สลด สาว 21 ใจสลาย บ้าน 'ไฟไหม้' คลอกย่าทวด ลูกชาย 3 ขวบ ดับอนาถ
สลด สาววัย 21 ใจสลาย ออกไปซื้อก๋วยเตี๋ยว ปล่อยลูกชาย 3 ขวบ อยู่บ้านกับย่าทวด ผู้ป่วยติดเตียง เพื่อนโทรบอก บ้าน "ไฟไหม้" สุดท้ายช่วยไม่ทันไฟคลอกดับอนาถทั้งย่า ทั้งหลาน
6 ก.ย. 2566 เมื่อเวลา 11.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โคกสำโรงลพบุรี จ.ลพบุรี ได้รับแจ้งเหตุไฟไหม้บ้านเรือนประชาชน ภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่งใน ตำบลหลุมข้าว อำเภอโคกสำโรง จังหวัดลพบุรี หลังรับแจ้งจึงวิทยุให้เจ้าหน้าที่ดับเพลิง อบต.ห้วยโป่ง และรถน้ำในพื้นที่ใกล้เคียง ให้รีบเดินทางไปควบคุมเพลิง
บ้านที่เกิดเหตุอยู่ภายในซอยกลางชุมชน โดยไฟไหม้บ้านไม้ยกพื้นเสียหายทั้งหลัง โดยมี น.ส.อังคณา (สงวนนามสกุล) อายุ 21 ปี ยืนร้องขอความช่วยจากชาวบ้าน และเจ้าหน้าที่ ให้ช่วยย่าและลูกชายวัย 3 ขวบ ที่ยังคงติดอยู่ภายในกองเพลิงที่กำลังลุกไหม้บ้าน
ซึ่งไฟได้ลุกลามไหม้บ้านทั้งหมด จนเจ้าหน้าที่ไม่สามารถเข้าไปช่วยเหลือผู้ที่ติดอยู่ภายในบ้านออกมาได้ เจ้าหน้าที่ใช้เวลาดับไฟ นานประมาณ 30 นาที จึงสามารถสกัดไฟเอาไว้ให้อยู่ในวงจำกัดได้ แต่บ้านที่เกิดเหตุถูกไฟไหม้เสียหายทั้งหลัง
จากการตรวจสอบพบว่า บริเวณห้องด้านหลัง พบร่างผู้เสียชีวิตถูกไฟคลอก 2 ศพ ทราบชื่อต่อมาคือ นางชูศรี (สงวนนามสกุล) อายุ 68 ปี และ เด็กชายกวิน (สงวนนามสกุล) อายุ 3 ขวบ ทั้ง 2 เป็นย่า-หลานกัน
น.ส.อังคณา เปิดเผยว่าตนเองอาศัยอยู่ในบ้านที่เกิดไฟไหม้ กับยาย และลูกชาย โดยมีนางชูศรี ผู้เป็นย่าทวด ผู้ป่วยติดเตียง ซึ่งตนเองเป็นคนดูแล ส่วนลูกชาย คือ ด.ช.กวิน ก่อนเกิดเหตุตนได้ออกไปซื้อก๋วยเตี๋ยวให้ย่าทวด โดยปิดประตูห้องและนำเชือดมามัดเป็นห่วงกับประตูเอาไว้ เพราะกลัวว่าลูกชายออกจากบ้าน และอาจได้รับอันตราย
จนกระทั่งมีเพื่อนบ้านโทรศัพท์ไปบอกว่า ที่บ้านถูกไฟไหม้ ด้วยความตกใจจึงรีบขี่รถจักรยานยนต์กลับมาที่บ้าน กระทั่งมาถึงก็พบว่าไฟได้ลุกไหม้ไปทั้งหลังแล้ว โดยทั้งย่าทวด และลูกชาย ก็ยังติดอยู่ในบ้าน และถูกไฟคลอกจนเสียชีวิตในกองเพลิง
ขณะที่ นายบุญเรื่อง (ไม่ทราบนามสกุล) ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ขณะเกิดเหตุไฟไหม้ ตนกำลังอยู่ภายในห้องนอน กระทั่งได้กลิ่นควันไฟ และมีเสียงชาวบ้านตะโกนว่าไฟไหม้ ด้วยความตกใจจึงรีบวิ่งออกมาตรวจสอบ และพบว่าไฟได้ลุกลามไหม้บ้านหลังเกิดเหตุอย่างรวดเร็ว ซึ่งตนพยายามจะเข้าไปช่วยเหลือผู้ที่ติดอยู่ภายในบ้าน แต่ไม่สามารถช่วยได้ เนื่องจากไฟได้ลุกไหม้อย่างรุนแรง จึงรีบโทรศัพท์แจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้รับทราบ เพื่อขอความช่วยเหลือ
อย่างไรก็ตาม หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ประสานไปยังเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน เพื่อให้เดินทางเข้ามาตรวจสอบ และเก็บหลักฐานต่างๆ เพื่อหาสาเหตุของการเกิดเหตุไฟไหม้ในครั้งนี้ต่อไป
สมบูรณ์ พลับอินทนร์ จ.ลพบุรี