ข่าว

หวิด 'สูญเงินแสน' โชคดีลูกเปิดกล้องเจอ พ่อกดมือถือ ถึงกับร้องให้รีบวางสาย

หวิด 'สูญเงินแสน' โชคดีลูกเปิดกล้องเจอ พ่อกดมือถือ ถึงกับร้องให้รีบวางสาย

29 ส.ค. 2566

อดีตข้าราชการครู วัย 77 ปี หวิดเป็นเหยื่อ "มิจฉาชีพ" อ้างเป็น จนท.กรมบัญชีกลาง จะโอนเงินตกเบิกรวมกับของภรรยาที่เสียชีวิต สั่งให้ทำรายการในมือถือ จนเกือบสำเร็จ โชคดีลูกสาวดูวงจรปิด รีบตะโกนบอกให้พ่อวางสายนั่น "มิจฉาชีพ" เกือบสูญเงิน 2 แสนบาท

29 ส.ค.2566 นายสุรพงษ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 77 ปี อดีตข้าราชการครู ซึ่งมีบ้านพักอยู่ ต.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี เดินทางพบพนักงานสอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี เพื่อลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน หลังจากถูกมิจฉาชีพ อ้างตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่จากกรมบัญชีกลางโทรมาแจ้งว่า มีเงินสะสมตกเบิกของข้าราชการครูที่เกษียนทั้งของนายสุรพงษ์ และภรรยา ที่เสียชีวิตไปแล้ว รวมเป็นเงินจำนวนกว่าแสนบาท โดยมิจฉาชีพบอกว่า จะโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารเพียงทำรายการตามที่บอก 

 

ขณะที่หลงเชื่อกำลังกดโทรศัพท์ทำตามขั้นตอนเหลือเพียงกดตกลงเท่านั้น โชคดีที่ลูกสาวที่ทำงานเป็นครูอยู่ที่ จ.พิษณุโลก เปิดกล้องวงจรปิดมาดูพ่อพอดี จึงสามารถช่วยไว้ทันหวิดต้องสูญเงินในบัญชีจำนวนสองแสนบาทเศษแล้ว
 

 

อดีตข้าราชการครู ลงบันทึกประจำวัน หลังเกือบตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพหวิดสูญเงิน 2 แสน

 

 

สำหรับเล่ห์เหลี่ยมของมิจฉาชีพดังกล่าว นายสุรพงษ์ อดีตครูเกษียน เปิดเผยว่า เมื่อช่วงประมาณ 10.00 น. ของวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ขณะที่ตนดูทีวีอยู่ที่บ้านเพียงลำพัง มีโทรศัพท์เข้ามาปลายสายเป็นเสียงผู้ชาย สอบถามว่าคนรับสายเป็นลูกสาวหรือมีความเกี่ยวข้องกับคุณวัชรี ภรรยาของตน ซึ่งเสียชีวิตไปแล้ว 

 

 

อดีตข้าราชครู ลงบันทึกประจำวัน หวิดตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพ

 

นายสุรพงษ์ จึงบอกไปว่าตนเป็นสามี จากนั้นมิจฉาชีพคนดังกล่าวก็อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่กรมบัญชีกลาง ตรวจสอบพบว่า มีเงินสะสมใน กรมบัญชีกลาง ทั้งของตนเองและภรรยา ที่ยังไม่ได้เบิก คนละ 56,000 บาท ซึ่งไม่ต้องเดินทางไปรับ แต่จะโอนให้ โดยให้แจ้งหมายเลขบัญชีมา 

 

 

อดีตข้าราชครู  หวิดตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพ

 

 

นายสมพงษ์ บอกอีกว่าที่ตนเองหลงเชื่อ เพราะมิจฉาชีพ รู้ชื่อของตนและภรรยาที่เสียชีวิต จากนั้น ก็ทำตามที่บอกโดยกดโทรศัพท์ ไปเรื่อยๆ จนเกือบจะถึงขั้นตอนสุดท้าย จะต้องกดตกลงอีกแค่ 2 ครั้ง ปรากฏว่า ลูกสาวซึ่งอยู่ที่ จ.พิษณุโลก เปิดกล้องวงจรปิดไว้เพื่อดูพ่อ ถึงกับร้องเสียงดังมาว่า "คุณพ่อๆๆ ทำอะไร" ตนจึงบอกว่า เจ้าหน้าที่ฯ กรมบัญชีกลางจะโอนเงินสะสมมาให้ ลูกสาวร้องให้ตน รีบวางเลยนั่นมิจฉาชีพ ตนก็รีบวางสาย แต่ก่อนจะวางสายยังได้ยินเสียงมิจฉาชีพ ดังลอดออกมาจากโทรศัพท์ว่า เกือบจะสำเร็จแล้วเชียว

 

 

อดีตข้าราชครู หวิดตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพ

 

 

หลังจากเกิดเหตุ ลูกชายอีกคนจึงได้พาตนไปเปลี่ยนข้อมูลส่วนตัวทั้งหมดทั้งของธนาคารและเงินบำนาญ ซึ่งตอนนี้ ตนรู้สึกดีใจที่รอดมาได้ เพราะหากลูกสาวไม่เปิดกล้องดู ตนคงต้องสูญเงินในบัญชีจำนวน 200,000 บาทแน่นอน

 

 

 

 

 

 อุดม ปิดตาทานัง  จ.อุดรธานี