เปิด 'เซิร์ฟเวอร์' วงจรปิดได้ 13 ตัว เร่งกู้อีก 2 ตัว ช่วงนาทีสำคัญเกิดเหตุ
พฐ. เปิด "เซิร์ฟเวอร์" กล้องวงจรปิดคืนเกิดเหตุนาทีสังหาร "สารวัตรแบงค์" ได้แล้ว 13 ตัว ช่วงชุลมุน หลังเกิดเหตุุ ต่างพากันวิ่งหนีกระเจิดกระเจิง ขณะที่บางส่วนนำตัวผู้บาดเจ็บ ส่งรพ. เร่งกู้อีก 2 ตัว ช่วงสำคัญ นาที "กำนันนก" สังการ
14 ก.ย.2566 เดินหน้าคลี่คลายคดียิง พ.ต.ต.ศิวกร สายยบัว หรือสารวัตรแบงค์ กันอยู่เต็มที่ โดยหลักฐานสำคัญที่ถูกถอดนำไปทิ้งน้ำเพื่อทำลายหลักฐาน ถูกส่งถึงมือเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญในกู้ไฟล์จากเซิร์ฟเวอร์ เพื่อจะได้ค้นหาความจริงว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างที่บ้าน กำนันนก ในคืนวันที่ 6 ก.ย. 2566
ทั้งนี้ สำนักงานพิสูจน์หลักฐาน ตำรวจระบุว่า กล้องวงจรปิดทั้งหมดในที่เกิดเหตุมีด้วยกัน 15 ตัว เจ้าหน้าที่สามารถกู้ภาพได้เพียง 13 ตัว เมื่อเปิดดูพบว่าภาพจากกล้อง 13 ตัวเป็นเพียงภาพเหตุการณ์ หลังจากที่นายธนัญชัย หมั่นมาก หรือหน่อง ลูกน้องคนสนิทของกำนันนก ที่ก่อเหตุยิง "สารวัตรแบงค์" ไปแล้ว จากวงจรปิดที่กู้ได้จะเห็นว่าหลังเกิดเหตุตำรวจที่ไปร่วมงาน และพลเรือนที่ไปร่วมงาน ต่างพากันตกใจวิ่งหนีแตกกระเจิงไปคนละทิศทาง
ขณะที่ภาพบางส่วนปรากฎภาพตำรวจกลุ่มหนึ่งได้เข้าช่วยเหลือ นำร่างของสารวัตรแบงค์ที่ถูกยิงได้รับบาดเจ็บขึ้นรถยนต์ โตโยต้า คัมรี่ เพื่อนำตัวส่งโรงพยาบาลใกล้เคียงให้เร็วที่สุด และยังปรากฎภาพตำรวจอีกกลุ่มได้นำร่างของ พ.ต.ท.วศิน พันปี รองผกก.2 บก.ทล. ที่ถูกยิงได้รับบาดเจ็บอีกคนขึ้นรถกระบะเพื่อนำตัวส่งโรงพยาบาลเช่นกัน
สำหรับกล้องวงจรปิดที่เหลืออีก 2 ตัวที่ยังไม่สามารถกู้ภาพได้นั้น ปรากฎว่า เป็นกล้องวงจรปิดที่อยู่ในมุมสำคัญ ในช่วงเวลาตามคำให้การของพยานแวดล้อมที่ระบุว่า กำนันนกได้มีการสั่งการให้ หน่อง ลงมือสังหาร สารวัตรแบงค์ และเป็นช่วงเวลาที่หน่องเดินไปหยิบปืนที่รถ เพื่อนำมาก่อเหตุ
"กล้อง 2 จุดที่ถือเป็นไฮไลต์สำคัญของเหตุการณ์นั้น อยู่ระหว่างการกู้ ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเร่งดำเนินการ ซึ่งคาดว่าจะเสร็จสิ้นภายในคืนนี้ ซึ่งหลังจากกู้ภาพได้แล้วไฟล์ทั้งหมดจะถูกนำส่งให้ทางตำรวจภูธรภาค 7 ใช้เป็นหลักฐานสำคัญทางคดีเอาผิดผู้ที่เกี่ยวข้องได้"