รองปลัด ยธ. แจง 'ทักษิณ' ขอเปลี่ยน รพ.ไม่ได้ ยืนยันยังอยู่ 'รพ.ตำรวจ'
รองปลัด ยธ. ยืนยัน 'ทักษิณ' ยังอยู่ 'รพ.ตำรวจ' ขอเปลี่ยน รพ.ไม่ได้ ส่งเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ 4 นาย คอยคุ้มกันอยู่นอกห้องพัก เผยหลัง 5 วัน บุคคลสำคัญนอกเหนือจากญาติเข้าเยี่ยมได้
24 ส.ค. 2566 นายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยกรณีมีกระแสการย้ายตัว นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ออกจาก รพ.ตำรวจ ไปรักษายัง รพ.เอกชน ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานเข้ามา แต่ยืนยันยังไม่มีการส่งตัวออก และส่วนตัวมั่นใจว่า รพ.ตำรวจ มีศักยภาพในการดูแลรักษาได้ ซึ่งกรมราชทัณฑ์ได้ติดตามดูแลอาการอย่างใกล้ชิด เพราะนายทักษิณ ยังอยู่ในการควบคุมของเรือนจำ
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ไม่สามารถเผยแพร่ภาพของนายทักษิณ ขณะรับการรักษา เพราะมีกฎหมายคุ้มครอง ส่วนการรักษาความปลอดภัย มีเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ 4 นาย คอยคุ้มกันอยู่นอกห้องพัก
ส่วนกรณีที่สังคมตั้งข้อสังเกตว่า อาการป่วยของนายทักษิณ ทรุดลงหลังจากเข้าเรือนจำ นายสหการณ์ ชี้แจงว่า หากจินตนาการว่าต้องเข้าไปอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ถูกจำกัดสิทธิ จากที่กินอยู่สุขสบาย ก็อาจส่งผลให้ร่างกายมีปัญหาได้ ขณะนี้ยังไม่ได้ส่งจิตแพทย์เข้าไปดูแลอาการนายทักษิณ แต่แพทย์ได้รักษาอาการเจ็บป่วยตามประวัติการรักษาจากต่างประเทศ
รองปลัดกระทรวงยุติธรรม กล่าวอีกว่า สำหรับหลักเกณฑ์ในการเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ระหว่างรักษาตัวที่โรงพยาบาล ต้องเป็นไปตามที่เรือนจำกำหนด คือ ญาติที่สืบสายเลือดและครอบครัวเข้าเยี่ยมได้ไม่เกิน 10 คน โดยไม่ให้เข้าเยี่ยมใน 5 วันแรก และต้องแจ้งความจำนงมายังเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ก่อนปฏิบัติตามกติกาโรงพยาบาล คือเข้าเยี่ยมระหว่างเวลา 11.00-13.00 น. และ 17.00-19.00 น.ในวันปกติ หากอยู่โรงพยาบาลเกิน 5 วัน และมีบุคคลสำคัญนอกเหนือจากญาติ เช่น นักการทูต ต้องสอบถามตัวผู้ป่วยเองว่าอยากให้บุคคลนั้น เข้าพบหรือไม่
ส่วนการติดต่อสื่อสารใดๆ นายทักษิณ ต้องดำเนินการผ่านเจ้าหน้าที่ และให้แจ้งผ่านญาติ ทั้งนี้ นับแต่วันคุมขัง นายทักษิณ ยังไม่แจ้งความประสงค์ใด โดยตนได้พบเห็นนายทักษิณ ครั้งล่าสุดในวันรับตัวเข้าเรือนจำ สวมเสื้อเชิ้ตขาว กางเกงสแลคสีกรมท่า และยังไม่ได้เปลี่ยนชุด
นายสหการณ์ ที่ผ่านมาเมื่อมีนักโทษที่เป็นผู้ป่วยอาการวิกฤต เรือนจำทั่วประเทศได้ส่งตัวไปยังโรงพยาบาลแม่ข่ายระดับอำเภอ จังหวัด หรือภูมิภาค รวมถึงโรงพยาบาลตำรวจที่มีศักยภาพการรักษามาโดยตลอด เพียงแต่ไม่ได้เป็นบุคคลมีชื่อเสียงจึงไม่ปรากฎข่าว เนื่องจากกรมราชทัณฑ์ และ รพ.ตำรวจ มีบันทึกข้อตกลงร่วม (เอ็มโอยู) ที่ให้ส่งตัวผู้ป่วยเข้ารับการรักษา หาก รพ.ราชทัณฑ์ ไม่สามารถทำการรักษาได้ เพราะถือเป็นเรื่องปกติ ที่จะต้องยื้อชีวิตผู้ป่วยไว้ให้ได้ โดยจะมีแพทย์เป็นผู้วินิจฉัยการส่งตัว ร่วมกับราชทัณฑ์ ญาติไม่สามารถร้องขอให้ไปรักษาที่ รพ.ใดเองก็ได้