'พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล' จาก เซลล์แมน สู่ ตำรวจ 'มือปราบสายธรรมะ'
เปิดเส้นทาง 'พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล' จาก เซลล์แมน สู่ ตำรวจ 'มือปราบสายธรรมะ' ผงาดนั่งเก้าอี้ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ คนที่ 14
เมื่อถึงเวลาเจ้ากรมปทุมวัน “บิ๊กเด่น” พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) จะเกษียณอายุราชการ 30 ก.ย. 2566 ปรากฎรายชื่อ นายพล 4 แคนดิเดต ที่เป็นตัวเต็ง ชิงเก้าอี้ ผบ.ตร. นอกจากอาวุโสลำดับที่ 1 ปรากฎชื่อ รองรอย พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ แล้ว ก็มีชื่อของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล หรือ รองต่อศักดิ์ ตัวเต็งชิงเก้าอี้ ผบ.ตร.คนที่ 14 ด้วย
พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล หรือที่สื่อเรียกกันว่า “รองต่อ” รองต่อศักดิ์ หรือ บิ๊กต่อ เกิดวันที่ 27 ม.ค. 2507 ปัจจุบันอายุ 59 ปี เป็นคน จ.เพชรบุรี โดยกำเนิด เกิดที่ อ.หนองหญ้าปล้อง มีพี่น้องทั้งหมด 5 คน โดยรองต่อเป็นคนสุดท้อง ในแวดวงตำรวจเป็นที่รู้จักกันดีว่า รองต่อ เป็นน้องชายของ พล.อ.อ.สถิตย์พงษ์ สุขวิมล ราชเลขานุการในพระองค์และเลขาธิการพระราชวัง และ สมรสกับนาง นิภาพรรณ สุขวิมล มีบุตรสาวด้วยกัน 2 คน
“ต่อศักดิ์ สุขวิมล” จบการศึกษาระดับประถมศึกษาจาก โรงเรียนพันธะศึกษา ระดับมัธยมศึกษาจาก โรงเรียนโยธินบูรณะ ระดับปริญญาตรี จาก คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รุ่นที่ 38 และจบปริญญาโท ศิลปศาสตรมหาบัณทิต จากมหาวิทยาลัยศรีปทุม
หลังเรียนจบ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ก็ใช่ว่าจะเริ่มต้นเส้นทางการเป็นตำรวจตั้งแต่แรก แต่รองต่อศักดิ์ ได้เข้าทำงานเป็นเซลล์แมน ในบริษัท น้ำมันคาลเท็กซ์ ทำอยู่ได้ 7 ปี และด้วยความชอบ ยิงปืน ออกกำลังกาย เล่นกีฬากลางแจ้ง และยิงปืนแม่นจนติดทีมชาติมาแล้ว เขาจึงตัดสินใจลาออก เพื่อเดินตามความฝันในวัยเด็ก คือการรับราชการตำรวจ โดยเข้าอบรมหลักสูตรการฝึกอบรมผู้มีคุณวุฒิทางด้านนิติศาสตร์ รัฐศาสตร์ รัฐประศาสนศาสตร์ เพื่อบรรจุแต่งตั้งเป็นข้าราชการตำรวจชั้นสัญญาบัตร (กอต.) รุ่นที่ 4 จนได้สวมเครื่องแบบตำรวจอย่างที่ตั้งใจไว้
เริ่มต้นเส้นทางสายตำรวจ
- ปี 2540 พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล เริ่มทำงานในเส้นทางตำรวจ ในตำแหน่งรองสารวัตร กองกำกับสายตรวจปฏิบัติการพิเศษ 191 เป็นเวลา 2 ปี
- ปี 2541 ได้รับการบรรจุเป็นรองสารวัตร สังกัดกองกำกับการสายตรวจ กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ หรือ 191 ในวัย 33 ปีเศษ ซึ่งถือว่าเริ่มต้นเป็นตำรวจด้วยอายุที่มากพอสมควร แต่สังกัด 191 ได้ไม่นาน ก็โยกไปอยู่กองกำกับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ หรือหน่วยคอมมานโด กองบังคับการปราบปราม ตั้งแต่เป็น ร.ต.ท.
- ปี 2548 ครบหลักเกณฑ์ขึ้นเป็นสารวัตรท่องเที่ยว 3 กองกำกับการ 1 ก่อนโยกกลับมาเป็นสารวัตรในตำแหน่งผู้บังคับกองร้อย 3 คุมรถวิทยุสายตรวจ กองบังคับการปราบปราม ภาคเหนือทั้งหมด
เป็นสารวัตรอยู่อีก 7 ปี ก็ขยับเป็นรองผู้กำกับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษในปี 2555 หลังจากนั้นอีก 4 ปีเศษ เขาก็ขยับขึ้นเป็นผู้กำกับการเต็มตัวในหน่วยเดิม
จากนั้นมา เขาได้รับการ "ยกเว้นหลักเกณฑ์" จาก ก.ตร. อย่างต่อเนื่อง ดังนี้
- เดือน มี.ค. 2561 ได้รับการยกเว้นหลักเกณฑ์ขึ้นเป็นรองผู้บังคับการกองปราบปราม
- เดือน ต.ค. 2561 ได้รับการยกเว้นหลักเกณฑ์ขึ้นเป็นผู้บังคับการตำรวจมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ 904 กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ทั้งๆ ที่หลักเกณฑ์วางไว้ ต้องเป็นรองผู้บังคับการไม่ต่ำกว่า 5 ปี
- วันที่ 27 ม.ค. 2562 ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่ประกาศสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปลี่ยนชื่อกองบังคับการถวายความปลอดภัยและปฏิบัติการพิเศษ เป็นกองบังคับตำรวจหมาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ 904
- วันที่ 27 เม.ย. 2562 มีพระราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม แต่งตั้งให้ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ดำรงตำแหน่ง ผู้บังคับการมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ 904
- เดือน ต.ค. 2562 ได้รับการยกเว้นหลักเกณฑ์ขึ้นชั้นเป็นรองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดยเป็นผู้บังคับการอาวุโสน้อยสุดจากรองผู้บังคับการทั้งหมดกว่า 400 นาย ไม่ต้องรอครบหลักเกณฑ์ 2 ปีตามกฏ ก.ตร.ว่าด้วยการแต่งตั้ง
- เดือน ก.ย. 2563 พล.ต.ท. ต่อศักดิ์ได้รับการแต่งตั้งเป็น ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ผบช.ก. โดยครบหลักเกณฑ์ เพราะ ก.ตร. กำหนดไว้เพียงว่ารองผู้บัญชาการจะเลื่อนขึ้นผู้บัญชาการต้องเป็นรองผู้บัญชาการมาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ปี
- จนกระทั่งเมื่อวันที่ 1 ต.ค. 2564 ได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็น ผู้ช่วยบัญชาการตำรวจแห่งชาติ
- 1 ต.ค. 2565 ได้เลื่อนขึ้นเป็น รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จนถึงปัจจุบัน
ที่มาฉายา “มือปราบสายธรรมะ”
ในระหว่างการปฏิบัติราชการตำรวจ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ได้รับฉายาต่างๆ มากมาย แต่สมญานามที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคงหนีไม่พ้น “มือปราบสายธรรมะ” โดยเมื่อวันที่ 25 ธ.ค. 2562 สมาคมผู้สื่อข่าวและช่างภาพอาชญากรรมแห่งประเทศไทย ได้ร่วมกับสำนักวิจัยซูเปอร์โพล ตัวแทนจากสื่อต่างๆ ร่วมกันคัดเลือก และพิจารณาตั้งฉายาตำรวจประจำปี 2562 โดย พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ได้รับฉายา “โรโบคอปสายบุญ”
ที่มาของฉายา เป็นเพราะ รองต่อ นอกจากจะเป็นมือปราบแล้ว ยังชอบทำบุญ และช่วยเหลือผู้อื่น โดยเขาเคยผลิตแก้วเยติขาย เพื่อนำเงินที่ได้ไปจัดซื้อเครื่องช่วยหายใจ มอบให้กับโรงพยาบาล ทั่วทุกภาค โดยถืออุดมคติที่ว่า “ธรรมที่แทรกซึมเข้าในจิตใจผู้ใด ย่อมนำความร่มเย็นเป็นสุขสู่สังคมบ้านเมือง”
จากเหตุกราดยิงหนองบัวลำภู เมื่อวันที่ 16 ต.ค. 2565 พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ได้เข้าร่วมพิธีพระราชทานเพลิงศพ พร้อมมอบเงินบริจาคจำนวนหนึ่งให้ผู้สูญเสียด้วย
และล่าสุด การเสียชีวิตของ ป้าต้อย เมืองนนท์ สาวสองสู้ชีวิต ที่ประสบอุบัติเหตุรถชน พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ก็รับเป็นเจ้าภาพงานศพ นั่นจึงเป็นเหตุผลเพียงพอ ที่ได้รับฉายา “โรโบคอปสายบุญ”
ทั้งนี้ ในศึกชิงเก้าอี้ ผบ.ตร. คนที่ 14 พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล จึงมาแรงมาวิน ที่จะผงาดนั่งเก้าอี้ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ คนที่ 14