่องไปอีกนาน
ในส่วนของการสู้รบในรัฐคะยา ประเทศเมียนมานั้น เสียงระเบิดจากเครื่องบินที่ถูกทิ้งใส่ทหารกะเหรี่ยงคะยา ได้ยินมาถึงที่บ้านแม่เงา ต.แม่เงา อ.ขุนยวม จ.แม่ฮ่องสอน อย่างชัดเจน ทำให้ราษฎรไทยพากันตื่นตระหนก และไม่กล้าออกจากบ้านไปหาของป่าติดแนวชายแดนด้านดังกล่าวแต่อย่างใด
ศูนย์สั่งการชายแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้านด้านเมียนมา จังหวัดแม่ฮ่องสอน ออกแถลงการณ์ เรื่อง สถานการณ์ชายแดนพื้นที่ จ.แม่ฮ่องสอน ประจำวันที่ 5 ส.ค. 2566 เวลา 18.00น. สถานการณ์บริเวณพื้นที่แนวชายแดนจังหวัดแม่ฮ่องสอน ยังคงปรากฏข่าวสารการปะทะกัน ระหว่างทหารเมียนมา กับกองกำลังชนกลุ่มน้อย/กลุ่มต่อต้านรัฐบาลเมียนมา บริเวณตามแนวชายแดน พื้นที่ด้านตรงข้าม อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน และอำเภอขุนยวม จังหวัดแม่ฮ่องสอน
ผลกระทบที่เกิดขึ้นกับ จ.แม่ฮ่องสอน ผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมา (ผภสม.) ที่มีความกังวลจากสถานการณ์ในพื้นที่ ได้เดินทางเข้ามายังฝั่งไทย จำนวน 9,060 คน ในพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว จังหวัดแม่ฮ่องสอน จำนวน 5 พื้นที่ ดังนี้
1. พื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว บ้านเสาหิน หมู่ที่ 1 ตำบลเสาหิน อำเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอนยอดเดิม 3,187 คน ไม่มียอดเพิ่มเติม คงยอดปัจจุบัน 3,187
2. พื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว บ้านพะเเข่ หมู่ที่ 3 ตำบลแม่กิ๊ อำเภอขุนยวม จังหวัดแม่ฮ่องสอน ยอดเดิม 843 คน ไม่มียอดเพิ่มเติม คงยอดปัจจุบัน 843 คน
3. พื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว บ้านอุนูหมู่ที่ 4 ตำบลแม่คง อำเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน ยอดเดิม 316 คน ไม่มียอดเพิ่มเติม คงยอดปัจจุบัน 316 คน
4. พื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว บ้านจอปร่าคี หมู่ที่ 9 ตำบลแม่คง อำเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน ยอดเดิม 826 คน ไม่มียอดเพิ่มเติม คงยอดปัจจุบัน 826 คน
5. พื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว บ้านในสอย หมู่ที่ 4 ตำบลปางหมู อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน จังหวัดแม่ฮ่องสอน ยอดเดิม 3,886 คน ไม่มียอดเพิ่มเติม คงยอดปัจจุบัน 3,886 คน
ทศพล บุญพัฒน์ จ.แม่ฮ่องสอน