บิ๊กโจ๊ก เดือด 'พ.ต.ต.ศิวกร' ถูกยิงดับ หลักฐานถูกทำลาย-บี้ เอาผิด 21 ตร.
คดี "พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว" ตำรวจทางหลวง ถูกยิงเสียชีวิต พ.ต.ท.วศิน พันปี เจ็บสาหัส เหตุเกิดพื้นที่นครปฐม ชนวนจากมีปากเสียงในงานเลี้ยงของ "กำนันนก" เรื่องนี้ส่อลาม เมื่อ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร. ไล่เอาผิด 21 นายตำรวจ ละเลย ปล่อยหลักฐานในที่เกิดเหตุถูกทำลาย
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า คดี พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว สารวัตร สถานีตำรวจทางหลวง 1 กองกำกับการ 2 กองบังคับการตำรวจทางหลวง (บก.ทล.) ถูกยิงเสียชีวิต และ พ.ต.ท.วศิน พันปี รองผู้กำกับการ 2 บก.ทล. ถูกยิงได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดในพื้นที่ ต.ตาก้อง อ.เมือง จ.นครปฐม โดยคนร้ายที่ก่อเหตุในคดีนี้ คือ นายธนัญชัย หมั่นมาก หรือ "หน่อง" คนสนิทของ นายประวีณ จันทร์คล้าย หรือ "กำนันนก" กำนัน ต.ตาก้อง อ.เมือง จ.นครปฐม
โดยชนวนเหตุเรื่องนี้มาจาก " กำนันนก" เชิญตำรวจมาร่วมรับประทานอาหารที่บ้าน ก่อนมีการพูดคุยขอให้ช่วยวิ่งเต้น โยกย้ายตำแหน่งให้น้องเขย ซึ่งเป็นตำรวจทางหลวง ในสายงานสังกัดของ พ.ต.ต.ศิวกร ผู้เสียชีวิต แต่ถูกปฏิเสธ ทำให้เกิดความไม่พอใจ มีปากเสียงกันก่อนที่ นายธนัญชัย หรือ "หน่อง" ลูกน้อง "กำนันนก " จะใช้อาวุธปืนยิง พ.ต.ต.ศิวกร เสียชีวิต และ พ.ต.ท.วศิน บาดเจ็บ
ทั้งนี้ ข้อมูลเบื้องต้นต้องตรวจสอบกรณีที่มีตำรวจอยู่ในพื้นที่เกิดเหตุ 21 นาย แต่กลับได้รับรายงานจากศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 7 ว่า พบร่องรอยการทำลายพยานหลักฐาน ทั้งการเช็ดคราบเลือด การถอดกล้องวงจรปิด จึงต้องตรวจสอบตำรวจแต่ละนายที่อยู่ในที่เกิดเหตุ ซึ่งในจำนวนนี้ มีตำรวจระดับผู้กำกับการ 3 -4 นาย อีกทั้ง บางนาย มีต้นสังกัดอยู่ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร แต่กลับพบไปปรากฎตัวในพื้นที่เกิดเหตุด้วย และยังมีผู้กำกับการสืบสวนจังหวัดนครปฐม ที่เป็นผู้รับผิดชอบงานสืบสวนของทั้งจังหวัดร่วมอยู่ในที่เกิดเหตุ โดยจะต้องสอบสวนตำรวจทุกนาย ถึงสาเหตุที่ปล่อยให้มีการทำลายหลักฐาน และปล่อยให้ผู้ก่อเหตุหลบหนีไป
"ในทางคดี ได้รับรายงานแล้วถึงกรณี นายประวีณ จันทร์คล้าย หรือ "กำนันนก" ผู้ต้องหาตามหมายจับคดียิงตำรวจทางหลวงเสียชีวิต ประสาน รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม เข้ามอบตัวที่สถานีตำรวจภูธรเมืองนครปฐม อย่างไรก็ตามยืนยันว่า ไม่ใช่เงื่อนไขที่จะได้รับการประกันตัว ส่วน นายธนัญชัย ผู้ก่อเหตุ ที่ยังไม่ติดต่อเข้ามอบตัว ก็จะต้องติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดี โดยไม่จำเป็นต้องส่งสัญญาณใดไปยังผู้ก่อเหตุ แต่ได้กำชับผู้ใต้บังคับบัญชา ให้ระมัดระวังในการเข้าจับกุม เพราะผู้ก่อเหตุมีอาวุธ หากมีการต่อสู้ขัดขืน ให้ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย และอำนาจหน้าที่ ผมจะเดินทางไปยังสถานีตำรวจภูธรเมืองนครปฐม เพื่อติดตามคดี และตรวจสอบสำนวนการสอบสวนให้มีความรัดกุม เนื่องจาก กลุ่มผู้ต้องหา รู้จักข้าราชการในพื้นที่จำนวนมาก จึงต้องมีพยานหลักฐานยืนยันชัดเจน เพื่อให้สามารถสั่งฟ้องได้" พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าว
รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวอีกว่า จะให้เรื่องนี้ เป็นกรณีตัวอย่าง หากพบตำรวจรายใด ปล่อยปละละเลย และมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ก็ต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนสาเหตุที่มีการรวมกลุ่มของตำรวจทั้งหมด เบื้องต้น พบไปกินเลี้ยงกัน แต่ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด ว่ามีเรื่องการวิ่งเต้นแต่งตั้งโยกย้ายด้วยหรือไม่ โดยขอตรวจสอบรายละเอียดก่อน