ทลาย 'แก๊งคอลเซ็นเตอร์' ไม่ถึงปีหลอกดูดเงินเหยื่อร่วม 300 ล้าน
ตำรวจไซเบอร์ เปิดปฏิบัติการ 'ล่าลวงหลอก' ขุดรากถอนโคน 'แก๊งคอลเซ็นเตอร์' หลอกเหยื่อมีพัสดุผิดกฎหมาย บุกค้น 2 จุด รวบ 15 ผู้ต้องหา ยึดทรัพย์ร่วม 10 ล้านบาท เผยไม่ถึงปีได้เงินเหยื่อร่วม 300 ล้านบาท จ่อหมายจับผู้สั่งการคนไทย อยู่ฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน
15 ส.ค. 2566 พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ผบช.สอท.) แถลงข่าวหลังเปิดปฏิบัติการ "ล่าลวงหลอก" ขุดรากถอนโคนขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ในพื้นที่อ.แม่สาย จ.เชียงราย หลังศาลอนุมัติหมายค้น 2 จุด และหมายจับผู้ต้องหาที่ทำหน้าที่กดเงิน และรับจ้างเปิดบัญชีม้า จำนวน 15 ราย
โดยสามารถจับกุมเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ได้ทั้งสิ้น 9 ราย แบ่งเป็น ผู้ที่ควบคุมบัญชี และกดเงินสด 4 ราย และบัญชีม้าอีก 5 ราย พร้อมยึดทรัพย์สินที่เชื่อว่าได้มาจากการกระทำความผิด 130 รายการ อาทิ เงินสด 1 ล้านบาท อายัดเงินในบัญชีธนาคาร 1.5 ล้านบาท รถยนต์ 2 คัน รถจักรยานยนต์ 2 คัน คอมพิวเตอร์ 2 เครื่อง และโทรศัพท์มือถือ 17 เครื่อง รวมมูลค่า 10 ล้านบาท
สำหรับพฤติการณ์ของแก๊งคอลเซ็นเตอร์รายนี้ จะโทรศัพท์หลอกลวงผู้เสียหาย โดยอ้างตัวเป็นพนักงานส่งพัสดุ แจ้งว่าพบสิ่งของที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด ถูกส่งมาในกล่องพัสดุ เช่นหนังสือเดินทางของชาวจีน 15 เล่ม และสมุดบัญชีธนาคาร ซึ่งระบุชื่อผู้เสียหายเป็นเจ้าของบัญชี
พัสดุดังกล่าว ถูกส่งจากต้นทางที่จ.ตาก ปลายทางจ.อุบลราชธานี ปรากฏชื่อผู้เสียหายเป็นผู้ส่งพัสดุ จากนั้นคนร้ายก็จะแจ้งให้ผู้เสียหายติดต่อกับตำรวจ ผ่านทางวิดีโอคอลในแอปพลิเคชั่นไลน์ ให้ผู้เสียหายเห็นคนร้ายเป็นใบหน้าของเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยใช้โปรแกรม Ai อ้างเป็นผู้กำกับการ สภ.เมืองตาก
จากนั้นเริ่มหลอกสอบถามข้อมูลส่วนตัว และเงินในบัญชีผู้เสียหาย หว่านล้อมว่า ผู้เสียหายกระทำความผิด ต้องโอนเงินเข้าบัญชีคนร้ายเพื่อตรวจสอบ โดยหนึ่งในผู้เสียหาย ที่มาแจ้งความโอนเงินไปทั้งสิ้น 9 ครั้ง เป็นเงินกว่า 2.8 ล้านบาท
จากการสอบปากคำผู้ต้องหา ที่จับกุมได้ รับสารภาพว่า ร่วมการกระทำความผิด เชื่อมโยงกับขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ รายใหญ่บริเวณชายแดนแม่สาย ฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน มาตั้งแต่ปลายปี 2565 จนถึงปัจจุบัน เงินจะถูกยักย้ายถ่ายโอนไปยังบัญชีม้า ไม่น้อยกว่า 5 แถว
โดยมี นางสาวพลอยมณี อายุ 20 ปี หนึ่งในผู้ต้องหา ที่จับกุมได้เป็นผู้ควบคุมบัญชีทั้งหมด และจะรับคำสั่งจากผู้สั่งการใหญ่ ในการสั่งกดเงินออกจากตู้เอทีเอ็ม ที่อ.แม่สาย จ.เชียงราย หากยอดเงินจำนวนมาก ก็จะสั่งให้ลูกน้องกระจายไปกดเงินหลายคน และนำเงินสดมามอบให้ที่บ้าน
ขณะที่ตำรวจเข้าตรวจค้นจับกุม ก็มีลูกน้องของน.ส.พลอยมณี กำลังนำเงิน 5 แสนบาท ที่เพิ่งกดได้มามอบให้ที่บ้าน โดยบางวันกดเงินที่หลอกมาได้สูงสุดถึง 10 ล้านบาทต่อวัน และตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาจนถึงขณะนี้ได้เงินไป 200-300 ล้านบาทแล้ว
เบื้องต้นตำรวจทราบตัวคนสั่งการแล้ว เป็นคนไทยที่อยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งตำรวจจะออกหมายจับ และประสานงานระหว่างประเทศในการติดตามจับกุมผู้สั่งการรายนี้มาดำเนินคดีต่อไป